ตำรวจจราจร เชียงใหม่ ระดมกำลังดูแลความปลอดภัยประชาชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์

ช่วงเช้าตรู่ เวลา 06.00 น. วันที่ 10 เม.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณลานเอนกประสงค์ ข่วงประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พ.ต.อ.สิทธิชัย ทนันไชย รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ ได้เป็นประธานในการมอบนโยบาย และระดมกำลัง ปล่อยแถว ชุด จนท.กลุ่มงานจราจร ภ.จ.เชียงใหม่ เพื่อเป็นการออกมาตรการอำนวยความสะดวก ด้านการจราจรและความปลอดภัย ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2560 โดยมี พ.ต.อ.ฐาปนพงศ์ ชัยรังษี ผกก.กลุ่มงานจราจร ภ.จ.เชียงใหม่ นำคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก กลุ่มงานจราจร ภ.จ.เชียงใหม่ จำนวนรวมทั้งสิ้น 150 นาย ร่วมรับฟังนโยบาย และแผนการปฏิบัติหน้าที่

ซึ่งได้มีการกำหนดมาตรการในการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย ประกอบด้วย การทำป้ายประชาสัมพันธ์แนะนำเส้นทางเลี่ยง ทางลัด , การตรวจสอบประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แก้ไขปัญหาทางกายภาพ , การบังคับใช้กฎหมายตามมาตรการ 10 รสขม เน้นเมา-หมวก-เข็มขัดนิรภัย-เร็ว , การใช้ พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ ตรวจวัดค่าแอลกอฮอล์ , การกำหนด พื้นที่เล่นน้ำ โดยมีป้ายประชาสัมพันธ์ ช่องทางพิเศษ , การอำนวยความสะดวกและจัดการจราจร ขบวนสำคัญตามประเพณีสงกรานต์ 13-15 เม.ย.60 , การกำหนดรถ ห้ามขึ้น-ลง ดอยสุเทพ-ปุย 13-15 เม.ย.60 ขึ้น-ลง เป็นเวลา , การขอความร่วมมือรถส่วนบุคคล งดขึ้นดอยคำ และ ขอความร่วมมือห้ามรถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไป เข้าในคูเมือง 13-15 เม.ย.60

นอกจากนี้ทาง รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ ยังได้ทำการแจกผ้าปิดปากเป็นสัญลักษณ์หน้ายิ้ม ให้กับทาง จนท.เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ในการทำงานด้วยความสุภาพ มีไมตรี และพร้อมช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยว อีกด้วย

ทั้งนี้ทาง พ.ต.อ.สิทธิชัย ทนันไชย รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำหรับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ ก็จะมีประชาชนและนักท่องเที่ยว เดินทางเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมาก จึงทำให้มีรถราและยวดยานพาหนะ หนาแน่นขึ้น ดังนั้นทาง จนท.ตำรวจจึงได้มีการเตรียมการรณรงค์ และมีการจัดชุดเจ้าหน้าที่ ในการให้บริการอย่างเต็มที่ โดยในส่วนของมาตรการสร้างความปลอดภัยต่างๆ ก็จะมีการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้ทุกคนตระหนักในการเคารพกฎจราจร และสร้างความปลอดภัยให้กับตัวเอง

ขณะเดียวกันก็ได้มีการออกข้อบังคับ เกี่ยวกับเส้นทางการเดินรถบางจุด เพื่อความปลอดภัยต่อผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร ซึ่งทาง จนท.กลุ่มงานจราจรให้ความสำคัญ คือ เส้นทางวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ ที่มีการออกข้อบังคับงดให้รถบัสขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจาก ช่วงดังกล่าวมีความหนาแน่นของรถ ประกอบกับมีพื้นที่จอดรถจำกัด รวมถึงความชันของเส้นทางขึ้น อาจก่อให้เกิดอันตราย และอุบัติเหตุใหญ่ขึ้นได้ นอกจากนี้ยังได้มีการออกข้อบังคับในการ ขึ้น-ลง อย่างเป็นเวลา คือ ช่วงเช้าเวลา 06.00-09.00 น. สามารถขึ้นได้ จากนั้น เวลา 09.00-12.00 น. จะปล่อยให้ลง และเวลา 12.00-15.00 น. จะปล่อยให้ขึ้นไปอีกรอบ แล้วหลังจากเวลาดังกล่าว ก็จะเป็นช่วงลง และอีกจุด คือ ที่วัดพระธาตุดอยคำ ซึ่งจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยว เดินทางไปกันจำนวนมาก ก็จะมีการออกข้อบังคับในการงดใช้รถยนต์ส่วนบุคคลขึ้นไป แล้วให้ใช้บริการรถสาธารณะพาเดินทางขึ้นไปแทน เพื่อไม่ให้การจราจรหนาแน่น และมีความปลอดภัย
รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนของการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับรถกระบะนั้น ขณะนี้นโยบายทางรัฐบาล และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ให้นโยบายมาอย่างชัดเจน โดยให้ทางเจ้าหน้าที่ใช้นโยบายผ่อนปรนในการใช้มาตรการในการประชาสัมพันธ์ และแนะนำเป็นหลักก่อน เนื่องจาก เป็นกฎหมายที่ออกมาใหม่ อีกทั้งบางเรื่องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับวิถีการท่องเที่ยวมาพอสมควร จึงรอให้พี่น้องประชาชนค่อยๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการเล่นน้ำสงกรานต์อีกระยะหนึ่ง แต่ก็มีข้อห้ามในการดูแล คือ ไม่ให้นั่งขอบกระบะโดยเด็ดขาด รวมทั้งการเปิดนั่งฝากระโปรง

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของมาตรการที่ได้มีการเน้นย้ำเป็นพิเศษ คือ การดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านอาชญากรรม โดยทางกลุ่มงานจราจร ก็จะรับผิดชอบเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวก ป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนน โดยจะใช้ทั้งมาตรการตรวจสอบทางกายภาพ ที่ได้พยายามจะแก้ไขจุดที่มีปัญหาซ้ำๆ ซึ่งจะทำเอง และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการใช้มาตรการในการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ต่างๆ กับพี่น้องประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยว ให้ตระหนักถึงความปลอดภัยในการเดินทาง  และจะมีการบังคับใช้กฏหมายเสริมเข้าไปอีกส่วนหนึ่ง และอยากฝากถึงพี่น้องประชาชนในการขับขี่ยวดยานพาหนะด้วยความระมัดระวัง สิ่งให้ที่เป็นความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ก็ขอให้หลีกเลี่ยงในการขับขี่ ทั้งที่เกิดจากความประมาทของตัวเอง และจากความประมาทของผู้อื่น จึงอยากให้มีการป้องกันตัวเองในเบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็นการสวมหมวกนิรภัย เข็มขัดนิรภัย เพื่อเป็นการป้องกัน และลดอุบัติเหตุในเบื้องต้น

ร่วมแสดงความคิดเห็น