สักการะพระอุปคุตที่พระเจดีย์กลางแม่น้ำ เมืองสิเรียม

ในวันเสาร์นี้วันนี้ เราเดินทางออกจาก เมืองย่างกุ้ง สู่สิเรียม เป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ตรงจุดบรรจบของแม่น้ำหงสาและแม่น้ำย่างกุ้ง ซึ่งเมื่อในอดีตเคยเป็นเมืองท่าสำคัญในการเดินเรือของชาวโปรตุเกส เพื่อไปนมัสการ “พระอุปคุต” ที่ “พระเจดีย์เยพญา” หรือ “พระเจดีย์กลางน้ำ”

ปัจจุบันเมืองสิเรียมเป็นเมืองอุตสาหกรรม ชาวเมืองส่วนใหญ่ทำงานในโรงกลั่นน้ำมัน หรือ ไม่ก็เป็นลูกจ้างในโรงเบียร์ ประชากรส่วนมากเป็นชาวพม่าเชื้อชายอินเดีย เพราะในสมัยที่พม่าเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ สิเรียมเป็นศูนย์กลางของเมืองท่าและยังเป็นแหล่งผลิตอาหาร ส่งสู่กรุงย่างกุ้ง และอังกฤษต้องเกณฑ์แรงงานอินเดียมาทำนา แล้วพากันมาปักหลักทำมาหากินกันจนถึงปัจจุบันนี้
พระเจดีย์เยเลพญา หรือ เจดีย์กลางน้ำ ตามตำนานเล่าว่า เจดีย์แห่งนี้สร้างในสมัยมอญเรืองอำนาจ เมื่อราวพันกว่าปีก่อน โดยพระสงฆ์รูปหนึ่งฝันว่าที่แห่งนี้มีเจดีย์สวยงาม แล้วได้ไปทูลกษัตริย์ในสมัยนั้นเพื่อขอให้สร้างเจดีย์กลางน้ำแห่งนี้ และยังได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า
ถ้าหากมีน้ำท่วมก็ขออย่าให้ท่วมองค์พระเจดีย์ ถ้ามีผู้คนมากราบไหว้จำนวนมากเท่าไหร่ก็ขอให้ไม่มีวันเต็มล้นพื้นที่ เพราะเจดีย์แห่งนี้สร้างบนเกาะมีสภาพเป็นเพียงเกาะเล็กๆ กลางแม่น้ำกว้างใหญ่เท่านั้น
ว่ากันว่าหากมีงานพิธีจัดขึ้นที่นี่ สามารถจุคนได้ถึง 2 หมื่นคน เป็นพระเจดีย์กลางน้ำ มีเรือบริการรับส่งนักท่องเที่ยว ข้ามฝั่งไปยังพระเจดีย์ จอดอยู่ ภายในศาลริมน้ำจะมีแม่ค้าเอาดอกไม้ ธูปเทียน พวงมาลัย ธง-ฉัตรมาขาย ก่อนลงเรือต้องถอดรองเท้าก่อนขึ้นเรือ มีชาวพม่ามานมัสการเดิน
ตามริมน้ำจำนวนมาก ระหว่างประตูขึ้นไปจะพบยักษ์สีเขียว 2 ตน ที่ประตูทางเข้า นั่งขนาบอยู่ซ้าย-ขวา คนพม่าเชื่อกันว่าหากนำมือไปลูบตามตัวยักษ์ เช่น ลูบหลังแล้วจึงมาลูบหลังของตัวเอง อาการปวดหลังก็จะหายไป หากปวดที่จุดอื่นก็ให้ลูบตัวยักษ์ที่จุดนั้นแล้วมาลูบร่างกาย ตัวเองจะทำให้ความเจ็บปวดหายไปได้
ตามความเชื่อแล้ว เจดีย์เยเลพญา เป็นเจดีย์ยอดฮิตของพ่อค้าแม่ค้า และนักธุรกิจทั้งหลาย
เพราะเชื่อกันว่าหากใครได้มีโอกาสมาขอพรที่เจดีย์เยเลพญาแล้วจะทำให้การค้ารุ่งเรือง
ประตูทางเข้า ไม้ฉลุทาสีทองสวยมาก นมัสการพระพุทธรูปเก่าแก่ทรงเครื่องจักรพรรดิ
ประดิษฐานบนบัลลังก์ไม้แกะสลักปิดทองคำทองเปลวที่มีความงดงามอธิษฐานและร่วมทำบุญบูรณะพระเจดีย์ นมัสการพระพุทธรูปแกะสลักศักดิ์สิทธิ์บริเวณพระเจดีย์ องค์พระประธานในวัด

สิ่งของที่นำมาบูชาพระคือ มะพร้าว กล้วย ดอกไม้ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือใบชัยชนะ ในส่วน สำคัญที่สุด ของพระเจดีย์เยเลพญาจะอยู่ที่มุขที่ยื่นไปในน้ำด้านหลังพระเจดีย์ เป็นที่ประดิษฐานของ “พระอุปคุต”มีตำนานกล่าวไว้ว่าเมื่อพระเจ้าอโศกมหาราชเห็นพระอุปคุตที่ได้รับนิมนต์ขึ้นมาจากใต้สมุทรเพื่อป้องกันพระยามารทำลายการฉลองเจดีย์ พอเห็นท่านผอมแห้งจึงไม่ศรัทธาไม่น่าจะปราบมารได้จึงปล่อยช้างตกมันมาทำร้ายเป็นการทดสอบ พระอุปคุต
แสดงฤทธิ์ปราบช้างได้ พระเจ้าอโศกจึงถวายภัตตาหาร แต่ใกล้จะเลยเวลาฉันแล้ว และท่านได้กล่าวกับพระอาทิตย์ว่าหยุดก่อนเถิดท่านพระอาทิตย์ เราเพิ่งปฏิบัติกิจเสร็จและยังไม่ได้ฉันอาหารเลย ว่ากันว่าพระอาทิตย์ก็หยุดเพื่อรอพระอุปคุตฉันอาหารจนเสร็จ พระอุปคุตจึงมองพระอาทิตย์ไปด้วยฉันอาหารไปด้วย นัยว่าห้ามพระอาทิตย์ไม่ให้เคลื่อนเกินศีรษะไม่ให้เลยเวลาฉันเพล ดังนั้นจึงนิยมสร้างเป็นรูปพระสงฆ์ล้วงบาตรเงยหน้ามองพระอาทิตย์
ชาวพม่าเชื่อกันวันพระอุปคุตจะบันดาลให้มีกินมีใช้ไม่ขาด และมีโชคลาภ อธิษฐานขอพรท่านเรียบร้อยแล้วก็ให้ยกก้อนหินที่วางอยู่ด้านหน้าท่าน 2 ครั้ง หากท่านรับคำอธิษฐานของเรา ผู้ยกหินเองจะรู้สึกได้ว่าการยกก้อนหินทั้ง 2 ครั้ง จะมีน้ำหนักไม่เท่ากัน แต่หากไม่พบ
ความแตกต่างก็ถือว่าจะไม่ได้ตามคำขอ เดินไปกราบนมัสการพระเจ้าทันใจ ถวายสักการะด้วยกล้วยและมะพร้าว
ได้เวลาอันสมควรลงเรือกลับและต่อรถยนต์ปรับอากาศชั้นหนึ่งกลับสู่เมืองย่างกุ้งกันต่อ
การเดินทาง / เมืองสิเรียมอยู่ห่างจากกรุงย่างกุ้งประมาณ 25 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ถนนคอนกรีต

ร่วมแสดงความคิดเห็น