ล่อซื้อสำเร็จ ค้าหนังเสือ ค่าร่วมครึ่งล้าน ตามรวบ เอเย่นต์ คา รร.หรู

สองหนุ่มสาวลักลอบค้าหนังเสือ มูลค่ากว่า 3 แสนบาท ตำรวจวางแผนติดตามล่อซื้อได้ คาห้องพักโรงแรมหรูกลางเมืองเชียงใหม่ เจ้าตัวสารภาพลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านฝั่งแม่สาย จ.เชียงราย ก่อนลำเลียงมาส่งให้ที่เชียงใหม่ แต่สุดท้ายไม่รอด โดนดำเนินคดีหลายกระทง

เมื่อเวลา 23.15 น.วันที่ 10 ก.ค. 60 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ โดยการอำนวยการของ พล.ต.ต.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผบก.ปทส. พร้อมด้วย พ.ต.อ. สุวัฒน์ อินทสิทธิ์ รอง ผบก. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายรุ่งโรจน์ แสนปวงคำ อายุ 28 ปี ที่อยู่ 249 ม.2 ต.วังหลวง อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ และ น.ส.ธมลวรรณ พรมบุตร อายุ 19 ปี ที่อยู่ 23 ม.9 ต.หัวเมือง อ.สอง จ.แพร่ พร้อมด้วยของกลาง ซากหนังเสือลายเมฆ จำนวน 5 ชิ้น, ซากหนังเสือดาว จำนวน 2 ชิ้น, ซากหนังเสือไฟ จำนวน 1 ชิ้น, โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน จำนวน 2 เครื่อง และ รถยนต์โตโยต้าวีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน กง 573 แพร่ จำนวน 1 คัน โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการบุกเข้าทำการตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดของกลางได้ที่ห้องพักของโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง ในตัวเมืองเชียงใหม่

 

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางโดย บก.ปทส. และ บก.ปอท. ได้ร่วมกันสืบสวนผู้ร่วมกันลักลอบค้าสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครองทางโซเชียลมีเดีย พบบุคคลใช้ชื่อเฟซบุ๊ก “Tamonwan Pang” ได้มีการเสนอขายซากเสือโคร่ง เมื่อทราบดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ร่วมกันทำการสืบสวนติดตามเบาะแสกระทั่งทราบชื่อของเจ้าของเฟซบุ๊กและผู้ร่วมกระทำความผิดคือ นายรุ่งโรจน์ และ น.ส.ธมลวรรณ และในเวลาต่อมาทางเจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนเพื่อทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน โดยได้ทำการติดต่อขอซื้อของกลางและได้รับการเสนอขายซากสัตว์ทั้งหมดในราคา 370,000 บาท

โดยทางผู้ต้องหาทั้งสองอ้างว่าซากเสือโคร่งได้มีบุคคลไปซื้อก่อนหน้านี้แล้ว และได้มีการส่งไปรษณีย์ที่ตลาดรวมโชค อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยก่อนหน้านี้ได้ไปรับของกลางซากหนังเสือลายเมฆ จำนวน 5 ชิ้น, ซากหนังเสือดาว จำนวน 2 ชิ้น และ ซากหนังเสือไฟ จำนวน 1 ชิ้น มาจากประเทศเพื่อนบ้าน ด้านฝั่งตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย และได้มีการนัดส่งของกลางกันที่ห้อง

 

พักของโรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองเชียงใหม่ เวลาประมาณ 21.00 น. ซึ่งเมื่อถึงเวลาทางเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าทำการบุกเข้าไปยังห้องพักก็พบผู้ต้องหาทั้งสองคนและของกลางทั้งหมดอยู่ภายในห้อง จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน และทั้งสองได้ยอมรับว่าเป็นของกลางทั้งหมดเป็นนของตนจริง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัวดำเนินคดี

โดยการกระทำดังกล่าวมีความผิดฐานนำเข้าสัตว์ป่าชนิดที่รัฐมตรีประกาศกำหนด โดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี หรือพาของที่ยังมิได้เสียภาษีอากร หรือของต้องห้ามต้องจำกัดหรือของที่ยังไม่ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดหรือตัวบทกฎหมายอันเกี่ยวแก่ของนั้น หรือช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งสัตว์ป่าโดยได้มาโดยการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และได้ส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดให้ทางพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น