เตรียมกระจายลำไยเหนือ ไปทั้งในและต่างประเทศ

กรมการค้าภายใน เร่งแก้ปม “ราคาลำไยตกต่ำ” กำหนดมาตรการรองรับทั้งในและต่างประเทศ เตรียมการกระจายผลผลิตไปยังตลาดปลายทางในจังหวัดต่าง ๆ พร้อมแนวทางจัดกิจกรรมส่งเสริม(เร่งด่วน) ส่งเสริมการขายลำไยไทย โดยมีเป้าหมาย คือ จีน และประเทศเพื่อนบ้าน

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากกรณีข่าวปัญหาราคาลำไยตกต่ำ กระทรวงพาณิชย์ขอชี้แจงว่า ด้วยสถานการณ์การลำไย ปี 2560 มีจำนวน 971,430 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ร้อยละ 28.30 เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยและมีน้ำเพียงพอกว่าปีที่ผ่านมา และราคาในปีที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ดี จูงใจให้เกษตรกรดูแลเอาใจใส่มากขึ้น ในจำนวนนี้เป็นผลผลิตลำไยภาคเหนือ 8 จังหวัด จำนวน 613,415 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ร้อยละ 45.47 โดยผลผลิตออกสู่ตลาดมากในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2560 ประมาณ 361,198 ตัน คิดเป็นร้อยละ 58.88 ของผลผลิตทั้งหมด

โดยความต้องการใช้ลำไย โดยเฉลี่ย 3 ปี (2557 – 2559) ความต้องการใช้บริโภคสดในประเทศ ประมาณร้อยละ 4 ของผลผลิตทั้งหมด ส่วนใหญ่ส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศ ในรูปลำไยสดและแช่แข็ง 45.88 % ลำไยอบแห้ง 46.87 % และ ผลไม้กระป๋อง 1.2 %

ดังนั้น สาเหตุที่ทำให้ราคาลำไยตกต่ำ เนื่องจาก ประเทศอินโดนีเซียออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการนำเข้าลำไยจากไทยช้า เพิ่งออกให้เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2560 ซึ่งตามปกติจะออกให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนของทุกปี ทำให้ผู้ประกอบการไทยเริ่มการส่งออกได้ช้า แต่ปัจจุบันสามารถส่งออกได้แล้ว อีกทั้งในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมผู้ประกอบการโรงอบแห้งลำไยส่วนใหญ่ยังไม่เปิดรับซื้อ เนื่องจากไม่มีคำสั่งซื้อจากจีน ทำให้มีการแข่งขันกันซื้อน้อยราย และการขาดแคลนแรงงานในการเก็บผลไม้และคัดบรรจุ

เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงมีมาตรการรองรับก่อนที่ผลผลิตลำไยจะออกสู่ตลาด โดยคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ได้ให้หลักการทำงานการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2560 คือ ให้จังหวัดบริหารจัดการผลไม้แบบเบ็ดเสร็จด้วยตัวเอง โดยการบริหารจัดการเชิงคุณภาพ ทำแผนบริหารจัดการผลไม้ในพื้นที่ การบริหารจัดการเชิงปริมาณ มุ่งเน้นการบริหารจัดการ โดยจัดสมดุลอุปสงค์และอุปทาน รวมทั้งจัดเตรียมเผชิญเหตุรองรับปริมาณผลผลิตในช่วงที่จะออกมาก

อย่างไรก็ตามในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้ดำเนินการทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยตลาดในประเทศ ได้จัดทำสัญญาข้อตกลงระหว่างห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ กับสถาบันเกษตรกร/วิสาหกิจชุมชนจังหวัดลำพูน รวม 2,000 ตัน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา รวมทั้ง เตรียมการกระจายผลผลิตไปยังตลาดปลายทางในจังหวัดต่าง ๆ โดยผ่านช่องทางต่าง ๆ อาทิ ตลาดสด ตลาดต้องชม ห้างสรรพสินค้า หน่วยงานราชการ และประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการบริโภคผลไม้

