คุณตายากจน โดนสวมชื่อ ซื้อเก๋งหรู-ฮาเลย์ เจ้าหนี้เรียกวุ่น โร่พึ่งสื่อฯช่วย คนร้ายเผ่นแล้ว

คุณตาวัย 69 พร้อมลูกชาย หอบหลักฐานร้องสื่อ เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ หลังถูกแก๊งมิจฉาชีพ สวมรอย เอาชื่อไปลงทะเบียนซิมมือถือและไปซื้อรถหรู ทั้งเก๋ง-มอเตอร์ไซค์ ฮาเลย์ ก่อนเชิดหาย เจ้าตัวถูกหมายเรียกจากตำรวจที่ จ.อุบลราชธานี ทั้งๆ ที่ไม่เคยไปเหยียบ เดือดร้อนกันทั้งครอบครัว

เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 10 ก.ค.60 นายเสกสรร สิงห์คะราช อายุ 30 ปี พร้อมนายสมบูรณ์ สิงห์คะราช อายุ 69 ปี สองพ่อลูกชาวตำบลหนองตอง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ได้เดินทางนำเอกสารหลักฐานเข้าพบกับสื่อมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอความเป็นธรรม และเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ กรณีที่ถูกมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อของนายสมบูรณ์ นำไปลงทะเบียนเปิดใช้ซิมโทรศัพท์มือถือ จากนั้นนำไปใช้ในการโทรศัพท์ติดต่อซื้อรถยนต์ราคาแพงจากผู้เสียหายแล้วหลบหนีไปในพื้นที่อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งทำให้นายสมบูรณ์ ได้รับความเดือดร้อนและเสียหายด้วย เนื่องจากล่าสุดได้รับการติดต่อจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ให้นายสมบูรณ์ เดินทางไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีดังกล่าว ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นใดๆ ทั้งสิ้นในคดีดังกล่าว

ทั้งนี้ นายเสกสรรค์ ได้เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า สืบนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ก.พ.60 ที่ผ่านมา นายสมบูรณ์ บิดาของตน ได้รับหมายเรียกให้เดินทางไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเขื่องใน จ.อุบลราชธานี เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการซื้อรถยนต์ โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ราคาตกลงซื้อขาย 6 แสนบาท โดยมิจฉาชีพโทรติดต่อซื้อขายรถยนต์คันดังกล่าวกับผู้เสียหาย จากนั้นได้มีการส่งข้อความปลอมว่าได้มีการโอนเงินให้ จนทำให้ผู้ขายหลงเชื่อทำสัญญาและส่งมอบรถให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งกว่าจะมีการตรวจสอบพบว่ายังไม่มีการโอนเงินจำนวนดังกล่าวเข้าบัญชี กลุ่มมิจฉาชีพก็ได้นำรถคันดังกล่าวหลบหนีไปแล้ว ทั้งนี้หลังจากนั้นผู้เสียหายได้มีการแจ้งความและตรวจสอบพบว่าเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการติดต่อซื้อขายนั้นได้มีการลงทะเบียนโดยใช้บัตรประชาชนของนายสมบูรณ์ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้มีการออกหมายเรียกไปให้ปากคำในฐานะพยานแล้วครั้งหนึ่ง

กระทั่งล่าสุดรับการติดต่อมาอีกครั้งให้นายสมบูรณ์ ไปรับทราบข้อกล่าวหาในคดีดังกล่าวในวันที่ 17 ก.ค.60 นี้ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ทางครอบครัวรู้สึกร้อนใจและได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เพราะนายสมบูรณ์ไม่เคยลงทะเบียนเปิดใช้เบอร์โทรศัพท์มือถือดังกล่าว แต่กำลังจะต้องตกเป็นผู้ต้องหา ซึ่งที่ผ่านมาได้เคยพยายามร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่เพื่อขอความเป็นธรรมแล้ว นอกจากนี้ยังได้ติดต่อไปยังทางดีแทคที่เป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ดังกล่าวให้ช่วยตรวจสอบด้วยว่ามีการแอบอ้างชื่อและนำหลักฐานของนายสมบูรณ์ไปลงทะเบียนเปิดใช้ซิมโทรศัพท์มือถือของดีแทคได้อย่างไร แต่จนถึงเวลานี้ยังไม่ได้รับรายละเอียดที่ชัดเจนแต่อย่างใด

นายเสกสรรค์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือน ก.ค.59 ที่ผ่านมา นายสมบูรณ์ เคยได้รับหมายเรียกให้ไปเป็นพยานในกรณีลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วครั้งหนึ่งจากสถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม กรุงเทพฯ โดยกรณีนั้นมีผู้ที่แอบอ้างชื่อของนายสมบูรณ์ นำไปลงทะเบียนเปิดใช้ซิมโทรศัพท์มือถือของดีแทคเช่นกัน แล้วนำไปใช้ในการติดต่อซื้อรถจักรยานยนต์ฮาร์เลย์เดวิดสัน ในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งนายสมบูรณ์ได้เข้าให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็น ใดๆกับเบอร์โทรศัพท์ดังกล่าวและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานด้วยที่สถานีตำรวจภูธรหนองตอง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจากนั้นกรณีดังกล่าวนั้นได้ยุติไป กระทั่งมาเกิดกรณีเดียวกันนี้อีกครั้ง

อย่างไรก็ตามนายเสกสรรค์ ยืนยันว่า นายสมบูรณ์ ผู้เป็นพ่อ ไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือมานานประมาณ 2 ปีแล้ว และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นกับมิจฉาชีพที่ก่อเหตุแต่อย่างใด โดยเชื่อว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาจากปัญหาการลงทะเบียนเปิดใช้ซิมโทรศัพท์มือถือของผู้ให้บริการที่ปล่อยให้มีผู้นำหลักฐานของนายสมบูรณ์ไปใช้แอบอ้างลงทะเบียนได้ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นกับทางผู้ให้บริการพบว่ามีเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ชื่อของนายสมบูรณ์ ลงทะเบียนอีกหลายเบอร์และเป็นการเปิดเบอร์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งๆที่นายสมบูรณ์ไม่เคยเดินทางออกนอกพื้นที่เลยและมีผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งคนทั้งหมู่บ้านให้การรับรองยืนยันได้ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ครอบครัวเดือดร้อนมาก เพราะฐานะยากจน ไม่มีเงินมากมายที่จะนำมาใช้จ่ายเพื่อแก้ข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริงให้กับตัวเอง จึงต้องการร้องขอความเป็นธรรมจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการประสานกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในการให้ความกระจ่างชัดว่ามีการปล่อยให้มีการแอบอ้างชื่อบุคคลอื่นไปลงทะเบียนเปิดใช้ซิมโทรศัพท์มือถือได้อย่างไร และผู้ที่แอบอ้างเป็นผู้ใด เพื่อนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายที่แท้จริง

ร่วมแสดงความคิดเห็น