ชู”กาดสามวัย”แพร่ ตลาดต้องชมแห่งที่2

           กระทรวงพาณิชย์ ยก “กาดสามวัย” เป็นตลาดต้องชมแห่งที่ 2 ของจังหวัดแพร่ ด้านผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ชี้ตลาดชุมชนเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจท้องถิ่น เป็นจุดเชื่อมโยงและกระจายผลผลิตอย่างทั่วถึง และยังทั้งเป็นช่องทางการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างงานให้กับคนในชุมชน

นางสาวอรุณี พูลแก้ว ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน “ตลาดต้องชม กาดสามวัย เทศบาลเมืองแพร่” ตลาดต้องชมแห่งที่ 2 ของจังหวัดแพร่ โดยมีนายวิรุฬ พรรณเทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นผู้กล่าวต้อนรับ และนางดรุณี รักษ์วงศ์ พาณิชย์จังหวัดแพร่ เป็นผู้กล่าวรายงาน ณ กาดสามวัย เทศบาลเมืองแพร่

โดย นางสาวอรุณี พูลแก้ว ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า “ตลาดชุมชน” เป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจท้องถิ่น (Local Economy) อย่างแท้จริง เนื่องจากเป็นจุดเชื่อมโยงและกระจายผลผลิตอย่างทั่วถึง อีกทั้งเป็นช่องทางการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างงานให้กับคนในชุมชน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญและส่งเสริมสนับสนุนยกระดับตลาดชุมชนให้เป็น “ตลาดต้องชม” โดยมีเอกลักษณ์พาณิชย์ กล่าวคือ มีราคาเป็นธรรมและน้ำหนักเที่ยงตรง แต่ยังคงรักษาอัตลักษณ์ของชุมชน ซึ่งเป็นจุดเด่นที่จะดึงดูดคนในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียงตลอดจนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้ามาเยี่ยมชมและจับจ่ายใช้สอยสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่เป็นธรรม ซึ่งจะก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนให้กับชุมชน

ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าภายใน ได้จัดทำโครงการตลาดชุมชนเพื่อธุรกิจท่องเที่ยว ในจังหวัดแพร่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแพร่ ได้เลือกตลาดชุมชน “ตลาดต้องชม” แห่งแรกของจังหวัดแพร่ จำนวน 1 แห่ง คือตลาดร้านค้าชุมชนพระธาตุช่อแฮ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมืองแพร่ และในครั้งนี้ได้คัดเลือกกาดสามวัย ภายใต้การบริหารงานโดยเทศบาลเมืองแพร่ ให้เป็นตลาดต้องชมแห่งที่ 2 ของจังหวัดแพร่
ด้าน นายพัฒนพงษ์ พงษ์นวล รักษาการแทนนายกเทศมนตรีเมืองแพร่ กล่าวว่า กาดสามวัยได้เปิดเป็นตลาดขายอาหาร พืชผัก ผลไม้ พื้นบ้าน ช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าให้มีสถานที่ทำมาหากิน ทุกวันศุกร์ ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2552 เดิมมีเพียง 40 ร้าน ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอยู่ใจกลางเมือง ใกล้สถานที่ราชการ สถานที่ท่องเที่ยว ทำให้ปัจจุบันมีร้านค้าเพิ่มมากขึ้นเป็น 193 ร้านค้า เป็นสินค้าการเกษตร สินค้าเกษตรปลอดสารพิษ พืชผัก ผลไม้ตามฤดูกาล อาหารพื้นบ้าน เช่น แอบหน่อ แกงแค ตำเตา ลาบเมืองแพร่ ร้านอาหารปรุงสำเร็จ สินค้าพื้นเมือง เสื้อม่อฮ่อม ผ้าพื้นเมือง เซรามิค ของเล่นเด็ก และอื่นๆ ซึ่งมีประชาชนในจังหวัด นักท่องเที่ยว แวะเวียนมาจับจ่ายซื้ออาหารการกินอยู่เป็นประจำ นอกจากนี้ ได้จัดให้มีการแสดงบนเวที เช่น ซอพื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นเมือง การแสดงดนตรีของเยาวชน หรือสถานที่ศึกษาในจังหวัด เป็นประจำทุกวันศุกร์ พร้อมจัดสถานที่ให้รับประทานอาหาร ณ กาดสามวัยแห่งนี้ด้วย

ขณะที่ นางดรุณี รักษ์วงศ์ พาณิชย์จังหวัดแพร่ กล่าวว่า รัฐบาล ได้มีนโยบายในการช่วยเหลือผู้ผลิตสินค้าในท้องถิ่น ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยใช้กลไกตลาดเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อน และ รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ได้มอบนโยบายให้กระทรวงพาณิชย์ จัดตั้งตลาดกลางสินค้า และตลาดชุมชนเพื่อจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นในแต่ละภาค โดยให้เชื่อมโยงและกระจายสินค้าไปยังท้องถิ่นให้มากขึ้น

ร่วมแสดงความคิดเห็น