น้ำป่าหลากถล่ม เตือนราษฎร จุดเสี่ยงให้ระวัง สั่งปิดอุทยาน-น้ำตก อุตุฯเตือนมรสุมผ่าน

ฝนถล่มเชียงใหม่หลายพื้นที่ได้รับความเสียหาย ล่าสุดพื้นที่ อ.เชียงดาวเกิดน้ำป่าหลาก เข้าพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนราษฎรบ้านห้วยไส้ใน หมู่ 7 ต.เมืองนะ ทางเจ้าหน้าที่เร่งเข้าช่วยเหลือและสำรวจความเสียหาย อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เจ้าหน้าที่ได้สั่งปิดการเข้าเที่ยวชมน้ำตก 3 แห่งชั่วคราว ส่วนที่อ.จอมทอง อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ สั่งเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวเฝ้าระวังน้ำในน้ำตกวชิรธาร หลังปริมาณน้ำสูง ไหลเชี่ยว หวั่นเกิดน้ำป่าหลาก ขณะที่ทางอุตุนิยมวิทยา เตือนภาคเหนือฝนตกหนักกำชับประชาชนติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง ด้านจังหวัดเชียงใหม่ พ่อเมืองออกหนังสือแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องรับมือพายุฝนและน้ำป่าหลากฉับพลัน
วันที่ 17 กรกฎาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ในหลายพื้นที่ภาคเหนือตอนบนได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนดังกล่าว โดยเฉพาะในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งล่าสุดทางด้าน นายไพรินทร์ ลิ่มเจริญ หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ได้รายงานว่าในพื้นที่ อ.เชียงดาว ได้มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาได้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ที่บ้านห้วยไส้ใน หมู่ 7 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ. เชียงใหม่ ในเบื้องต้นทางสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพบว่ามีพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนราษฎร ซึ่งในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ในช่วงของการสำรวจความเสียหาย และจะได้ให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัย
นอกจากนี้ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหล่บ่าเข้ามาในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณน้ำตก 3 แห่ง ที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จังหวัดเชียงใหม่ คือน้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก ในอำเภอแม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า ในอำเภอแม่แตง ซึ่งเป็นน้ำจากสายเดียวกัน ซึ่งน้ำป่าไหลหลากเข้ามาในพื้นที่ ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น มีความรุนแรงและเป็นสีแดงขุ่น เจ้าหน้าที่จึงได้ประกาศปิดการเข้าเที่ยวชมน้ำตกชั่วคราว พร้อมทั้งได้แจ้งให้ผู้นำหมู่บ้านที่อยู่ท้ายน้ำมีบ้านติดกับลำน้ำและอยู่ในที่ราบต่ำรับทราบ เพื่อเตือนให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากน้ำท่วมฉับพลันตลอด 24 ชั่วโมง และเบื้องต้น นายกริชสยาม คงสตรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าวันนี้ทางอุทยานได้เปิดให้เข้าชมน้ำตกทั้ง 3 แห่ง ได้ตามปกติ แต่ไม่ให้นักท่องเที่ยวลงไปเล่นน้ำ เพราะถึงแม้ว่าระดับน้ำจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่น้ำก็ยังอยู่ในระดับสูงกว่าปกติเล็กน้อย ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จะประเมินสถานการณ์เป็นรายชั่วโมง           ขณะเดียวกันมีรายงานจากทางด้านอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ด้วยว่าได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องตลอดทั้งวันส่งผลให้น้ำตกวชิรธาร มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีกระแสน้ำไหลแรง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ต้องเร่งสั่งห้ามประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าใกล้ เพื่อความปลอดภัย และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันเหตุน้ำป่าหลากฉับพลัน

ขณะเดียวกัน ทางด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ รายงานสภาพอากาศในช่วงระยะนี้ว่า ภาคเหนือมีฝนตกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย ลักษณะสําคัญทางอุตุนิยมวิทยา คือ ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทําให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ โดยภาคเหนือตอนบนมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ และน่าน ส่วนที่จังหวัดเชียงใหม่ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และฝนตกหนักบางแห่ง
อย่างไรก็ตามทางด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มีหนังสือวิทยุสื่อสาร ด่วนที่สุด สั่งการนายอำเภอทุกแห่ง รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ แจ้งเตือนประชาชนในช่วงนนี้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ในบริเวณภาคเหนือ ขอให้ประชาชน ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ ข้อมูลข่าวสารของทางราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะกรณีพื้นที่ที่มีฝนตกหนักสะสมสูง รวมถึงพื้นที่ที่มีการระบายน้ำออกจากแหล่งเก็บกักน้ำ ตลอดจนขอให้จัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ และยานพาหนะ รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เผชิญเหตุพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบภัยสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784 และ ขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัยของทางราชการอย่างต่อเนื่อง

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น