“พรรคคอมมิวนิสต์” รัฐบาลจีน เข้มงวดการใช้อินเตอร์เน็ต “คุมเข้มสื่อโซเชียล” หลังประชากรกว่า 1 ล้าน ดื้อเล่นแอบเล่นเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ และยูทูป
จีนเริ่มเอาจริง ปราบปรามผู้ใช้แอบใช้อินเตอร์เน็ต เพื่อแยกประเทศของตนออกจากโซเชียลต่างๆ ด้วยการใช้ “Great Firewall” ระบบดังกล่าว คือ ระบบเซ็นเซอร์ที่ซับซ้อน จะบล็อกการใช้งาน เฟซบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และยูทูป
โรงแรมหรูในปักกิ่งแห่งหนึ่งประกาศว่า พวกเขาจะหยุดการกระจายการใช้ VPNs หรือเครือข่ายจำลอง เพื่อไม่ให้แขกที่มาพักเข้าใช้โซเชียลดังกล่าวได้ ทางบริษัท “Apple” ได้จำกัดจำนวนผู้ใช้ชาวจีนที่ใช้ แอพฯ VPN หลังจากพรรคนรัฐบาลคอมมิวนิสต์ ประกาศเตือนผู้ให้บริการที่ไม่ได้รับอนุญาตจากทางการว่า จะถูกลงโทษในเดือนมกราคมในปีหน้า (2561)
หนึ่งในผู้ให้บริการคลาวด์ที่อยู่ในเมืองหลวงกล่าวว่ามันจะเริ่มต้นการรายงานผู้ให้บริการ VPN ตามคำสั่งจากกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (MIIT) ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ ประชาชนชาวเอเชียนับล้านคน สามารถท่องโลกและเข้าเว็บไซต์ต่างๆได้อย่างอิสระ โดยการใช้ VPNs ทำการโหลดเนื้อหาที่ถูกแบนจากรัฐบาล รวมไปถึง ละครซีรี่ย์จาก US TV, โซเชียลมีเดียต่างๆ และข่าวต่างประเทศ
โดย พรรครัฐบาลคอมมิวนิสต์ สามารถที่จะเลือกบล็อกการใช้งานเว็บไซต์และกรองคำศัพท์ที่ถูกบันทึกในคอมพิวเตอร์ ที่ไม่มีการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย สำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะของจีน (PSB) ได้ทำการตรวจสอบบัญชีอีเมล และค้นหาผู้ชุมนุมและผู้ประท้วงต่อต้านคอมมิวนิสต์
แต่พวกเขาพบว่า มันยากที่จะควบคุมคนที่ใช้ VPNs ที่มีการสร้างระบบรักษาความปลอดภัย ที่มีการเข้ารหัสการเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานที่อยู่ในประเทศจีน กับเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่นอกประเทศจีน ทำให้ผู้ใช้อยู่เหนือการควบคุมของระบอบการปกครองเผด็จการ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ประธานาธิบดี “ฉี จิ้น ผิง” พยายามที่จะควบคุมรัฐบาลของเขา ด้วยการจับตาดูการใช้อินเตอร์เน็ตของทุกคน เพื่อให้เขาสามารถสอดส่องทุกๆการเชื่อมต่อของประชากรทุกคนได้
ตัวแทนสำนักรักษาความปลอดภัยสาธารณะของจีน มีอำนาจในการจับกุมคนๆนั้นได้ หากเจอผู้ที่กระทำความผิดทางอินเตอร์เน็ต “หลิน เว่ย” ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของบริษัท Qihoo 360 Technology Co, บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า “ตอนนี้พวกเรากำลังอยู่ท่ามกลางพายุ กับรัฐบาลที่กำลังลุกเป็นฟืนเป็นไฟในเรื่อง VPNs มันยากจริงๆนะ สำหรับคนธรรมาดาที่จะให้ค้นหาสถานที่ต่างๆได้เอง พวกเขาค้นหาจากกูเกิ้ลทั้งนั้น”
WhatApps ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกับ Facebook นั้น ได้มีข้อเสนอให้ปิดตัวลงหลังจากเผชิญเหตุการณ์ที่ต้องทำให้หยุดชะงักในจีนเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ภายในหมู่ประชาชนที่จงรักภักดีต่อประเทศนั้น ก็กำลังมองหาความเป็นส่วนตัว จากการสอดแนมของรัฐบาลอยู่บ้าง เพราะพวกเขาส่วนใหญ่ใช้แอพ Wechat ซึ่งถูกสอดแนมและกรองเนื้อหาจากรัฐบาลจีนอย่างใกล้ชิด
การปราบปรามอินเตอร์เน็ต เข้ามาตอนที่พรรครัฐบาลคอมมิวนิสต์ กำลังสับเปลี่ยนผู้นำในรัฐสภาที่อ่อนแอ ขณะที่เซนเซอร์จีนถูกเร่งให้พัฒาขึ้น เพื่อที่จะทำลายล้างคำพูดของ “หลิว เสี่ยว โป้” ที่ได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ผู้ซึ่งเสียชีวิตลงในการดูแลของรัฐบาล
เซนเซอร์ของจีนยังสามารถลบรูปของ “หลิว เสี่ยว โป้” ได้แบบตลอดเวลา ทั้งๆที่รูปนั้นอยู่ในแชทส่วนตัวของแอพ Wechat
ทีมงาน Social Chiang Mai News รายงาน
ร่วมแสดงความคิดเห็น