ชะงักโครงการก่อสร้างอนุสรณ์สถาน อดีตทหารจีนคณะชาติ กองทัพที่ 3 ก๊กมินตั๋ง ที่ถ้ำง๊อบ อ.ไชยปราการ

ต้องชะงักโครงการก่อสร้างอนุสรณ์สถาน อดีตทหารจีนคณะชาติกองทัพที่ 3 ก๊กมินตั๋ง ที่ถ้ำง๊อบ อ.ไชยปราการ จ. เชียงใหม่ เพราะบุตรสาวของนายพลลี(เลาลี) ขัดแย้งกับคณะกรรมการในฝ่ายต่างๆ ที่สำคัญคือเรื่องเงิน จัดสถานที่ไม่เหมาะสม บุตรสาวนายพลลี ไม่ต้องการให้สร้างเป็นศาลเจ้า ร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงใหม่ รอชี้แจ้งจากศูนย์ดำรงธรรม อ.ไชยปราการ บุตรสาวนำสื่อลงพื้นที่ เพื่อให้ทราบปัญหาที่แท้จริง พบสถานที่ก่อสร้างคืบหน้าไปมากกว่า 50% จากที่ใช้งบประมาณไปแล้ว 8 ล้านบาท และยังไม่ทราบว่าเมื่อเสร็จสิ้น จะต้องใช้งบประมาณไปทั้งหมดเท่าไหร่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ภรณี ชัยศิริ และน.ส.ฉวีวรรณ ชัยศิริ บุตรสาวของนายพลลี เหวินฮ้วน อดีตผู้นำทหารจีนคณะชาติกองทัพที่ 3 (ก๊กมินตั๋ง) นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ดูสถานที่ก่อสร้างอนุสรณ์สถาน อดีตทหารจีนคณะชาติกอง ทัพที่ 3 (ก๊กมิงตั๋ง) ที่บ้านถ้ำง๊อบ หมู่ที่ 6 ต.หนองบัว อ.ไชยปราการ ซึ่งการลงพื้นที่ บุตรสาวของนายพลลี เหวินฮ้วน นำอดีตทหารที่รบกับนายพลลี จำนวน 10 คนเดินทางไปที่สุสานนายพลลี เหวินฮ้วน จากนั้นไปสถานที่ก่อสร้างอนุสรณ์สถานบ้านถ้ำง๊อบ ที่มีอนุสรณ์สถานที่สร้างอยู่เดิม และที่จะสร้างใหม่อยู่ติดกัน พบว่าได้ก่อสร้างคืบหน้าไปมากเกินกว่า 50%

แต่ขณะนี้มีปัญหาในเรื่องความขัดแย้งของคณะกรรมการ และบุตรสาวของนายพลลี และอดีตทหารที่รบกับนายพลลี ส่วนหนึ่ง เกิดความขัดแย้งกับคณะกรรมการจัดสร้างอนุสรณ์สถานฯท่านอื่นอยู่ โดยบุตรสาวของนายพลลีทั้งสองคน ก่อนหน้านั้นได้ร้องเรียนไปที่ศูนย์ดำรงธรรม อ.ไชยปราการ อ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากศูนย์ดำรงธรรม อ.ไชยปราการ จากนั้นไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงใหม่ ถึงกรณีขัดแย้งหลายเรื่อง เช่นเงินงบประมาณในการก่อ สร้างอนุสรณ์สถานฯ และเรื่องที่ก่อสร้างแล้วไม่เหมาะสมมีการแก้ไขกันบ่อยครั้ง และล่าสุดพบว่ากรรมการท่านอื่นๆ ได้พยายามเปลี่ยนแปลงชื่อสถานที่สร้างอนุสรณ์สถานฯ ให้เป็นศาลเจ้าเป็นต้น

ปัญหาดังกล่าว ล่าสุดทางศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงใหม่ โดยนายประจวบ กันธิยะ รอง ผวจ. ปฏิบัติราชการแทน ผวจ.ทำหนังสือลงวันที่ 8 พ.ค.2560 ระบุว่า บุตรสาวของนายพลลี ทั้งสองคนได้ร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม จ. เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2560 ทางศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงใหม่ได้รับเรื่องแล้ว ได้สั่งการให้ศูนย์ดำรงธรรม อ.ไชยปราการ ชี้แจงเรื่องดังกล่าวต่อทางจังหวัดแล้ว ผลเป็นอย่างไรจะแจ้งให้บุตรสาวของนายพลลีทราบต่อไป

