ตำรวจลำพูน พลิกแผ่นดินล่า “แดงแก๊ก” คนร้ายแทงสาวร้านเหล้าตองเสียชีวิต

ตำรวจเมืองลำพูน พลิกแผ่นดินไล่ล่า “แดงแก๊ก” คนร้ายตาเหล่ หลังก่อเหตุใช้มีดแทงสาวเจ้าของร้านเหล้าตองเสียชีวิต เนื่องจากโมโหที่ถูกไล่ออกร้านให้กลับบ้าน ตร.พบประวัติ เคยแทงสามีเมียเก่ามาแล้ว อยู่ระหว่างหลบหนี จนมาก่อเหตุขึ้นอีก ล่าสุดยังลอยนวล

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 7 เม.ย.60 พ.ต.ท.ยุทธนา อุตรพงศ์ รอง ผกก.( สอบสวน ) สภ.เมืองลำพูน ได้รับแจ้งมีเหตุแทงกันตาย ที่ร้านเหล้าตอง ในตลาดจตุจักร 2 บ้านป่าเส้า หมู่ 9 ต.อุโมงค์ อ.เมือง จ.ลำพูน หลังจากได้รับแจ้ง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.จีรัฐติกุล อรุณจันทร์ภักดี ผกก. ทราบ ก่อนจะรีบรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท. เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร สว.สส. แพทย์เวร รพ.ลำพูน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยอุโมงค์

ที่เกิดเหตุพบเป็นห้องแถว ห้องที่ 6 เลขที่ 8/1 หมู่ 9 ต.อุโมงค์ พบศพหญิงคนหนึ่งนอนแน่นิ่ง สวมเสื้อยืดแขนกุดสีดำ กางเกงยีนส์สีขาว สวมรองเท้าแตะสีแดง นอนจมกองเลือดอยู่ลานจอดรถด้านหลังร้านเหล้าตอง โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยอุโมงค์ กำลังปั๊มหัวใจเพื่อช่วยเหลือ แต่ผู้ตายทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา เบื้องต้นพบบาดแผลถูกแทงบริเวณราวนมซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์ จำนวน 1 แผล และที่แขนขวา อีก 1 แผล ตรวจสอบในกระเป๋ากางเกงระบุชื่อ น.ส.อาภาพร จะคา อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 บ้านห้วยเดื่อ หมู่ 8 ต.แม่ข่า อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ห่างกันประ มาณ 3 เมตร พบรถ จ.ย.ย.ยี่ห้อ ฮอนด้าดรีม สีแดง หมายเลขทะเบียน กกม 189 เชียงใหม่ ล้มอยู่ และพบมีดปอกผลไม้เปื้อนเลือดยาว ประมาณ 5 นิ้ว หล่นอยู่คาดว่าเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้แทงผู้ตาย เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน นายตุ้ม วงศ์สถาน อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่113 หมู่ 10 ต.อุโมงค์ อ.เมือง จ.ลำพูน พยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ น.ส.อาภาพร ผู้ตาย ซึ่งเป็นเจ้าของร้านเหล้าตอง ได้เปิดร้านตามปกติเช่นทุกวัน โดยมีลูกค้ามานั่งดื่มเหล้าตองทั้งขาจรและขาประจำ ซึ่ง 1 ในลูกค้า คือนายณรงค์ หรือ ฉายา แดงแก๊ก ( ตาด้านซ้ายเหล่ ) ชัยวุฒิ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 ม.12 ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ มือมีดที่ฆ่า น.ส.อาภาพร มานั่งดื่มด้วย ซึ่งนายแดงแก๊ก ได้มาชอบพอกับผู้ตาย และทุกครั้งที่มาดื่มเหล้ามักจะแสดงอาการหึงหวงผู้ตาย ทั้ง ๆ ที่ผู้ตายนั้น ก็เอาใจลูกค้าทั่วไป

ก่อนเกิดเหตุ นายแดงแก๊ก แสดงออกในความหึงหวง และพยายามจะหาเรื่องลูกค้าคนอื่น ทางผู้ตายจึงได้ขอร้องให้กลับบ้าน โดยผู้ตายนั้นได้พยุงร่างของนายแดงแก๊ก มาส่งด้านหลังร้านเพื่อจะมาเอารถ จ.ย.ย.ที่จอดไว้ ขณะเดียวกันนั้น นายแดงได้มีปากเสียงกับผู้ตายและผู้ตายพยายามผลักให้ขี่รถไป ทันใดนั้นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น นายแดงแก๊ก ชักมีดปอกผลไม้ที่วางไว้ในตะกร้าหน้ารถ แทงเข้าที่ราวนมซ้ายผู้ตายจนล้มลง และแทงเข้าที่แขนอีกครั้ง หนึ่ง จากนั้นได้วิ่งหลบหนีไป

ทางด้าน พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร สว.สส. เปิดเผยว่า ผู้ตายนั้นเป็นหม้ายสาว มีคนมาหลงชอบพอกันหลายคน เนื่องจากหน้าตาดี รวมทั้งมือมีดด้วย และทุกครั้งที่คนร้ายมาที่ร้าน มักจะแสดงอาการนักเลง หึงหวงผู้ตายออกหน้าออกตา คืนเกิดเหตุก็เช่นเดียวกัน ผู้ตายกลัวลูกค้าคนอื่นจะเข้าใจผิดจึงไล่ให้กลับบ้าน แต่คนร้ายโมโหเลยใช้มีดปอกผลไม้ที่เตรียมมาแทงผู้ตายจนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีไป ซึ่งได้กระจายกำลังไล่ล่าตัวแล้ว แต่ยังไม่พบตัว คาดว่าจะยังคงหลบอยู่ที่ไหนสักแห่ง กำลังไล่หาตัวมาดำเนินคดีอยู่

จากการตรวจสอบประวัติพบว่า คนร้ายนั้น เป็นนักเลงประจำหมู่บ้าน มีญาติพี่น้องอยู่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เคยแต่งงานอยู่ที่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ และเลิกรากับภรรยาไปแล้ว และระหว่างที่เลิกราก็มักจะแวะมาหึงหวงเมียเก่า และเคยแทงสามีเมียเก่ามาครั้งหนึ่งด้วย จึงนับว่าเป็นบุคคลอันตราย ที่ช่ำชองการใช้มีด อย่างไรก็ตามจะได้เร่งไล่ล่าตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด