แห่แจ้งความจับ หนุ่มเชิดกล้องฯ หนีเข้ากลีบเมฆ

           หนุ่มแสบอ้างตัวเป็นออแกไนซ์ ตระเวนเช่ากล้อง อาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจของเพื่อนในวงการ ก่อนเชิดหนีลอยนวล ผู้เสียหายนับสิบราย วิ่งโร่เข้าแจ้งความโรงพักช้างเผือก หลังติดต่อไม่ได้ เบื้องต้นทราบว่ามีกล้องถูกเชิดไปร่วม 30 ตัว บางส่วนถูกเอาไปจำนำ วอนตำรวจเร่งตามตัวมาดำเนินคดี

เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 19 กรกฎาคม 2560 ที่ห้องสอบสวน สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายพิชชัญ เป็งศรี อายุ 30 ปี พร้อมด้วยผู้เสียหายหลายรายได้นำหลักฐานเดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เขื่อนแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.ช้างเผือก เพื่อขอให้เร่งติดตามตัว นายสุเมธ นันพนัก อายุ 24 ปี ที่อยู่ 32 ม.7 ต.มะกอก อ.ป่าซาง จ.ลำพูน หลังถูกชายคนดังกล่าวก่อเหตุลักษณะยักยอกทรัพย์โดยการแอบอ้างตัวเป็นออแกไนซ์ ทำการเช่ากล้อง อาทิ กล้องวีดีโอยี่ห้อ gopro, Sony, canon แล้วเชิดหายหลบหนีไป ซึ่งล่าสุดจากการตรวจสอบทราบว่ามีผู้เสียหายแล้วถึง 11 ราย ที่ถูกชายคนดังกล่าวก่อเหตุในลักษณะเดียวกันและมีกล้องที่สูญหายกว่า 30 ตัว คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้เสียหายได้เริ่มทยอยเดินทางเข้ามาแจ้งความอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ทาง นายพิชชัญ เป็งศรี อายุ 30 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนได้รู้จักกับ นายสุเมธ นันพนัก ผู้ก่อเหตุผ่านทางคนรู้จัก โดยทราบว่าได้เปิดร้านอยู่แถวย่านเจ็ดยอดพลาซ่า แล้วต่อมาทาง นายสุเมธ นันพนัก ได้มาติดต่อขอเช่ากล้องจากทางตนไป 2 ตัว ซึ่งตนก็ยินยอมให้เช้าตามปกติ ในราคาวันละ 300-500 บาท โดยแล้วแต่ชนิดของกล้องและอุปกรณ์ที่ติดไป และก่อหน้านี้ นายสุเมธ นันพนัก นั้นก็ได้จ่ายค่าเช่าตามปกติไม่มีปัญหาอะไร ตนจึงให้ความไว้ใจแล้วให้เช่ากล้องอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา จนกระทั่งครั้งล่าสุดทาง นายสุเมธ นันพนัก ได้ติดต่อมาหาตนเพื่อขอเช่ากล้องมากขึ้น โดยอ้างว่าต้องถ่ายงานใหญ่ใช้กล้องหลายตัว แต่ด้วยความที่ตนไว้ใจ เนื่องจากที่ผ่านมา นายสุเมธ นันพนัก นั้นก็ได้มีใช้บริการอยู่บ่อยครั้ง และก็ได้มีการคืนกล้องจ่ายค่าเช่าตรงตามเวลาที่กำหนด จึงได้ให้เช่ายืมกล้องไปตลอดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 17 ตัว

จนกระทั่งในเวลาต่อมา หลังจากที่ทาง นายสุเมธ นันพนัก เช่ากล้องไปแล้วเมื่อครบกำหนดการส่งคืนตนได้โทรไปทำการสอบถามถึงค่าเช่า และการส่งคืนกล้องที่เช่าไปแต่ทาง นายสุเมธ นันพนัก ก็จะพูดบ่ายเบี่ยง และอ้างว่าได้นำเงินไปใช้จ่ายในส่วนอื่นอยู่ จึงยังไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าที่ค้างไว้ และขอเวลาหาเงินก่อนเพื่อจะนำเงินมาจ่าย พอผ่านไประยะหนึ่ง นายสุเมธ นันพนัก ก็ยังไม่ยอมจ่ายเงินค่าเช่าและกล้องที่ยืมไปก็ไม่ได้คืน ตนจึงได้ติดต่อไปอีกครั้งทาง นายสุเมธ นันพนัก ก็ยอมรับว่าได้นำกล้องไปจำนำ แต่เมื่อทางตนพยายามติดต่อกับ นายสุเมธ นันพนัก อีกครั้งก็ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว และนอกจากนี้จากการตรวจสอบยังทราบว่ามีผู้เสียหายรายอื่นๆ นอกจากตนที่ถูกนายสุเมธ นันพนัก หลอกในลักษณะเดียวกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนที่ที่รู้จักกันในวงการถ่ายภาพและเปิดร้านเช่ากล้อง ดังนั้นจึงได้มีการรวมตัวกันรวบรวมเอกสารทั้งหมดเพื่อเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอให้ดำเนินการติดตามตัว นายสุเมธ นันพนัก มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตามภายหลังที่ทางผู้เสียหายทั้งหมดเดินทางเข้าแจ้งความกับทาง ร.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เขื่อนแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.ช้างเผือก แล้วนั้นได้มีการรับเรื่องดังกล่าวไว้ และทางพนักงานสอบสวนได้ทำการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน ซึ่งได้ตั้งข้อหาเบื้องต้นคือก่อเหตุยักยอกทรัพย์ โดยจะได้ทำการเร่งติดตามตัว นายสุเมธ นันพนัก มารับทราบข้อกล่าวหา และดำเนินการสอบสวนทางคดีต่อไป

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น