สนข.โชว์ผลศึกษารถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงใหม่ ทุ่มงบกว่า 6 หมื่นล้าน ยกระดับการคมนาคมขนส่ง

สนข. รุกเปิดการสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 4 โครงการศึกษาและออกแบบรถไฟทางคู่ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ เพื่อนำเสนอผลสรุปแนวเส้นทางโครงการที่เหมาะสมรูปแบบโครงสร้างทางรถไฟความคุ้มค่าและประโยชน์ของโครงการการเวนคืนที่ดินและผลกระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน พร้อมทุ่มงบกว่า 6 หมื่นล้าน ยกกระดับคมนาคมขนส่งท่องเที่ยวสูงผู้นำของอาเซียน

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2560 เวลา 09.00 น. ณ.ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมเชียงใหม่ฮิลล์ 2000 เชียงใหม่ นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร เป็นประธานเปิดการสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 4 โครงการศึกษาและออกแบบรถไฟทางคู่ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ เพื่อนำเสนอผลสรุปแนวเส้นทางโครงการที่เหมาะสมรูปแบบโครงสร้างทางรถไฟความคุ้มค่าและประโยชน์ของโครงการการเวนคืนที่ดินและผลกระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน โดยมีผู้สนใจทางจากหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรธุรกิจ เอกชน สถาบันการศึกษาในพื้นที่ตลอดจนตัวแทนภาคประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ร่วมงานกว่า 200 คน

โดย นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร เปิดเผยว่า การสัมมนาครั้งนี้ได้นำเสนอผลสรุปแนวเส้นทางที่เหมาะสมระยะทางรวม 189 กิโลเมตร แบ่งเป็น 2 ช่วงคือช่วงเด่นชัย-ลำปาง ระยะทางประมาณ 104 กิโลเมตร เป็นการสร้างทางรถไฟคู่ไปกับแนวเขตทางเดิมพร้อมปรับรัศมีโค้งของทางรถไฟเดิม เพื่อให้รถไฟสามารถวิ่งได้เร็วขึ้น โดยสามารถใช้ความเร็วได้สูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และช่วงลำปาง-เชียงใหม่ระยะทางประมาณ 85 กิโลเมตร เป็นการก่อสร้างทางคู่ขนานในแนวเขตทางเดิมบางส่วนและตัดแนวทางรถไฟใหม่บางส่วน เพื่อให้เป็นแนวเส้นตรงมากที่สุดโดยสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตลอดเส้นทาง ส่วนการออกแบบโครงสร้างทางรถไฟจะออกแบบให้สอดคล้องกับการออกแบบรถไฟทางคู่ของกระทรวงคมนาคม ที่เป็นไปตามมาตรฐานของ AREMA และการรถไฟแห่งประเทศไทยที่กำหนดให้สามารถรองรับน้ำหนักกดเพลา 20 ตัน

ส่วนการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจของโครงการ พบว่ามีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ 12.06 เปอร์เซ็นต์ มูลค่าปัจจุบันสุทธิ 291 ล้านบาทอัตราส่วนผลประโยชน์ต่อต้นทุนเท่ากับ 1.01 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเกณฑ์การวิเคราะห์ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของธนาคารโลกและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 61,220 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้าง 60,464 ล้านบาท;และค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 756 ล้านบาท

สำหรับมาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการให้ความสำคัญกับแนวทางเส้นทางที่ผ่านพื้นที่ชุมชนและเส้นทางคมนาคม โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ที่ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของการคมนาคมขนส่งของภาคเหนือ โดยโครงการได้ออกแบบการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับถนนให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของชุมชน นอกจากนี้ยังมีการแจ้งให้ประชาชนรับทราบและเตรียมพร้อมเกี่ยวกับแผนการก่อสร้าง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจราจรที่อาจเกิดขึ้น ส่วนมาตรการด้านการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน โครงการได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ. ศ. 2530 และคู่มือการกำหนดเงินค่าทดแทนของกระทรวงคมนาคม พ.ศ. 2560 เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ผู้ที่ถูกเวนคืนมากที่สุด

นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้หากมีการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ จะส่งผลให้เส้นทางรถไฟสายเหนือมีการเชื่อมต่อโครงข่ายระบบรางที่สมบูรณ์ที่สุด เพิ่มขีดความสามารถด้านโลจิสติกส์ ที่สำคัญยังเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวการค้า และการลงทุนในภาคพื้นที่ภาคเหนือ และเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนให้ภาคเหนือกลายเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวของอาเซียนในอนาคต โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ที่เป็นเมืองหลักของภาคเหนือเป็นศูนย์กลางทางด้านอุตสาหกรรมและการคมนาคม รวมถึงยังมีศักยภาพในการพัฒนาที่สูง

ทั้งนี้ภายหลังจากการสัมมนา สนข.จะนำผลสรุปที่ได้เสนอต่อกระทรวงคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติดำเนินโครงการ จากนั้นจึงว่าจ้างผู้รับเหมาและที่ปรึกษาควบคุมการก่อสร้างและเข้าสู่กระบวนการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ต่อด้วยดำเนินการก่อสร้าง โดยใช้ระยะเวลารวมประมาณ 6 ปี จึงแล้วเสร็จ ผอ.การสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น