ถ้าจะกล่าวถึงตะกรุดโทนของล้านนาที่ขึ้นชื่อไม่เป็น 2 รองใคร เต็มไปด้วยมนต์ขลังทางด้านเสน่ห์เมตตา คนรักคนหลง คงจะไม่มีใครเกินตะกรุดโทนม้าเสพนางเป็นแน่ครับ ตะกรุดโทนม้าเสพนาง มีการสร้างขึ้นตามตำราครูบาอาจารย์สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังรวมทั้งด้วยประสบการณ์มากมาย คงจะต้องยกให้ ตะกรุดโทนม้าเสพนาง ครูบา พรหมเสโนวัดบ้านเด่น จังหวัดตาก ตะกรุดโทนม้าเสพนางของท่านสร้างขึ้นเอาไว้แจกให้ลูกศิษย์ลูกหานำไปใช้บูชา ติดตัวต่างกล่าวขานกันเป็นเสียงเดียวกันว่าเห็นผลทางเรื่องเสน่ห์เมตตายิ่งนักแถมยังแคล้วคลาดปลอดภัยอีกด้วย ครั้งก่อนผมได้นำเสนอประวัติส่วนหนึ่งของท่านไปแล้ว ตอนนี้ผมจะนำเสนอวิธีการเลือกดูตะกรุดโทนม้าเสพนางกันครับ ตะกรุดโทนม้าเสพนาง ครูบาวัง วัดบ้านเด่นยุคต้น มีการสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสองพันสี่ร้อยปลายๆเรื่อยมาจนถึงปีหนึ่งกว่า ตะกรุดโทนม้าเสพนาง ยุคต้นมีการสร้างขึ้นหลายขนาด ตั้งแต่2นิ้วขึ้นไปครับครูบาวังท่านจะนำวัสดุที่หาได้ เช่นเนื้อทองฝาบาตรที่สามารถหาได้ในท้องที่เพราะสมัยก่อนยังไม่มีความเจริญเหมือนสมัยนี้การจะจัดหาวัสดุค่อนข้างหายากก็จะใช้วัสดุเท่าที่มีนำมาทำแต่ที่ทำมาเป็นมาตรฐานก็จะเป็นเนื้อทองแดงครับ
ตะกรุดยุคต้นมักจะสังเกตได้ง่ายๆว่าท่านจะใช้แผ่นทองแดงนำมารีดมือแบบชาวบ้านๆตะกรุดต่างๆจึงมีที่มีขนาดหนาพอสมควรไม่ว่าจะเป็นตะกรุดพับและตะกรุดต่างๆรวมถึงตะกรุดโทนม้าเสพนางครับถ้าคนเคยเห็นจะจำได้มันมีเอกลักษณ์เฉพราะตัว ขั้นตอนในการสร้างตะกรุดโทนม้าเสพนาง ครูบาวังท่านจะดูฤกษ์ดูยามที่มีความเหมาะสม แล้วจะนำแผ่นทองแดงที่ลูกศิษย์ได้มีการจัดเตรียมมาแล้ว นำมาลงอักขระเลขยันต์ คาถาม้าเสพนางที่ท่านได้เล่าเรียนมาจารคาถาอักขระจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำมาม้วนอย่างดีครูบาวังท่านก็จะอธิษฐานจิตกำกับอีกครั้งก็เป็นเสร็จอันเสร็จพิธี ท่านจะแจกให้ลูกศิษย์นำไปใช้ส่วนมากท่านจะทำให้กับลูกศิษย์ลูกหาที่ยังเป็นคนหนุ่มคนโสดเท่านั้น เพราะคาถาม้าเสพนางมักให้แสดงผลทางด้านรักๆใคร่ๆมี เสน่ห์เมตตาอย่างมาก คนรักคนหลงติดต่อเจรจา เพราะฉะนั้นท่านจึงไม่ทำให้คนที่มีครอบครัวแล้ว และจะกำกับลูกศิษย์อย่างเคร่งครัดเพราะอาจจะนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูก ทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาได้ครับ
ตะกรุดโทนของครูบาวัง ท่านมีวิธีในการสังเกตไม่ยุ่งยากมากนัก แต่ก็ต้องอาศัย ความละเอียดในการสังเกตให้มากเพราะตะกรุดของท่านอาจมีความคล้ายคลึงกับตะกรุดของอาจารย์ต่างๆหลายสำนักครับ การดูขั้นแรกต้องดูที่เนื้อทองแดง ว่ามีความเก่าถึงยุคหรือไม่ และต้องดูที่สีของทองแดงครับตะกรุดโทนม้าเสพนาง ของท่านมีเอกลักษณ์บางดอกจะมีสีแดงจัดเหมือนเนื้อทองแดงเถื่อนครับ ตะกรุดของท่านมักมีเอกลักษณ์ในการทำก็คือทั้นจะตัดที่ปลายของแผ่นทองแดงทั้งสองข้องท่านจะตัดที่ปลายเข้ามาหาตัว เป็นลักษณะเฉพาะตะกรุดของท่านที่ผ่านมือมาถ้าเป็นม้าเสพนาง90%มักจะต้องตัดที่ปลายแต่ก็มีที่ไม่ได้ตัดก็มีครับแต่จะพบได้น้อยมากบางดอกจารนอกในหัวท้ายลายมือท่านชัดเจนทำให้พิจารณาง่ายขึ้นอีกแต่พบเห็นน้อยมากตะกรุดม้าเสพนาง ยุคหลังๆที่มีการสร้างตะกรุดโทนม้าเสพนางในปี2500สิบกว่าศรัทธาเรื่อมเยอะและยังทำออกให้บูชาเพื่อนำปัจจัยมาสร้างถาวรวัตถุต่างๆภายในวัดจึงทำไม่ทันท่านก็จะมีลูกศิษย์ที่ใกล้ชิด ช่วยในการทำตะกรุด ตะกรุดที่ท่านทำในยุคหลังก็จะมีวิธีในการทำที่เหมือนเดิมแต่ตัวตะกรุดจะมีความบางลงอย่างเห็นได้ชัดครับทั้งนี้ในการเลือกที่จะหาตะกรุดโทนม้าเสพนางนำมาบูชาติดตัวซักดอกต้องอาศัยการดูที่ละเอียดมากๆในทุกขั้นตอนครับผมแนะนำว่าต้องเห็นของแท้บ่อยๆครับ จึงจะจำได้ขึ้นใจก็จะแยกแยะได้อย่างชัดเจนทั้งนี้ก็ต้องดูที่มาที่ไปด้วยนะครับว่าได้มายังไง ถึงจะได้ตะกรุดโทนม้าเสพนางของแท้มาบูชาแบบนอนหลับฝันดีครับ ทั้งนี้ถ้ายังหัดดูใหม่ไม่มีความชำนาญผมขอแนะนำว่าควรเข้าหาผู้รู้สายตรงจะเป็นการดีที่สุดครับขอบคุณรูปตะกรุดโทนม้าเสพนางสวยๆจากร้าน เอราวัณ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ สัปดาห์อย่าลืมติดตามอ่านเครื่องรางล้านนาล้ำค่าหายากกันนะครับผมรับรองว่าสนุกทุกเนื้อหาและสาระอย่างแน่นอนครับห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ
ตั้ม เชียงใหม่
ล้านนาแกลอรี่
ร่วมแสดงความคิดเห็น