เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. วันที่ 28 ส.ค.60 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้า ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วย นายกริชสยาม คงสตรี หัวหน้า อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย นำคณะเจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจพญาเสือ ทำการประชุมที่บริเวณที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ-ปุย ที่ 3 (น้ำตกแม่สา) เพื่อประชุมติดตามการดำเนินการปฏิบัติการยึดคืนผืนป่าภายในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งจากการตรวจสอบโดยภาพถ่ายดาวเทียมทราบว่าได้มีกลุ่มนายทุนและประชาชนในพื้นที่ทำการรุกล้ำขยายเขตแดน โดยในวันนี้ทางชุดปฏิบัติการได้เข้าดำเนินการตรวจสอบพื้นที่เป้าหมาย ที่บ้านแม่แรม ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่ตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่าได้มีการซื้อขายเปลี่ยนมือ รวมถึงการใช้งานพื้นที่ผิดวัตถุประสงค์ นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังจะได้ทำการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ของผู้ครอบครองพื้นที่ทั้งหมด เพื่อตรวจสอบที่มาที่ไป รวมทั้งเป็นการตรวจสอบความถูกต้องในการให้เอกสารสิทธิ์ ถ้าเกิดพบว่ามีการกระทำความผิด ทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณดังกล่าวพบว่าได้มีการบุกรุกพื้นที่ป่า โดยพื้นที่ทั้งหมดมีเนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ 1 งาน และได้มีการสร้างรั้วกั้นปักป้ายชื่อ นายสุวรรณ ถาวรวงศ์ แจ้งเป็นผู้ถือครองพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบทางเจ้าหน้าที่พบว่าเคยมีการดำเนินคดีมาแล้วหลายครั้ง แต่ศาลมีคำสั่งยกฟ้อง เนื่องจากเจ้าของที่ดินถือว่ามีการเข้าข่ายจะเป็นผู้มีอิทธิพล และทางเจ้าของยังคงมีเจตนาครอบครองที่ดินของรัฐโดยมิชอบ ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จึงได้มีการดำเนินการดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของพื้นที่ดังกล่าว
โดยทางด้าน นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้า ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า สำหรับกรณีพื้นที่ของ นายสุวรรณ ถาวรวงศ์ จากการตรวจสอบพบว่ามีพื้นที่ซ้อนทับกันในเขตของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และเป็นพื้นที่ที่มีการดำเนินคดีมาแล้วหลายครั้ง ที่ตรวจสอบเบื้องต้นมี 3 คดี โดยการตรวจสอบในช่วงต้นนั้นถูกสั่งไม่ฟ้อง แต่มีตัวบุคคลชัดเจนคือ นายสุวรรณ ถาวรวงศ์ มีแม้กระทั่งการล้อมรั้วติดป้าย นอกจากนี้มีการสอบถามถึงผู้มารับจ้างก็อ้างถึงเจ้าของที่ดินคือ นายสุวรรณ ถาวรวงศ์ แต่เมื่อมีการดำเนินคดีนั้นกลับถูกคำสั่งตกทั้งหมดคือไม่ฟ้อง ดังนั้นในส่วนของชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจพญาเสือ รวมถึงฝ่ายเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง จึงได้เข้ามาตรวจสอบอีกครั้งพร้อมทั้งได้ลงความเห็นร่วมกันแล้วว่าคดีนี้อาจมีความสุ่มเสี่ยงต่อเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จึงต้องมีการประสานจากส่วนกลางมาร่วมดำเนินการ ประกอบกับ นายสุวรรณ ถาวรวงศ์ อาจจะมีภูมิหลังที่แข็งแรงกว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐ และในส่วนของการดำเนินคดีนั้นจากการปฏิบัติการวันนี้จะต้องมีการดำเนินการอย่างถึงที่สุด โดยการรวบรวมหลักฐานพร้อมที่จะแจ้งความดำเนินคดีกับทาง นายสุวรรณ ถาวรวงศ์
ขณะที่ทางด้าน นายกริชสยาม คงสตรี หัวหน้า อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย กล่าวเพิ่มเติมว่า ใน่สวนของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ทราบอยู่แล้วว่าทาง นายสุวรรณ ถาวรวงศ์ ได้แสดงเจตนาในการครอบครองที่ดินโดยเฉพาะพื้นที่จุดนี้ซึ่งเป็นใจกลางของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งมีทั้งการล้อมรั้ว ติดป้าย ประกอบกับเอกสารการฟ้องร้องคดีต่างๆ แสดงให้เห็นว่า นายสุวรรณ ถาวรวงศ์ มีเจตนาในการที่จะเอาที่ดินของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ไปเป็นของตัวเอง ซึ่งในส่วนของทางเจ้าหน้าที่จะต้องมีการดำเนินคดีอาญาตามกฎหมายต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น