เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 26 พ.ค. 60 พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.ต.อานนท์ เชิดชูตระกูลทอง สว.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายจรัญ หรือเติ้ล เนตะวัน อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่246/1 หมู่ 1 ตำบลไผ่ท่าโพธิ์ อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร ในข้อกล่าวหา “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุ 15 ปี ไม่เกิน 18 ปี” และดำเนินคดีตาม พรบ.กรมการขนส่งทางบกเรื่องการใช้รถผิดประเภท
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 22 พ.ค.60 เวลาประมาณ 20.20 น. นางสาว ฑ. นามสมมติ ผู้เสียหายได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ ต่อ ร.ต.อ.หญิงมนต์ริสสา บุญก้ำ รอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงใหม่ โดยแจ้งว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค.60 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 18.05 น. ได้เรียกรถรับจ้างจาก แอพพลิเคชั่น Grabcar มารับยังบ้านพัก บริเวณด้านหน้าโรงเรียนมงฟอร์ต ถนนเจริญประเทศ ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อไปอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ต่อมามีนายเติ้ล หรือนายจรัญ ผู้ต้องหารายนี้ ขับขี่รถเก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นมิราจ สีดำ หรือเทา จำทะเบียนรถไม่ได้ มารับ ที่หน้าบ้านโดยนั่งทางด้านหลังคนขับ ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถผู้ต้องหาได้ชวน พูดคุย และพูดในทำนองจีบ ผู้ต้องหาได้ชวนผู้เสียหายไปขับรถเที่ยวรอบเมือง ทางผู้เสียหายก็ตกลงไปด้วย เพราะเห็นว่าหน้าตาดีและคงไม่มีเรื่องเสียหาย เมื่อถึงบริเวณถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ผู้ต้องหาได้จอดรถให้ผู้เสียหายไปนั่งข้างหน้าด้วยกัน ด้วยความไว้ใจ ทางผู้เสียหายจึงลงจากรถไปนั่งด้านหน้ากับผู้ต้องหา ระหว่างนั่งรถผู้ต้องหาได้กระทำอนาจารผู้เสียหายหลายครั้ง แต่ทางผู้เสียหายก็ไม่กล้าขัดขืน เนื่องจากกลัวว่าจะถูกทำร้าย
กระทั่งต่อมาได้ถูกนำพาไปบริเวณพื้นที่เปลี่ยว มืด และไปจอดรถหน้าหอพักไม่ทราบชื่อ ทางผู้เสียหายก็ถูกกระทำอนาจารอีกหลายครั้ง และเมื่อผู้ต้องหากลับมาส่ง บริเวณประตูท่าแพ ก็ได้บอกกับทางผู้เสียหายว่าห้ามนำเรื่องดังกล่าวไปบอกใคร ทางผู้เสียหายเห็นว่าได้รับความอับอาย และถูกกระทำไม่ดี จึงได้เข้ามาแจ้งความให้ดำเนินคดี ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนและตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกก็พบข้อมูลเรื่องป้ายทะเบียนรถ จำนวน 2 คัน แต่ไม่ทราบว่าเป็นคันไหน จึงได้เชิญทั้งสองคันมาสอบถาม และให้ทางผู้เสียหายดูเรื่องของรถ กระทั่งนายจรัญ ได้เดินทางมาพบและผู้เสียหายจำรถได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมและข้อกล่าวหาให้ทราบทันที
จากการสอบถามนายจรัญ ให้การยอมรับสารภาพว่า ในคืนเกิดเหตุได้ถูกเรียกผ่านแอพพลิเคชั่นให้ไปรับผู้เสียหายจริง แต่ได้พูดคุยกันถูกคอในระหว่างที่กำลังขับรถจะพาไปยังจุดหมาย และเพื่อนได้โทรศัพท์มาชักชวนตนให้ไปดูการแข่งรถด้วยกันที่ด้านหลังมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง และทางผู้เสียหายได้ยินเรื่องที่ตนคุยกับเพื่อน ก็เกิดความสนใจและอยากรู้ว่ามีการแข่งรถที่ไหน ตนก็บอกว่า ไม่ได้มีการแข่งแต่เพื่อนเรียกให้ไปดูโทรทัศน์ เพราะมีการถ่ายทอดการแข่งรถอยู่ ซึ่งต่อมาทางผู้เสียหายก็ถามว่ามีใครบ้างและสนใจเหมือนอยากไปด้วย ตนก็ได้บอกไปว่ามีใครบ้าง จากนั้นก็ได้กดหยุดแอพพลิเคชั่นไม่ให้ทำงาน และก็ได้พูดคุยกันไปตลอดทาง และได้ขอกอดคอผู้เสียหายภายในรถ ซึ่งทางผู้เสียหายก็ยินดีให้กอด ตนก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น กระทั่งได้กลับมาส่ง และสุดท้ายก็มาถูกเจ้าหน้าที่เรียกให้ไปพบและถูกจับดังกล่าว
ร่วมแสดงความคิดเห็น