เชียงดาวออกกฏ ห้ามเข้า!ป่าสงวนฯ ฝ่าฝืนเผาโทษหนัก

เชียงดาวคุมเข้มห้ามเข้า พื้นที่ป่าสงวนฯหลัง hotspot พุ่งวันเดียว 14 จุด ด้าน นอภ.เรียกประชุมด่วนหาแนวทางแก้ไข

นายสนั่น เผือกพันธ์ุ หน.หน่วยสงเสริมควบคุมไฟป่าเชียงดาว เปิดเผยว่า หน่วยส่งเสริมควบคุมไฟป่าเชียงดาว จ.เชียงใหม่ สังกัดกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานที่ดูแลและรับผิดชอบเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านปัญหาหมอกควัน ไฟป่าในพื้นที่ 7 อำเภอโซนเหนือของ จ.เชียงใหม่ คือ แม่แตง เชียงดาว พร้าว เวียงแหง ไชยปราการ ฝาง และ แม่อาย ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาของอำเภอต่างๆ ยังพอควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันได้ดีพอสมควร

แต่ปรากฏว่าในช่วงนี้ อ.เชียงดาว มีปัญหาการเกิดจุด hot spot ขึ้นในพื้นที่มากกว่าปกติ ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 17 มีนาคม ค่า hot spot เพิ่มมากขึ้นถึง 14 จุดภายในวันเดียว จนไม่สามารถมองเห็นดอยหลวงเชียงดาวได้ และในช่วงที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ลาดตระเวนพบว่ามีราษฏรในบางพื้นที่ เข้าไปตัดไม้ไผ่และมีการจุดไฟเผา หน่วยส่งเสริมควบคุมไฟป่าเชียงดาว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยผลผลิตป่าไม้ จ.เชียงใหม่ ได้เข้าทำการชี้แจงข้อกฏหมายและสั่งห้ามบุคคลหนึ่งบุคคลใดเข้าไปในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเชียงดาว ในช่วงวิกฤติปัญหาหมอกควันและไฟป่าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 20 เมษายน 2560 หากมีการฝ่าฝืนเจ้าหน้าที่ จะดำเนินการตามกฏหมายว่าด้วยการป่าไม้โดยเฉียบขาด และหากพ้นช่วงกำหนดดังกล่าว หากยังมีการจุดไฟป่าอีก ก็จะดำเนินการในลักษณะดังกล่าวต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น

ดังนั้นหน่วยส่งเสริมควบคุมไฟป่าเชียงดาว ได้พิจารณาแล้ว จึงประสานนายอำเภอเชียงดาว เพื่อให้กำนันผู้ใหญ่บ้านทุกแห่ง ประกาศเสียงตามสายและประชาสัมพันธ์ ผ่านสถานีวิทยุในท้องถิ่นเพื่อให้ประชาชนได้ทราบโดยทั่วกัน เพื่อให้ อ.เชียงดาว อากาศสดใสไร้หมอกควัน 60 วันห้ามเผาเราทำได้

ในส่วนสาระสำคัญของประกาศกรมป่่าไม้ มีเรื่องกำหนดมาตรการป้องกันไฟป่าและหมอกควัน ระบุว่า หากพบไฟป่าบริเวณใดให้ช่วยกันดับโดยเร็ว เพื่อมิให้ไฟขยายเป็นวงกว้าง หากไฟรุนแรงไม่สามารถดับได้ ให้รีบแจ้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าไปดับไฟให้ทันการณ์ ส่วนกรณีการจุดไฟเผาป่า หรือปล่อยให้ลุกลามเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000 – 200,000 บาท กรณีเผาเกิน 25 ไร่ จำคุก 4-20 ปี ปรับ 200,000 – 2,000,000 บาท

ข่าวรายงานว่าการออกมาตรการห้ามเข้าไปในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเชียงดาวในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่ได้ไปจำกัดสิทธิเสรีภาพของชาวบ้านในการทำมาหากินโดยสุจริต แต่มุ่งหวังควบคุมตรวจสอบผู้ลักลอบจุดไฟเพื่อหาของป่า หากเจ้าหน้าที่พบบุคคลในเขตป่าสงวนแห่งขาติ จะต้องถูกทำการลงบันทึกข้อมูล อธิบายสาเหตุเข้ามาในพื้นที่หวงห้าม และจะต้องถูกควบคุมตัวไว้อย่างน้อยๆ 30 นาที หากมีไฟไหม้บริเวณละแวกดังกล่าว ก็จะตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาทันที หรือหากไม่สามารถให้คำตอบหรือเหตุผลที่เข้าไปในเขตป่าสงวนได้ ก็จะถูกเชิญตัวออกจากป่าและหากไม่เชื่อฟังให้ทำบันทึกการจับกุมทันที

ล่าสุดนายสราวุฒิ วรพงษ์ นาย อ.เชียงดาว ได้แจ้งถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หน.หน่วยสังกัดกรมป่าไม้ และหน่วยไฟป่าทุกหน่วยร่วมปรึกษาหารือทบทวน พร้อมเตรียมแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการควบคุมไฟป่า ในวันจันทร์ที่ 20 มีนาคม 2560 เวลา 09.30 น. ณ.หอประชุมที่ว่าการ อ.เชียงดาว

ร่วมแสดงความคิดเห็น