สกุ๊ปหน้า1…ลำพูนเตรียมการ แก้ปัญหาภัยแล้ง

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 22 มี.ค.60 ที่ศาลากลางจังหวัดลำพูน นายวีระชัย ภู่เพียงใจ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้ประชุมหัวหน้าส่วนราชการเกี่ยวข้อง เพื่อหารือเตรียมการป้องกันและแก้ปัญหาภัยแล้ง สถานการณ์น้ำ ในแหล่งน้ำสำคัญของจังหวัดลำพูน ที่อ่างเก็บน้ำแม่สาน, แม่ตีบ, แม่ธิ และแม่เมย ณ วันที่ 21 มีนาคม 2560 พบว่า มีปริมาณน้ำลดลง โดยมีน้ำที่เก็บกักใช้ได้รวม 14.23 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 40ด้านการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง นอกเขตชลประทาน ปี59/60 ที่จังหวัดลำพูน มีการเพาะปลูกพืชรวม 24,922 ไร่ ได้แก่ ข้าวนาปรัง 7,854 ไร่, พืชไร่ 3,785 ไร่ ประกอบด้วย ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 462 ไร่ ถั่วเหลือง 148 ไร่ ถั่วเขียว 24 ไร่ ถั่วลิสง 74 ไร่ และพืชไร่อื่นๆ 3,077 ไร่, พืชผักเพาะปลูก 13,283 ไร่ ได้แก่ ข้าวโพดฝักอ่อน 202 ไร่ ข้าวโพดฝักสด 2,345 ไร่ และพืชผักอื่นๆ 10,736 ไร่

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดลำพูน ได้รายงานข้อมูลหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งซ้ำซาก ตั้งแต่ปี พ.ศ.2557-2559 รวม 272 หมู่บ้าน อยู่ใน 29 ตำบล หมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งซ้ำซากมากที่สุด อยู่ที่ อำเภอลี้ รวม 78 หมู่บ้าน รองลงมา คือ อำเภอแม่ทา มีหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งซ้ำซาก 71 หมู่บ้าน ใน 6 ตำบล ซึ่งนับเป็นหมู่บ้านที่ต้องเฝ้าระวัง และเตรียมให้การช่วยเหลือ

ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า ในการป้องกันและแก้ปัญหาภัยแล้ง จังหวัดมุ่งให้ประชาชนมีน้ำใช้อุปโภคบริโภคได้อย่างเพียงพอ หากขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ก็จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำรถบรรทุกน้ำไปแจกจ่ายให้อย่างทั่วถึง สำหรับเกษตรกร จังหวัดได้ขอความร่วมมืองดปลูกพืชที่ใช้น้ำมาก เพื่อเป็นการประหยัดน้ำ หากมีความจำเป็นที่ต้องใช้น้ำในปริมาณมาก ควรหาแหล่งน้ำสำรองเผื่อไว้ เพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนน้ำ ในการป้องกันและแก้ปัญหาภัยแล้ง จังหวัดลำพูน ได้จัดทำโครงการคนลำพูนสร้างฝายถวายพ่อ เพื่อเถิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อเก็บกักน้ำ เพื่อสร้างความชุ่มชื้นความอุดมสมบูรณ์แก่พื้นดิน และเพื่อป้องกันปัญหาภัยแล้ง มีแผนก่อสร้าง 252 แห่ง ขณะนี้ก่อสร้างเสร็จ 107 แห่ง อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 145 แห่ง

ทางด้านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดลำพูน (สวท.ลำพูน) นายวีระชัย ภู่เพียงใจ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน, นายสุวรรณทัสน์ ธนัญชัย ผอ.สำนักงานทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลำพูน, นางจําเนียร แสนราชา เกษตรจังหวัดลำพูน และ ผอ.สำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาลำพูน ร่วมรายการ พิเศษ “ธารน้ำใจ ดับไฟป่า” เพื่อร่วมรณรงค์ ให้ประชาชน และหน่วยงานภาครัฐ ร่วมสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ ของชุดลาดตระเวนดับไฟป่า โดยการบริจาคน้ำดื่ม เครื่องดื่มชูกำลัง อาหารแห้ง และ สิ่งของจำเป็น ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าในพื้นที่จังหวัดลำพูน ซึ่งในวันนี้มีหน่วยงานราชการ, หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ, องค์กรเอกชน และประชาชน นำน้ำดื่ม เครื่องดื่มชูกำลัง และอาหาร มาบริจาค ได้แก่ บริษัทมูราตะอิเล็กทรอนิกส์, สำนักงานทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลำพูน, สำนักงานเกษตรจังหวัดลำพูน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาลำพูน, สำนักงานขนส่งจังหวัดลำพูน และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตจังหวัดลำพูน

ในการป้องกันปัญหาหมอกควันไฟป่า จังหวัดลำพูน ได้กำหนดให้พื้นที่ทุกหมู่บ้าน ตำบล อำเภอในท้องที่จังหวัดลำพูนเป็นเขตควบคุมไฟป่าและกำหนดมาตรการในการป้องกันไฟป่าขึ้น โดยการประกาศกำหนดเขตควบคุมไฟป่าในท้องที่จังหวัดลำพูน และจัดให้มีเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจดับไฟป่า ให้ปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งจังหวัดได้ประกาศ มาตราการห้ามเผาเด็ดขาดในช่วงวิกฤต โดย ห้ามเผาขยะ วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรในที่โล่ง ในช่วง 60 วัน ตั้งแต่ 15 กุมภาพันธ์–15 เมษายน 2560, การระดมสรรพกำลัง ลาดตระเวน เฝ้าระวัง และดับไฟ เพื่อป้องกันการลุกลามของไฟในพื้นที่เสี่ยง, การสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเพาะปลูกและลดการเผาเศษวัสดุภาคการเกษตร, การส่งเสริมกลไกประชารัฐและมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ และรณรงค์ประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้เข้าถึงพื้นที่เสี่ยงและชุมชนเป้าหมาย

สำหรับสถานการณ์ ปัญหาหมอกควันไฟป่า ในจังหวัดลำพูน เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2560 เกิดเหตุเพลิงไหม้ ป่าดอยกานและสวนลำไย ที่บ้านห้วยแพ่ง หมู่ 12 ตำบลบ้านโฮ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า และเจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในอำเภอบ้านโฮ่งได้สนธิกำลัง ร่วมกันควบคุมไฟไว้ได้ ประเมินความเสียหายจำนวน 300 ไร่ ซึ่งประชาชนที่ต้องการสนับสนุนการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า สามารถนำน้ำดื่ม, อาหารแห้งมาร่วมสนับสนุน ที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดลำพูน Fm 95.0 Mhz หมายเลขโทรศัพท์ 053– 525565 และหากผู้ใดพบเห็นเหตุไฟไหม้ป่า สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 191

เจ็ดขุนพล

ร่วมแสดงความคิดเห็น