ก.เกษตรเข้มสุ่มตรวจ ยกระดับมาตรฐานสินค้า

ก.เกษตรฯ เข้มสุ่มตรวจสินค้าเกษตร บูรณาการร่วมกัน 3 หน่วยงาน เพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ หวังให้ผู้บริโภคได้จับจ่ายสินค้าเกษตรคุณภาพเพื่อการบริโภคที่ปลอดภัย ในช่วงเทศกาลสงกรานต์

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มุ่งเน้นให้ปี 2560 เป็นปีแห่งการยกระดับสินค้าเกษตรสู่ความมั่นคง ประกอบด้วยนโยบายที่สำคัญหลายด้าน อาทิ โครงการส่งเสริมเกษตรทฤษฎีใหม่ โครงการเกษตรอินทรีย์ การบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning) การส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ และการยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตร เป็นต้น รวมทั้งยังได้เน้นย้ำให้หน่วยงานในสังกัดร่วมกันทำงานแบบบูรณาการทุกภาคส่วน เพื่อให้มีความก้าวหน้าและเห็นผลเป็นรูปธรรม และเพื่อให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นมาตรการที่กระทรวงเกษตรฯ ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาโดยมาตลอด โดยเฉพาะในช่วงที่ผู้บริโภคมีการจับจ่ายซื้อหาสินค้าเกษตรเพื่อการบริโภคมากอีกช่วงหนึ่งอย่างเทศกาลสงกรานต์ กระทรวงเกษตรฯ จึงได้บูรณาการร่วมกันกับ 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมปศุสัตว์ กรมวิชาการเกษตร และกรมประมง ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจเข้มด้านมาตรฐานสินค้าเกษตร โดยกำหนดให้วันที่ 1 – 7 เมษายน 2560 เป็นสัปดาห์แห่งการเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยด้านอาหาร โดยเน้นการดำเนินงานตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

ด้าน นายอภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมปศุสัตว์ได้วางแผนการดำเนินการตั้งแต่ การตรวจสอบฟาร์ม/โรงงานผลิตอาหารสัตว์ อาหารสัตว์นำเข้า สถานที่จำหน่าย สถานที่แปรรูป รวมทั้งการขับเคลื่อน พรบ. ควบคุมโรงฆ่าสัตว์ที่ช่วยขับเคลื่อนนโยบายให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น และเป็นไปตามเป้าหมายของกรมปศุสัตว์ในปี 2562 รวมทั้งการลงพื้นที่สุ่มเก็บตัวอย่างยังสถานที่จำหน่าย อาทิ โมเดิร์นเทรด ตลาดต่างๆ ซึ่งบูรณาการร่วมกัน 3 หน่วยงาน ทั้งสินค้าพืช ประมง และปศุสัตว์

ขณะที่ นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตรได้มุ่งเน้นการตรวจสอบโรงงานผลิตปุ๋ย และวัตถุอันตราย โดยจะมีมาตรการตรวจสอบความถูกต้อง ว่าตรงตามที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้หรือไม่ ส่วน การสุ่มตรวจสารตกค้างในสินค้าประเภทพืชผัก เป็นมาตรการตามแผนการดำเนินงานในปี 2560 โดยมีเป้าหมายสุ่มตรวจ 9,500 ตัวอย่าง ซึ่งทั้งหมดถือเป็นการสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภค ในการเลือกซื้อสินค้าเกษตรปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์อีกทางหนึ่ง

และ นายมีศักดิ์ ภักดีคง รองอธิบดีกรมประมง กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมประมงเข้มงวดกวดขันตั้งแต่มาตรฐานฟาร์มเพาะเลี้ยง ร้านค้าปัจจัยการผลิต ตลอดจนสถานที่จำหน่ายสินค้าประมง นอกจากนี้ยังได้แนะนำการเลือกซื้อสินค้าประมงโดยเน้นเลือกซื้อสินค้าที่มีความสด เลือกซื้อจากร้านค้าที่มีความสะอาด เพื่อให้ได้สินค้าประมงที่มีคุณภาพและปลอดภัย

นอกจากนี้ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ยังได้เตรียมจัดงานตลาดเกษตรอินทรีย์ในวันที่ 26 มีนาคม 2560 นี้โดยจะแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งของตลาด อ.ต.ก. ย่านพหลโยธิน ประมาณ 450 ตารางเมตร บริเวณข้างธนาคารกรุงไทย เป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์คุณภาพ สินค้าเกษตรแปรรูป และกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายสินค้า ทั้งปลีกและส่งแบบครบวงจรด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น