น.ส.ภรณี ชัยศิริ และ น.ส.ฉวีวรรณ ชัยศิริ บุตรสาวของนายพลลี ทั้งสองบอกว่า ในช่วงที่รอทางจังหวัดแจ้งผลการชี้แจงของทางศูนย์ดำรงธรรม อ.ไชยปราการ ในการชี้แจงกับ จ.เชียงใหม่อยู่นั้น ตนเห็นว่า ประชาชนคนไทยต้องได้รับทราบถึงการที่อดีตทหารจีนคณะชาติกองทัพที่ 3 (ก๊กมิงตั๋ง) ได้ต่อสู้เพื่อประเทศชาติ เมื่อจะสร้างอนุสรณ์สถานเพื่อทหารที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น จะต้องสร้างให้สมเกียรติ และเหมาะสม แต่การดำเนินงานที่ผ่านมามีความขัดแย้ง เกิดความแตกแยก โดยคณะกรรมการบางคนไม่ให้ครอบครัวของนายพลลี เข้าไปมีบทบาทในการบริหารจัดการเรื่องเงินงบประมาณ และการจัดการก่อสร้างอนุสรณ์สถานด้านต่างๆด้วย เช่นการตกแต่งภายในไม่เหมาะสมและไม่สมเกียรติ และโครงสร้างการก่อสร้างไม่ถูกต้องตามแบบสากล จึงนำสื่อมวลชนลงพื้นที่พิสูจน์ความจริงวันนี้

น.ส.ฉวีวรรณ ชัยศิริ บุตรสาวของนายพลลี กล่าวว่า “ที่ติดใจคือกรณีจะจัดสร้างอนุสรณ์สถานอดีตทหารจีนคณะชาติกองทัพที่ 3 (ก๊กมินตั๋ง) แล้วให้รวมเป็นศาลเจ้าด้วย ทางครอบครัวตนในฐานะบุตรสาวนายพลลี และทหารที่สู้รบเคียงบาเคียงไหล่นายพลลีเห็นว่าไม่เหมาะสม ต้องการให้สร้างอนุสรณ์สถานอดีตทหารจีนฯ เท่านั้น

“ส่วนกรณีที่ร้องเรียนไปศูนย์ดำรงธรรม อ.ไชยปราการไปแล้ว ตนไม่เชื่อมั่นเพราะเชื่อว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม กรณีที่เชิญตนและเครือญาติพร้อมทหารของนายพลลีบางคนไปพบ ก็หวังว่าจะได้รับคำชี้แจงเรื่องกรณีที่ตนร้องขอความเป็นธรรมกับศูนย์ดำรงธรรม ที่ไม่เห็นด้วยกรณีที่มีความขัดแย้งในการสร้างอนุสรณ์สถานฯ แต่พบว่าวันที่ตนไปฟังคำชี้แจงมีประชาชนชาวจีนจากอำเภอต่างๆที่อยู่ใกล้เคียง อ.ไชยปราการส่วนหนึ่ง และมีชาวไทยสัญชาติไทใหญ่ และสัญชาติอื่นๆ เดินทางมาร่วมประชุมรับฟัง และลงรายมือชื่อเพื่อให้เป็นหลักฐาน เพื่อจะได้ดำเนินการสร้างอนุสรณ์สถานฯและศาลเจ้าต่อไป

ในความคิดของตนเห็นว่า เป็นการพยายามจะให้ครอบครัวของตน ไม่มีส่วนในการจัดสร้างอนุสรณ์สถานฯดังกล่าวหรือไม่ และขณะนี้ใช้งบประมาณไป 8 ล้านบาท และยังไม่รู้ว่าจะใช้งบประมาณเท่าไหร่ถึงจะเสร็จสิ้น เงินได้มาจากที่ชาวไทยเชื้อชายจีนและเครือญาตินายพลลี และเครือญาติทหารของนายพลลี ระดมทุนกันก่อสร้างมาก่อนหน้านี้ และการที่คณะกรรมการบางคนจะหาเงินโดยวิธีไม่เหมาะสม มาจัดสร้างอนุสรณ์สถานฯตนก็ไม่เห็นด้วย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ตนไม่ไว้วางใจ จึงร้องไปที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงใหม่”

นายพิบูลย์ ใจโชคดียิ่งสกุล อายุ 69 ปี เป็นทหารของนายพลลี อีกนายหนึ่ง กล่าวว่า เป็นทหารมาตั้งแต่อายุ 15 ปี ได้ไปสู้รบเพื่อปกป้องประเทศชาติที่ดอยผาหม่น และอีกหลายแห่ง วันนี้เมื่อจะสร้างอนุสรณ์สถานฯผู้ที่เสียชีวิตร่วมรบด้วยกันมาในอดีต และอยู่กับนายพลลี ที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น เมื่อจะมีอนุสรณ์สถานฯเพื่อให้ลูกหลานได้มาศึกษาประวัติและมาเคารพบรรพบุรุษ แต่มาเกิดปัญหาขัดแย้งในการใช้เงินงบประมาณก่อสร้างและปัญหาต่างๆนั้น ก็ต้องการให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาคุยกันเพื่อยุติปัญหาดังกล่าว  ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับการลงพื้นที่รับฟังปัญหาทางฝ่ายบุตรสาวของนายพลลี เหวินฮ้วน และอดีตทหารที่รบกับนายพลลีแล้ว ผู้สื่อข่าวจะประสานงานคณะกรรมการฝ่ายต่างๆมาชี้แจงในรายละเอียดต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น