นักระบาดวิทยาระดับโลก กว่า 90 ประเทศ ประชุมตอบโต้โรคอุบัติใหม่ และภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข.

กระทรวงสาธารณสุขไทย เป็นเจ้าภาพประชุมระดับโลก เครือข่ายระบาดวิทยาภาคสนาม ครั้งที่ 9 ระดมนักระบาดวิทยาจาก 90 ประเทศ ร่วมพัฒนาระบบเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคของประเทศให้เข้มแข็ง เน้นผลิตนักระบาดวิทยาภาคสนาม เพื่อตอบโต้โรคอุบัติใหม่และภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขให้เพียงพอ ตั้งเป้าให้ได้ 1 ต่อ 200,000 ประ ชากร

วันที่ 7 ส.ค.60 ที่โรงแรมดิเอ็มเพรส จ.เชียงใหม่ ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.กระทรวงสาธารณสุข พร้อมนายประจวบ กันธิยะ รอง ผวจ.เชียงใหม่ ดร.ดิออนิซิโอ เฮอรีร่า กีเบิร์ต ผอ. TEPHINET และ นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค ร่วมเปิดการประชุมระดับโลกเครือข่ายระบาดวิทยาภาคสนาม ครั้งที่ 9 (The 9th TEPHINET Global Conference) และสัมมนาระบาดวิทยาแห่งชาติ ครั้งที่ 23 (The 23rd National Epidemiology Seminar) ระหว่างวันที่ 7 – 11 ส.ค.60 พร้อมมอบรางวัลเกียรติคุณระบาดวิทยา โดยมูลนิธิสุชาติ เจตนเสน ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยนักระบาดวิทยา เจ้าหน้าที่สาธารณสุข แพทย์ สัตวแพทย์และนักวิชาการจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ-เอกชน ในประเทศต่างๆ 90 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งสิ้น 1,200 คน

ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวผู้มีบทบาทในการเฝ้าระวังและสอบสวนโรคต่อกรณีการระบาดของโรค รวมถึงการควบคุม ป้องกันโรคในระดับประเทศ มานำเสนอผลงาน แลกเปลี่ยนประ สบการณ์ในการควบคุมและป้องกันโรค เช่น อีโบลา ไข้ซิกา โรคติดต่ออุบัติใหม่อุบัติซ้ำ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง(NCDs) HIV/เอดส์ และโรคจากการประกอบอาชีพ นับเป็นเวทีเชื่อมโยงมาตรฐาน งานระบาดวิทยาของไทยสู่นานาชาติ

นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายคือ พัฒนาศักยภาพงานสาธารณสุขผ่าน โครงการฝึกอบรมระบาดวิทยาภาคสนาม 65 โครง การใน 90 ประเทศสมาชิก เพื่อผลิตนักระบาดวิทยาที่มีสมรรถนะตามมาตรฐาน ให้เป็นกำลังสำคัญในการควบคุมและป้องกันโรคทั้งในประเทศตนเองและในภูมิภาคอื่นๆ ผลักดันให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกผลิตและพัฒนากำลังคนด้านระบาดวิทยาให้เพียงพอ และสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของโรค หรือสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยยับยั้งการระบาดข้ามประเทศได้

ที่ผ่านมา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มีเครือข่ายโครงการฝึกอบรมด้านระบาดวิทยาภาคสนาม (ASEAN plus 3 Field Epidemiology Training Network) โดยมีสมาชิกรวม 13 ประเทศ ประกอบด้วย ประเทศในอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ และจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ โดยสามารถผลิตนักระบาดวิทยาภาคสนามได้ 270 คน ซึ่งมีทั้ง นักระบาดวิทยาภาคสนามจากประเทศอื่น ทั้งนี้ ประเทศไทย ตั้งเป้าหมายในการผลิตนักระบาดวิทยาภาคสนามมืออาชีพให้ได้ในอัตรา 1 ต่อ 200,000 ประชากร เพื่อให้เพียงพอและพร้อมรับมือการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ ในประเทศไทย ภูมิภาคอาเซียน และคาบสมุทรแถบนี้

การประชุมครั้งนี้ มีการนำเสนอบทคัดย่อแบบปากเปล่า 222 เรื่อง และแบบโปสเตอร์ 300 เรื่อง การบรรยายหลัก 17 หัวข้อ นอกจากนี้ ยังมีพิธีมอบรางวัลเกียรติคุณระบาดวิทยา โดยมูลนิธิสุชาติ เจตนเสน จำนวน 2 ประเภท ประเภทที่ 1 นักระบาดวิทยาแห่งชาติ ได้แก่ นพ.วิทยา สวัสดิวุฒิพงศ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ รพ.แม่สอด จ.ตาก ประเภทที่ 2 ผลงานระบาดวิทยาดีเด่น ได้แก่ ศ. ดร.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิท ยาลัยมหิดล และคณะ ในการศึกษาระยะยาวถึงอิทธิพลของปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจหลอดเลือด และเมแทบอลิซึม ในพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

ร่วมแสดงความคิดเห็น