สถานีอุตุนิยมวิทยาสุโขทัย กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 1 – 2 ส.ค. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะมีฝนมากกว่าบริเวณอื่นๆ ส่วนในช่วงวันที่ 3 – 7 ส.ค. ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยจะมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ตลอดช่วง
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 3 – 7 ส.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสมที่ไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ตลอดช่วง
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 1 – 2 ส.ค. มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรง ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนมากกว่าบริเวณอื่นๆ ส่วนในช่วงวันที่ 3 – 7 ส.ค. จะมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรง ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ บริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีกำลังแรง ตลอดช่วง
อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “โนรู” (NORU) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก จะมีแนวโน้มการเคลื่อนตัวไปประเทศญี่ปุ่น ในช่วงวันที่ 4-7 ส.ค. ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าว ควรตรวจสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย โดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 1 – 2 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนและด้านตะวันตกของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 3 – 7 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณห ภูมิสูงสุด 30-35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 1 – 2 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนและด้านตะวันออกของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 3 – 7 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 1 – 2 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 3 – 7 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 1 – 2 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 3 – 7 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 -35 กม./ชม. ทะ เลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมาก กว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศา อุณห ภูมิสูงสุด 32-35 องศา
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 1 – 2 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 3 – 7 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 -35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศา
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ เกือบตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 3 – 7 ส.ค.ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 -40 กม./ชม. จ.ภูเก็ต ขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมาก กว่า 3 เมตร จ.กระบี่ ลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมาก กว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศา
กทม.และปริมณฑล ในช่วงวันที่ 1 – 2 ส.ค. มีเมฆบางส่วนและมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากในช่วงบ่ายถึงค่ำ ส่วนในช่วงวันที่ 3 – 7 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงบ่าย-ค่ำ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความ เร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา
นายธาดา ศรัทธา ผอ.สถานีอุตุนิยมวิทยาสุโขทัย
ร่วมแสดงความคิดเห็น