การดื่มสุราแล้วมึนเมาจนหลับภายในร้านนั้น เข้าข่ายผิดกฎหมาย มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท
หลายๆคนคงเคยออกไปเที่ยวดื่มกินตามร้านกลางคืนทั่วไป อาจจะเคยดื่มจนหมดสติ อาเจียน หรือหลับคาโต๊ะ แต่หลายๆคนคงยังไม่ทราบว่า ที่จริงแล้วการกระทำตามที่กล่าวมานั้น เป็นเรื่องที่เข้าข่ายผิดกฏหมาย และอาจถูกปรับได้ โดยที่มี แฟนเพจ “สายตรงกฏหมาย” ได้ออกมาชี้แจงถึงข้อกฏหมายดังนี้
“ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 378 มีหลักคือ ผู้ใดเสพของเมา จนเป็นเหตุให้ตนเมาครองสติไม่ได้ในสาธารณสถาน ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท”
“ร้านอาหารที่เปิดให้คนทั่วไปเข้าไปใช้บริการ ก็ถือได้ว่าเป็นสาธารณสถาน คนที่ไปเมาแล้วฟุบภายในร้าน เมาแล้วหลับภายในร้าน เมาแล้วอ้วกภายในร้าน เข้าข่ายเป็นบุคคลที่ครองสติไม่ได้ และเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายดังกล่าว”
ซึ่งทาง แฟนเพจ “สายตรงกฎหมาย” ก็ได้ยกตัวอย่างของคำพิพากษา ที่เคยมีการพิพากษาในคดีลักษณะคล้ายกันนี้มาเป็นตัวอย่างอีกด้วย
“ร้านอาหารที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าไปใช้บริการได้ เป็นที่สาธารณะ ภายในบ้านส่วนที่ใช้สำหรับให้บุคคลทั่วไปเข้าไปสั่งซื้อและรับประทานอาหาร ถือได้ว่าเป็นสาธารณสถาน
คำพิพากษาฎีกาที่ 69/2535
ภายในบ้านส่วนที่ใช้สำหรับให้บุคคลทั่วไปเข้าไปสั่งซื้อและรับประทานอาหาร ถือได้ว่าเป็นสาธารณสถานซึ่งประชาชนรวมทั้งจำเลยที่ 2 ที่ 3 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจมีความชอบธรรมที่จะเข้าได้ การที่จำเลยที่ 2 ที่ 3 เข้าไปในบ้านในส่วนดังกล่าวในเวลากลางคืนขณะที่ยังขายอาหารอยู่เพื่อจับกุมผู้กระทำผิดฐานค้าประเวณี จึงไม่มีความผิดฐานบุกรุก ห้องพักที่ใช้สำหรับให้หญิงค้าประเวณีทำการค้าประเวณีกับบุคคลทั่วไป ถือได้ว่าเป็นสาธารณสถาน และเมื่อนาย ส. ซึ่งเป็นสายลับที่ให้ไปร่วมประเวณีกับหญิงที่ค้าประเวณีในเวลากลางคืนเปิดประตูห้องพักให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจเข้าไปตามที่วางแผนไว้ ก็พบนางสาว น. อยู่กับนาย ส.สองต่อสองหลังจากนาย ส. ได้ร่วมประเวณีกับนางสาว น.ซึ่งค้าประเวณีแล้ว ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ได้พบนางสาว น.ในลักษณะซึ่งแทบจะไม่มีความสงสัยเลยว่า นางสาว น. ได้กระทำผิดฐานค้าประเวณีมาแล้วอันเป็นความผิดซึ่งหน้าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 80 จำเลยที่ 2 ที่ 3จึงมีอำนาจเข้าไปทำการจับกุมนางสาว น. จากภายในห้องพักได้โดยไม่ต้องมีหมายค้นและหมายจับ”
“แต่การจะบอกว่าการเมาแล้วหลับคาโต๊ะนั้น จะเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ต้องดูที่เหตุผลอีกครั้งนึงว่า ได้สร้างความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ และคำตัดสินของศาลต่อไป”
ที่มาข้อมูล ข้อกฏหมาย – Fanpage สายตรงกฏหมาย
ร่วมแสดงความคิดเห็น