สำหรับตลาดต่างประเทศ  ได้ให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) สอบถามถึงข้อมูลความต้องการ ช่องทางการตลาด แนวทางจัดกิจกรรมส่งเสริม(เร่งด่วน) รวมถึงอุปสรรคต่างๆ ของผลไม้ลำไย โดย สคต. จะร่วมกับห้างโมเดิร์นเทรด ซุปเปอร์มาร์เก็ตและผู้นำเข้า จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายลำไยไทย โดยมีเป้าหมาย คือ จีน และประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งประสานขอความร่วมมือสมาคม/ผู้ประกอบการสมาชิกของกรม ให้ช่วยส่งเสริมการบริโภคผลไม้ ใช้ผลไม้ลำไยเป็นของขวัญ/ของชำร่วยที่ใช้แจกตามโอกาสต่าง ๆ อีกด้วยสำหรับตลาดต่างประเทศ  ได้ให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) สอบถามถึงข้อมูลความต้องการ ช่องทางการตลาด แนวทางจัดกิจกรรมส่งเสริม(เร่งด่วน) รวมถึงอุปสรรคต่างๆ ของผลไม้ลำไย โดย สคต. จะร่วมกับห้างโมเดิร์นเทรด ซุปเปอร์มาร์เก็ตและผู้นำเข้า จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายลำไยไทย โดยมีเป้าหมาย คือ จีน และประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งประสานขอความร่วมมือสมาคม/ผู้ประกอบการสมาชิกของกรม ให้ช่วยส่งเสริมการบริโภคผลไม้ ใช้ผลไม้ลำไยเป็นของขวัญ/ของชำร่วยที่ใช้แจกตามโอกาสต่าง ๆ อีกด้วย

นอกจากนี้ การดำเนินการช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้เร่งระบายลำไยจากแหล่งผลิตจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน ไปยังตลาดปลายทางโดยเร็วนับตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ ตลาดเป้าหมาย รวมทั้งสิ้น 45 แห่ง ได้แก่ ตลาดต้องชม 35 แห่ง ปริมาณ 105 ตัน และตลาดสด 10 แห่ง ปริมาณ 30 ตัน รวมเป็น 135 ตัน รณรงค์การบริโภคผลไม้ไทย (ลำไย) เพื่อเป็นการกระตุ้นการบริโภคและช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ไทย อาทิ การจัดกิจกรรมการส่งเสริม ได้จัดงาน fruit festival ไปแล้ว 5 ครั้ง และจะจัดงานมหกรรมลำไย 108 เมนูลำไยไทย ณ ห้างเซ็นทรัลพลาซ่า เวสเกต นนทบุรี วันที่ 15 – 21 สิงหาคม ห้างเซ็นทรัล ภูเก็ต วันที่ 17 – 23 สิงหาคม และ ห้างเซ็นทรัลอุดรธานี วันที่ 15 – 21 สิงหาคม นี้

พร้อมทั้ง ประสานงานขอความร่วมมือกระทรวงมหาดไทยสั่งการให้จังหวัดปลายทางประสานอำเภอทุกอำเภอช่วยรับซื้อผลผลิตลำไยภาคเหนือ อย่างน้อยอำเภอละ 1 คันรถ (ประมาณ 3 ตัน) และมอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนั้น ๆ เป็นผู้ประสานงานหลักในการรับคำสั่งซื้อและส่งมอบผลผลิตให้แต่ละอำเภอตามคำสั่งซื้อ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2560 เป็นต้นไป และประสานงานขอความร่วมมือกรมราชทัณฑ์ช่วยรับซื้อผลผลิตลำไยเพื่อเป็นอาหารว่างสำหรับนักโทษผู้ต้องหา   อีกทั้ง ได้ประสานขอความร่วมมือ ปตท.ในต่างจังหวัดโดยเฉพาะภาคเหนือให้พื้นที่ให้เกษตรกรนำผลผลิตลำไยมาจำหน่ายโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จัดกระเช้าลำไยสวยงามมอบให้คณะรัฐมนตรีและแขก VIP ที่มาร่วมงาน Asean – India Expo & Forum รวมทั้งอยู่ระหว่างประสานการจัดคณะผู้บริหารระดับสูงเดินทางเยือนอินโดนีเซียเพื่อเจรจาเปิดตลาดลำไยเพิ่มเติมด้วย

อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิมเติมว่า ขณะนี้ผลผลิตลำไยจังหวัดเชียงใหม่ได้ออกสู่ตลาดแล้วร้อยละ 47 (จำนวน 63,030 ตัน) และจังหวัดลำพูน ออกแล้ว ร้อยละ 53 ( จำนวน 67,805 ตัน) มีการกระจายลำไยสดช่อออกสู่ตลาดภายในประเทศปริมาณเพิ่มมากขึ้น ประกอบมีคำสั่งซื้อของประเทศจีน อินโดนีเซียและเวียดนามอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาหน้าสวนและจุดรับซื้อมีการปรับตัวสูงขึ้นจากเดิม

ร่วมแสดงความคิดเห็น