กดจุด ฝังเข็ม ทางเลือกใหม่ ในการดูแลสุขภาพ

การแพทย์ทางเลือกหมายถึงการรักษาความเจ็บป่วยด้วยวิธีการใดๆ ก็ตามที่ไม่ใช่แผนปัจจุบัน แต่ถึงแม้ไม่ใช่วิธีของแพทย์แผนปัจจุบัน แต่ก็ได้อ้างอิงทฤษฎีการแพทย์แผนปัจจุบันหลายอย่าง เพียงแต่วิธีการปฏิบัติอาจจะไม่เหมือนแพทย์แผนปัจจุบัน ศาสตร์การแพทย์แผนจีนจะมีการรักษาแบบองค์รวม รวมถึงการฝั่งเข็มรักษาโรค ใช้สมุนไพรจีน การครอบแก้ว และการอบสนุนไพร โดยการรักษาศาสตร์แบบจีนมีมาตั้งแต่โบราณเกือบ 4,000 กว่าปี ในเรื่องของการฝังเข็มองค์การอนามัยโลกได้รับรองทั้งหมด 28 ประเทศ จุดเด่นจะเป็นการรักษาอาการปวดเป็นหลัก รวมถึงการไหลเวียนของเลือดและลมปราณในร่างกายของมนุษย์

พทป.ผดุงพล สุคนธมนตรีกุล แพทย์แผนไทยประยุกต์ (แอสต้าแพทย์ทางเลือกสหคลินิก :Asta alternative Medicine Clinic) เปิดเผยว่า ปัจจุบันหลายคนหันให้ความสนใจในแพทย์ทางเลือกมากขึ้น เนื่องจากเมื่อก่อนตอนที่อยู่ในระบบของโรงพยาบาลอาจจะทำให้คนไข้และหมอไม่สามารถสื่อสารกันได้อย่างทั่วถึง แต่เมื่อมีการเป็นคลินิกจึงช่วยให้คนไข้หรือผู้ที่มาใช้บริการกับหมอได้มีการสื่อสารกันมากขึ้น ทำให้ทราบถึงปัญหาคนไข้อย่างแท้จริง ยกกรณีอย่างเช่น บางรายอาจจะไม่ต้องทานยาหรือถ้ารู้จักวิธีการดูแลตัวเอง ก็อาจจะไม่ต้องมารักษาที่คลินิกสามารถรักษาตนเองและเรียนรู้ที่จะอยู่กับโรคได้อย่างมีความสุขเพราะบางโรคไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

สำหรับคลินิกแพทย์ทางเลือก เป็นคลินิกสำหรับการกดจุด ฝังเข็ม และรวมถึงการใช้สมุนไพรไทยจีน ซึ่งตอนนี้ในเชียงใหม่ก็มีคลินิกแพทย์ทางเลือกเพิ่มขึ้น เนื่องจากว่าเริ่มได้รับความสนใจ ซึ่งแนวทางที่ทางเราอยากจะให้ชาวเชียงใหม่ได้เข้าถึงบริการคือ คนไทยชอบเข้าใจว่าการนวด การกดจุดเป็นเพียงการนวดเพื่อผ่อนคลาย แต่ความจริงแล้วเราสามารถใช้รักษาโรคได้ การกดจุดของเราจะเน้นไปที่มัดกล้ามเนื้อเพื่อกระตุ้นให้กล้ามเนื้อมีการคลายตัว จึงเป็นข้อดีสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการทานยาเยอะๆ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาโรคต่าง ๆ เช่น โรคกระดูกทับเส้น ที่เกิดจากความผิดปกติของเส้น การรักษาหลายๆแขนง รวมถึงการกดจุดจึงเป็นวิธีช่วยให้โรคนี้บรรเทาลงได้

ส่วนในเรื่องของความแตกต่างระหว่างระบบโรงพยาบาลกับคลินิก จะมีความแตกต่างในเรื่องของค่าใช้จ่าย เนื่องจากคลินิกจะเป็นระบบของเอกชน เน้นให้เข้าถึงผู้ป่วยทุกกลุ่มที่ต้องการมาใช้บริการ จึงพยายามควบคุมเรื่องค่าใช้จ่ายให้ไม่แพงมากเกินไปนัก อย่างค่าบริการเริ่มต้นตอนนี้จะอยู่ที่ การกดจุดครั้งละ 500 และฝังเข็มครั้งละ 500 และจะไม่เน้นให้ดูเป็นการขายยา แต่จะเน้นเรื่องของการให้คำแนะนำและให้ความรู้เกี่ยวกับยาตัวนั้น ๆ เป็นต้น

“หากย้อนไปเมื่อ 10-40 ปีที่แล้วการแพทย์ไทยมุ่งที่จะใช้การรักษาแบบตะวันตกมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้โรคต่างๆ ลดลง องค์การอนามัยโลกจึงเริ่มสนับสนุนให้มีการใช้การแพทย์แบบผสมผสาน การแพทย์พื้นบ้าน รวมถึงการแพทย์แบบตะวันออกของเราเอง ซึ่งถือเป็นโชคดีของประเทศไทยเรามีเรามีการแพทย์แผนไทยมาแต่ดั้งเดิมและกลายเป็นที่ยอมรับ และหากจะกล่าวถึงเรื่องการเจริญเติบโตของตลาดจะเห็นได้ชัดว่า

คนสมัยนี้เริ่มมีการสนใจแพทย์ทางเลือกมากขึ้นและไม่ใช่เพียงคนไทย คนต่างชาติเองก็มีความสนใจและต้องการจะเรียนรู้วิธีการรักษาแบบของเราด้วย” พทป.ผดุงพล กล่าว

ด้าน พจ.อธิราช ปันทะนันท์ แพทย์แผนจีน กล่าวว่า ในส่วนของศาสตร์การแพทย์แผนจีนจะมีการรักษาแบบองค์รวม รวมถึงการฝังเข็มรักษาโรค ใช้สมุนไพรจีน การครอบแก้ว และการอบสมุนไพร โดยการรักษาศาสตร์แบบจีนมีมาตั้งแต่โบราณเกือบ 4,000 กว่าปี ในเรื่องของการฝังเข็มองค์การอนามัยโลกได้รับรองทั้งหมด 28 ประเทศ จุดเด่นจะเป็นการรักษาอาการปวดเป็นหลัก รวมถึงการไหลเวียนของเลือดและลมปราณในร่างกายของมนุษย์

เนื่องจากศาสตร์การแพทย์ของจีนได้เริ่มเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น กลุ่มคนที่เข้ามารักษาตอนนี้จะเป็นกลุ่มที่มีอาการปวดต่างๆ เช่น ปวดไมเกรน เส้นกระดูกเสื่อมต่างๆ จึงมักจะเป็นวัยทำงาน และคนสูงอายุ เพราะสำหรับคนที่มีอายุมากแล้ว แพทย์ในปัจจุบันจะแนะนำให้หลีกเลี่ยงการผ่าตัดเพราะภาวะการฟื้นตัวจะช้า การฝังเข็มจึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ป่วยกลุ่มนี้ เพราะการรักษาแบบฝังเข็มหรือการใช้ศาสตร์ของจีนเป็นการรักษาแบบธรรมชาติให้ร่างการได้เยียวยาตัวเองและจะฟื้นตัวเร็วขึ้น พจ.อธิราช

ร่วมแสดงความคิดเห็น