เกษตรกรลำไยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่สุดทน ราคาผลผลิตร่วง รวมตัวยื่นหนังสือร้องผู้ว่าฯ

เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. วันที่ 24 ก.ค.60 ที่บริเวณด้านหน้าอาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายวิทยา กันธวงศ์ ตัวแทนเกษตรกร อ.สารภี พร้อมด้วย ตัวแทนเกษตรกรและกำนันผู้ใหญ่บ้านพื้นที่อำเภอพร้าวและอำเภอสารภี จำนวนประมาณ 150 คน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ราคาลำไยตกต่ำ ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด เนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่ได้ลงทุนกู้เงินจากแหล่งเงินกู้มาเพื่อซื้อปุ๋ยและจ้างแรงงาน แต่เมื่อถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตกลับไม่สามารถขายผลผลิตลำไยได้เงินตามคาดหวังไว้

โดยทางกลุ่มผู้ชุมนุม ได้มีการยื่นข้อเสนอให้ทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเร่งทำการประชุมกลุ่มผู้รับซื้อลำไย (ล้ง) ทุกเจ้าให้เปิดรับซื้อลำไยจากเกษตรกร เนื่องจากมีล้งที่เปิดรับซื้อเพียงไม่กี่เจ้าจึงถูกกดราคาต่ำมาก และในพื้นที่มีล้งเจ้าเล็กๆ หลายแห่งที่มีเงินทุนน้อยจึงไม่เปิดรับซื้อลำไย จึงอยากให้ช่วยปรึกษากับแหล่งเงินทุนปล่อยกู้ให้ล้งเจ้าเล็กๆ ได้มีเงินมารับซื้อลำไยด้วย ขณะเดียวกันขอให้มีการต่อรองให้ล้งลำไยรับซื้อลำไยในราคาที่เกษตรกรอยู่ได้ คือ AA ราคา 20 บาท , A ราคา 15 บาท , B ราคา 10 บาท , C ราคา 3 บาท รวมทั้ง ขอให้ช่วยหาตลาดรับซื้อผลผลิตลำไยทุกรูปแบบทั้งในและต่างประเทศเพื่อสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มเกษตรกรอย่างทั่วถึง
ขณะที่ทางด้าน นายวิทยา กันธวงศ์ ตัวแทนเกษตรกร อ.สารภี กล่าวว่า จากการที่ราคาผลผลิตลำไยตกต่ำอย่างหนักในขณะนี้ทำให้กลุ่มเเกษตรกรผู้เพาะปลูกและผู้ผลิตขณะนี้ไม่สามารถสู้กับสถาณการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งจากเดิมราคาลำไยเกรด A เริ่มต้นอยู่ที่ราคา 20 กว่าบาท แต่ขณะนี้เหลือเพียงราคาแค่ 10 กว่าบาท ซึ่งไม่มีราคากลางที่ทำให้เกษตรกรเกิดความมั่นใจ และทำให้พ่อค้าที่จากเดิมเข้ามารับผลผลิตที่สวนก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปซื้อ เนื่องจากราคาไม่นิ่งจึงทำให้ชาวสวนเกิดความเดือดร้อน โดยก่อนหน้านี้ทางกลุ่มก็ได้มีการประชุมเบื้องต้นที่ อ.สารภี พร้อมทั้งได้มีการเรียกกลุ่มผู้รับซื้อลำไย (ล้ง) ที่ อ.สารภี ที่มีอยู่ประมาณ 2-3 ราย มาพูดคุยกัน ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นคือเมื่อมีการรับซื้อในราคาที่สูง แล้วเมื่อราคาตกลงก็ทำให้กลุ่มผู้รับซื้อ เกิดขาดทุนจนไม่สามารถแบกภาระที่เกิดขึ้นได้ไหว

นอกจากนี้จากการตรวจสอบดูยังพบว่า กลุ่มผู้รับซื้อลำไย (ล้ง) ที่มาลงทุนในเมืองไทยก็ไม่รับซื้อผลผลิต แล้วยังมาถูกกดราคาลงเรื่อยๆ ขณะเดียวกันหากเปรียบเทียบราคาลำไยจากเดิมก่อนจะมี กลุ่มผู้รับซื้อลำไย (ล้ง) จากจีนมาลงทุนก็มีความแตกต่างกัน เนื่องจากไม่มีการควบคุมจนทำให้เกิดผลผลิตล้นตลาด อีกทั้งยังมีผลผลิตลำไยนอกฤดู ทำให้กลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ซึ่งอยากเรียกร้องให้มีมาตรการในการดำเนินการถึงเรื่องนี้ให้เด็ดขาดด้วย
อย่างไรก็ตามภายหลังการชุมนุมครั้งนี้ ทางป้องกันจังหวัดได้เป็นผู้ดำเนินการรับเรื่องร้องเรียนไว้ พร้อมทั้งได้ให้ตัวแทนของกลุ่มผู้ชุมนุมขึ้นไปเจรจากับทางพาณิชย์จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเบื้องต้นได้มีการรับฟังเรื่องร้องเรียนดังกล่าวแล้ว และจะได้ส่งมอบเรื่องให้กับทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้เร่งดำเนินการพิจารณาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น