ตำรวจ คุมตัวหนุ่มโหด ทำแผนกระหน่ำแทงสาวใหญ่ เจ้าของห้องพักดับ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 ก.ค.60 พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อดุลย์ สมนึก ผกก.สภ.ช้างเผือก และ จนท.ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันนำตัว นายเอกชัย อินตา อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 ม.14 ต.พรหมสวัสดิ์ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ ผู้ต้องหากรณีก่อเหตุฆ่า นางขวัญตา กันทะเรือน อายุ 63 ปี ที่อยู่ ถ.หัสดิ เสวี ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บริเวณจุดเกิดเหตุบ้านเคียงบุญ เลขที่ 13/ 24 หมู่ 2 ถ.เจ็ดยอด ต.ช้างเผือก ท่ามกลางประชาชนชาวบ้านในละแวกนั้น ยืนมุงดูเป็นจำนวนมาก จนทางตำรวจต้องตรึงกำลังโดยรอบที่เกิดเหตุ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุวุ่นวายขึ้น

ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา ประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 2 ก.ค.60 โดย นายเอกชัย ผู้ต้องหา ได้ใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทง นางขวัญตา หลายสิบแผล จนนอนจมกองเลือดแล้วได้ใช้รถ จ.ย.ย.หลบหนีไปที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ก่อนที่ทางตำรวจจะติดตามเบาะแส และจับกุมตัวได้เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (3 ก.ค.60)


ทั้งนี้ทางด้าน พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย. ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เกี่ยวกับคดีนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 2 ก.ค.60 ที่ผ่านมา ทาง จนท.ตำรวจ สภ.ช้างเผือก ได้รับแจ้งมีผู้หญิงถูกทำร้ายร่างกายหมดสติอยู่ที่ บริเวณถนนเจ็ดยอด ซอย 4 ต.ช้างเผือก และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งจากการตรวจสอบทราบภายหลังว่าคนก่อเหตุในคดีนี้คือ นายเอกชัย อินตา ที่ภายหลังลงมือแล้วได้หลบหนีไป และจากการสืบสวนติดตามเกี่ยวกับคดีทำให้ทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปที่ อ.ฝาง จึงได้ประสานให้ทาง จนท.ตำรวจในพื้นที่ทำการจับกุมตัวได้ในที่สุด ส่วนสาเหตุของเรื่องนี้ จากการสอบสวนทางผู้ต้องหา ทราบเบื้องต้นว่า เกิดจากการที่ผู้ต้องหาได้มีปากเสียงกับผู้ตาย เนื่องจากผู้ต้องหาได้เคยเช่าพื้นที่ทำธุรกิจ แล้วต่อมาได้ย้ายมาอยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งไม่ห่างจากจุดเดิม และในวันเกิดเหตุได้มีปากเสียงทะเลาะกัน และทำให้ทางผู้ต้องหาเกิดความโมโหจนกระทั่งบันดาลโทสะและก่อเหตุในที่สุด

ขณะเดียวกัน ระหว่างการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทางด้าน นายเอกชัย ผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่า ตนได้เปิดร้านซ่อมรถ จ.ย.ย.อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องเช่าของ นางขวัญตา ผู้ตาย ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเช่าอาศัยอยู่ห้องพักของผู้ตาย และได้จ่ายเงินค่าประกันห้อง แต่หลังจากย้ายออกมากลับไม่ได้เงินคืน โดยในวันเกิดเหตุตนได้พบเจอกับ นางขวัญตา ผู้ตายอยู่บริเวณหน้าห้องแถว จึงได้สอบถามถึงเงินค่าประกันที่ยังไม่ได้คืนแต่ทาง นางขวัญตา ผู้ตายกลับโมโหต่อว่าให้ตนเสียๆ หายๆ และพูดข่มขู่ตนอีกด้วย จากนั้นตนจึงเกิดความโมโห แล้ววิ่งเข้าไปเอามีดที่อยู่ภายในบ้านกลับออกมาตรงเข้าแทง นางขวัญตา ผู้ตายขณะยืนอยู่ที่บริเวณหน้าห้องแถวจนล้มลง และด้วยความที่ตนควบคุมสติไม่อยู่ จึงได้กระหน่ำแทงซ้ำหลายทีจนผู้ตายนอนจมกองเลือด

จากนั้นก็ได้วิ่งมายังที่พักเพื่อมาเอารถ จ.ย.ย.ก่อนจะขับหลบหนีไป ซึ่งตนยอมรับว่าระหว่างที่ก่อเหตุไปนั้นเกิดจากความโมโหที่ทำให้ควบคุมสติไม่อยู่จริงๆ อย่างไรก็ตามภายหลังการนำตัวผู้ต้องหาทำแผนเสร็จสิ้นแล้ว ทาง จนท. ตำรวจได้นำผู้ต้องหาขึ้นรถตู้ออกจากที่เกิดเหตุ โดยไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นแต่อย่างใด พร้อมทั้งนำตัวผู้ต้องหาส่งให้ทาง พงส.สภ.ช้างเผือก ทำการสอบสวนเพิ่มเติม และดำเนินคดีในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

ร่วมแสดงความคิดเห็น