ลุยตรวจร้านสักเจ้าปัญหา หลังมีคนร้องเรียน

เมื่อเวลา 13.00 น .วันที่ 8 ก.ย. 60 พ.ต.อ.พงศกร รัศมีโรจน์สกุล ผกก.สภ.นิคมอุตสาหกรรมลำพูน จ.ลำพูน พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมชัย นาคปลา รอง ผกก. ( สอบสวน ) สภ.นิคมอุตสาหกรรมลำพูน ลำพูน และเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขจังหวัดและสาธารณะสุขอำเภอเมือง จ.ลำพูน ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบร้าน รับลักลาย ชื่อร้านช่างแล็บ ตั้งอยู่ หมู่ 10 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน จากการตรวจสอบพบ นาย สฤษฎ์ จินดาศักดิ์ หรือ ช่างแล็บอายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 63 หมู่ 10 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน อยู่ในร้าน เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบใบอนุญาตพร้อมแจ้งว่า ก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายชื่อ น.ส.อภิโชควัชรกุล เทพบุรี อายุ 21 ปี ชาว จ.ลำพูน เข้ามาสักลายที่ร้านแล้วเกิดเป็นแผลพุพอง เป็นหนอง ปวดแสบปวดร้อนมานานนับเดือน จึงได้ แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าตรวจสอบ

เบื้องต้น ทางเจ้าของร้านได้อนุญาตให้เข้าตรวจสอบ พร้อมบอกว่ามีใบอนุญาต และไม่มีใบประกอบกิจการที่ได้รับอนุญาตจากทางเทศบาลตำบลบ้านกลางเนื่องจากไม่ทราบนาย สฤษฎ์ จินดาศักดิ์ หรือ ช่างแล็บ เจ้าของร้านสักลาย กล่าวว่า ตนได้เปิดร้านดังกล่าวสักลายให้กับลูกค้ามานานนับปี ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน อีกทั้งที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างว่า เป็นแผลพุพองเนื่องจากสงสัยว่าตนนั้นเอาน้ำหมึกจากเครื่องปริ้นเตอร์มาสักให้เป็นเหตุให้เกิดแผลดังกล่าว ซึ่งตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเพราะน้ำหมึกที่ใช้ เป็นน้ำหมึกที่มีราคาแพงมีมาตรฐาน สามารถตรวจสอบได้ ส่วนเข็มที่ใช้สักลายก็เป็นเข็มใหม่ทั้งหมด เพื่อป้องกันโรคหลังจากใช้สเร็จต่อ 1 ราย 1 คน ก็จะนำไปทิ้งหมดไม่ใช้มั่ววกันเพราะอาจจะติดเชื้อโรคกันได้ ซึ่งเรื่องนี้ตนได้เรียนมา มีใบอนุญาตที่จะประกอบอาชีพนี้ ส่วนการรับผิดชอบ เรื่องค่าใช้จ่าย หากเกิดจากสาเหตุที่ตนกระทำจริงก็พร้อมจะรับผิดชอบ และเชื่อว่าไม่รุนแรงถึงขั้นต้องตัดแขนตัดขาแน่นอน เพราะเชื่อว่า น้องคงจะไปกินอาหารแสลง หรืออาบบน้ำที่มีสารคอรีนมากจนเกินไปก็ได้ และอาจจะแพจากการกินอาหารจนเป็นแผลหมักหมม

ทางด้าน น.ส.อภิโชควัชรกุล ผู้เสียหาย กล่าวว่า วันนี้ได้เข้าไปให้แพทย์ที่โรงพยาบาลลำพูนตรวจแผลหลังจากที่ไปสักจากร้านดังกล่าวแล้วเกิดการอักเสบและเป็นหนองขึ้นมาเป็นตุ่มๆ ตามรอยสักที่ต้นขา และแขนด้านซ้าย เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีและเรียกร้องค่าเสียหายกับเจ้าของร้านดังกล่าว อีกทั้งขณะนี้ตนกำลังรวบรวมผู้เสียหายทั้งหมดเพื่อส่งให้พนักงานสอบสวน เนื่องจากผู้เสียหายอีกหลายรายยังไม่ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจเนื่องจากต้องทำงานคาดว่าอาจจะมีผู้เสียหายเกือบ 24-25 ราย ที่จะเดินทางเข้าแจ้งความเอาผิด

ทางด้าน นายจิระ วิภาสวงศ์ เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญสำนักงานสาธารณะสุขจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า เรื่องนี้ได้ลงตรวจสอบที่ร้านแล้วพบว่าไม่ได้ขออนุญาตจากทางเทศบาลตำบลบ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน ซึ่งโทษจะมีแค่ปรับ ในส่วนของโทษอื่น ๆ จะต้องรอการตรวจสอบของแพทย์ที่ตรวจสอบผู้เสียหายก่อนว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ส่วนน้ำหมึกที่ใช้สำหรับสักลายก็เช่นเดียวกันจะต้องส่งไปตรวจสอบ หากพบว่าไม่ได้มาตรฐานที่จะนำมาสักหรือไม่ถูกต้องก็จะต้องรอการดำเนินคดี และจะแจ้งให้กับทางพนักงานสอบสวน สภ.นิคมอุตสาหกรรมลำพูนทราบอีกครั้งเพื่อจะเชิญเจ้าของร้านมารับทราบข้อกล่าวหาภายหลัง ตอนนี้ต้องรอผลตรวจ ทั้งน้ำยา และผลตรวจร่างกายด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น