หนุ่มใหญ่ปิดบ้านไปทำธุระ เกิดเพลิงลุกไหม้วอดทั้งหลัง

เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่าย เวลาประมาณ 13.40 น. วันที่ 27 พ.ค.60 โดยทาง ร.ต.ท.พิชิตศักดิ์ หัตถปนิตย์ พนักงานสอบสวน สภ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 96 ม.7 บ้านชัยสถาน (สันโค้ง) ต.มะลิกา อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ หลังทราบเรื่องจึงรายงานให้ทางผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางเข้าตรวจสอบ ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเมื่อทางเจ้าหน้าที่ไปถึงพบกลุ่มชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังช่วยกันระดมฉีดน้ำเพื่อระงับเพลิงที่กำลังลุกไหม้ภายในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งมีลักษณะเป็นบ้านปูนชั้นเดียว โดยต้นเพลิงได้ลุกไหม้จากตัวบ้าน จึงทำให้ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องช่วยกันฉีดน้ำนานร่วม 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามเป็นวงกว้าง และทำให้เพลิงสงบลงในที่สุด โดยภายหลังเพลิงที่ลุกไหม้สงบลง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้เข้าทำการสำรวจภายในตัวบ้านพบว่าได้รับความเสียหายทั้งหลัง รวมทั้งทรัพย์สินที่อยู่ภายในตัวบ้านด้วย แต่ไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้แต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้บันทึกข้อมูลในที่เกิดเหตุไว้เป็ฯหลักฐาน เพื่อใช้ในการตรวจสอบอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน จากการสอบถามพยานในที่เกิดเหตุเบื้องต้นทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวมี นายยืนยง ทองมี อายุประมาณ 50 ปี เป็นเจ้าของบ้านและอาศัยอยู่เพียงลำพัง โดยขณะเกิดเหตุเจ้าตัวได้ออกไปทำธุระกับเพื่อน และปิดบ้านไว้จึงไม่มีคนดูแล กระทั่งในช่วงบ่าย เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันนั้นได้ยินเสียงไฟประทุ และพบกลุ่มควันไฟโพยพุ่งอย่างหนัก จึงได้รีบเรียกขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่ใกล้กันนั้น พร้อมทั้งได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้เข้ามาช่วยเหลือในเวลาต่อมา แต่ก็ไม่ทันการเนื่องจากเพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ประกอบกับภายในบ้านหลังดังกล่าวมีอุปกรณ์ไฟฟ้า และวัตถุที่ติดไฟง่าย จึงทำให้ไปลุกลามอย่างรวดเร็วก่อนจะเสียหายทั้งหลัง

อย่างไรก็ตาม หลังเหตุการณ์สงบลงเบื้องต้นทางเจ้าของบ้านได้รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ส่วนสาเหตุนั้นทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เจ้าของบ้านน่าจะเสียอุปกรณ์ไฟฟ้าทิ้งไว้ภายในบ้านก่อนออกไปทำธุระ และในเวลาต่อมาได้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นจนทำให้มีไฟลุกไหม้ ซึ่งสาเหตุที่แน่ชัด และค่าความเสียหายทั้งหมด ต้องรอการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง

ร่วมแสดงความคิดเห็น