หนุ่มซิ่งกระบะชนทหารดับนำกระเช้าเข้าเยี่ยมหารอีกคนที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว ยืนยันเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

หนุ่มซิ่งกระบะชนทหารดับนำกระเช้าเข้าเยี่ยมหารอีกคนที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว ยืนยันเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจะรับผิดชอบทุกอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งเดินทางไปเคารพศพ สิบเอกธนธน สามเป็ง ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ขณะที่ทางญาติเตรียมจัดพิธีฌาปนกิจในวันศุกร์ที่ 4 ส.ค.60 นี้ ก่อนทำการเจรจากับอีกฝ่าย เพื่อตกลงการเยียวยาและค่าเสียหายในส่วนอื่นๆ จากกรณีเหตุการณ์ที่มีคนขับรถยนต์กระบะคันหนึ่งขับด้วยความเร็วสูงชนรถจักรยานยนต์ที่จอดติดไฟแดงอยู่บริเวณเชิงสะพานนวรัฐ ด้านถนนเจริญเมือง ในตัวเมืองเชียงใหม่ เป็นเหตุให้สิบเอกธนธน สามเป็ง อายุ 30 ปี เสียชีวิต และสิบเอกนิรุต ศรีคำ อายุ 28 ปี ได้รับบาดเจ็บ โดยหลังเกิดเหตุไม่ได้จอดดูเหตุการณ์หรือช่วยเหลือใดๆ และยังไปนั่งดื่มกินที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง จนมีการนำเรื่องราวดังกล่าวพร้อมคลิปเหตุการณ์ไปโพสต์ลงโซเชียลมีเดียและเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ตามที่มีข่าวเสนออกไปแล้วนั้น
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 2 ส.ค.60 สิบเอกนิรุต ศรีคำ อายุ 28 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บขาหักนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดเหตุคืนวันอาทิตย์ที่ 30 ก.ค.60 จนถึงปัจจุบันยังไม่เคยได้รับการติดต่อใดจากทางฝ่ายคนขับรถยนต์กระบะเพื่อแสดงความห่วงใยหรือแสดงความรับผิดชอบใดๆ เลย แต่ทราบว่าทางฝ่ายคนขับรถกระบะกลับให้ข่าวผ่านสื่อว่าได้มีการเข้ามาเยี่ยมและแสดงความรับผิดชอบแล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริง และทำให้เสียความรู้สึกอย่างมาก ทั้งๆ ที่หากเข้ามาพูดคุยแสดงความรับผิดชอบและสำนึกผิดตั้งแต่แรก สถานการณ์ต่างๆ น่าจะดีกว่านี้ โดยเวลานี้ยืนยันว่าจะดำเนินการตามกฎหมายกับคนขับรถกระบะจนถึงที่สุด
ขณะเดียวกัน สิบเอกนิรุต เล่าเหตุการณ์ในคืนที่เกิดเหตุว่า เพิ่งจอดรถติดไฟแดง ขณะนั้นรถกระบะได้ขับมาด้านหลังด้วยความเร็ว และชนรถที่ตัวเองกับสิบเอกธนธน ขับขี่มาด้วยกัน โดยที่สิบเอกธนธน ถูกชนจนร่างลอยกระเด็นและเสียชีวิต ส่วนรถกระบะที่ชนได้ขับฝ่าไฟแดงไปโดยไม่ได้จอดลงมาดูใดๆ และพลเมืองดีได้ขับขี่ตามไปพบว่าไปจอดรถใกล้กับร้านอาหารแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียงและเข้าไปใช้บริการในร้านดังกล่าว ทั้งนี้ตั้งข้อสังเกตว่า หากคนขับรถกระบะไม่ได้เมาและมีสติสัมปชัญญะ แล้วเหตุใดจึงขับชนรถที่จอดติดไฟแดงและยังขับต่อไปโดยไม่เหลียวแล นอกจากนี้ อาการบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ กระทบต่อหน้าที่การงานอย่างมาก เพราะรับราชการเป็นทหารและต้องใช้ร่างกายในการปฏิบัติหน้าที่ ขณะเดียวกันกระทบต่อการฝึกซ้อมยิงปืนทางยุทธวิธีที่ตัวเองเป็นหนึ่งในทีมนักกีฬาของต้นสังกัดอยู่ด้วยและกำลังเตรียมตัวที่จะลงแข่งคัดเลือกเป็นตัวแทนประเทศในเร็วๆ นี้ ซึ่งจากนี้ต้องพักรักษาตัวอีกอย่างน้อย 3 เดือน และจากนั้นต้องทำกายภาพบำบัดอีก โดยยอมรับว่าเป็นห่วงว่าจากนี้สภาพร่างกายอาจจะไม่แข็งแรงสมบูรณ์เหมือนเดิมอีกแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในวันเดียวกันนี้ ช่วงเย็นเวลาประมาณ 16.00 น. ทาง นายณัฏฐวิทย์ เวียงหก อายุ 31 ปี ที่ขับรถกระบะชนรถจักรยานยนต์ที่จอดติดไฟแดง จนเป็นเหตุให้ทหารที่ขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิต 1นาย และบาดเจ็บ 1 นาย แต่ไม่ได้หยุดรถดู ได้นำกระเช้าเข้าเยี่ยมอาการของ สิบเอกนิรุต ศรีคำ อายุ 28 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว เพื่อแสดงความเสียใจและขอโทษ รวมทั้งมีการพูดคุยกันเกี่ยวกับความรับผิดชอบ ซึ่งในเบื้องต้น นายณัฏฐวิทย์ ได้ทำการสอบถามถึงอาการบาดเจ็บ และได้ทำการเซ็นต์เอกสารเพื่อยอมรับผิดและจะรับผิดชอบทุกอย่างอย่างเต็มที่ โดยขั้นแรกจะดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้ทั้งหมด ส่วนการเยียวยาและค่าเสียหายในส่วนอื่นๆ จะมีการเจรจาในรายละเอียดอีกครั้งหลังจากเสร็จสิ้นเรื่องงานศพของ สิบเอกธนธน สามเป็ง อายุ 30 ปี ที่เสียชีวิต จากนั้นทาง นายณัฏฐวิทย์ ยังได้เดินทางไปร่วมพิธีศพของ สิบเอกธนธน เพื่อแสดงความเสียใจพร้อมทั้งมอบพวงหรีดแสดงความเคารพศพของผู้ตายที่ วัดหนองแสะ ต.ห้วยทราย อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดยศพของสิบเอกธนธน จะมีพิธีฌาปนกิจในวันศุกร์ที่ 4 ส.ค.60 เวลา 13.00 น.

ร่วมแสดงความคิดเห็น