รมช.พาณิชย์ ปล่อยขบวนคาราวาน รถลำไย เชียงใหม่-ลำพูน

ที่บริเวณกาดดอยติ อ.เมือง จ.ลำพูน นายสนธิรัตน์ สินธิจิรวงศ์ รมช.กระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนคาราวานรถลำไย เชียงใหม่-ลำพูน สู่ผู้บริโภคโดยตรงทั่วประเทศ โดยมี น.ส.สุทัศนีย์ ราชเรืองระบิน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวรายงาน วัตถุประสงค์ของการจัดงาน นายมนัส อ่ำทอง รอง ผวจ.กล่าวต้อนรับ นายวิเชียร ชวลิต ที่ปรึกษา รมช.กระทรวงพาณิชย์ นายวิชัย โภชนกิจ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ คณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ พาณิชย์กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ หน.ส่วนราชการ จ.ลำพูน และเกษตรกร จ.ลำพูน จ.เชียงใหม่ ร่วมปล่อยขบวนคาราวานรถลำไย ณ บริเวณกาดดอยติ (ฝั่งตรงข้ามรูปเหมือนครูบาเจ้าศรีวิชัย)

ซึ่งกิจกรรมพิธีปล่อยขบวนคาราวานรถลำไย เชียงใหม่-ลำพูน สู่ผู้บริโภคโดยตรงทั่วประเทศ ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์เชิญชวนบริโภคลำไย และกระจายลำไยคุณภาพจาก จ.ลำพูน และ จ.เชียงใหม่ สู่ผู้บริโภค ทั่วประเทศ โดยมี สนง.พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เป็นปลายทางช่วยกระจายผลผลิตลำไย ซึ่งในวันนี้มีรถลำไยขบวนจาก จ.ลำพูน เข้าร่วมขบวน จำนวน 15 คัน ปริมาณลำไย 37.5 ตัน และ จ.เชียงใหม่ เข้าร่วมขบวน จำนวน 15 คัน ปริมาณลำไย 45 ตัน รวมปริมาณทั้งสิ้น 82.5 ตัน กระจายผลิตลำไยสู่ผู้บริโภคทั่วประเทศ และพร้อมให้ผู้บริโภครับประทาน

นอกเหนือจากนั้น กระทรวงพาณิชย์ โดย สนง.พาณิชย์ จ.ลำพูน ร่วมกับ สนง.พาณิชย์ จ.เชียงใหม่ ได้เชิญศิลปินคนเหนือ “หลิว”อาจารียา พรหมพฤกษ์ หรือที่รู้จักในนาม (หน้ากากลำไย The Mask Singer 2) มาเป็นตัวแทนชาวจังหวัดภาคเหนือ ร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์เชิญชวนบริโภคลำไย และกระตุ้นผู้บริโภคภายในประเทศ และต่างประ เทศ หันมาบริโภคลำไย เพื่อเป็นการช่วยเกษตรกรในพื้นที่อีกทางหนึ่งด้วย

นายสนธิรัตน์ สินธิจิรวงศ์ รมช.กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้ดูแลราคาสินค้าเกษตร และการช่วยเหลือเกษตรกร ถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่ต้องดูแลพี่น้องเกษตรกรให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งสินค้าลำไยเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญ ที่สร้างรายได้ให้เกษตรกรภาคเหนือ และในปีนี้ผลผลิตลำไยออกมาก แบบกระจุกตัวในเดือน ส.ค.60 ประกอบกับภาวะการส่งออกลำไยไปต่างประเทศชะลอตัว ภาครัฐมิได้นิ่งนอนใจกับสถานการณ์ดังกล่าว จึงได้มีมาตรการช่วยเหลือทั้งด้านการตลาดภายในประเทศ โดยการเชื่อมโยงผลผลิตลำไยผ่านช่องทางการตลาดต่างๆ เช่น ตลาดสด ห้างสรรพสินค้า ร่วมถึงจัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์การบริโภคผลไม้ ปริมาณรวมกว่า 2,500 ตัน

นอกจากนั้น ยังประสานขอความอนุเคราะห์กระทรวงมหาดไทย ขอให้จังหวัดปลายทางประสานอำเภอทุกอำเภอ ช่วยรับซื้อผลผลิตลำไยภาคเหนือ อย่างน้อยอำเภอละ 3 ตัน โดยมี สนง.พาณิชย์จังหวัดเป็นผู้ประสานงาน อีกทั้งด้านการตลาดต่างประเทศที่ยังมุ่งขยายไปยังประเทศใหม่ๆ นอกจากประเทศจีน เวียดนาม เช่นอินเดีย และประเทศในแถบตะวันออกกลาง ซึ่งจะช่วยให้ผลผลิตลำไย มีการกระจายไปยังตลาดมากขึ้น และเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจภาพรวม ในการเสริมสร้างให้เกิดความเข้มแข้ง จากภายใน หรือ Strength from within ตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น