อัพเกรดแรงงานไทย สู่ยุคไทยแลนด์ 4.0

กระทรวงแรงงานลุยอัพเกรดแรงงานไทยสู่ยุค “Thailand 4.0” หวังเพิ่มขีดความสามารถและการแข่งขันระดับโลก สอดคล้องกับกรอบยุทธศาสตร์ชาติในระยะ 20 ปี ตามนโยบายของรัฐบาล และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มุ่งเน้นพัฒนามาตรฐานแรงงานไทยให้มีผลิตภาพสูง มีทักษะที่หลากหลาย มีมาตรฐานฝีมือเป็นสากล ให้สามารถรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต
นายสุทธิ สุโกศล ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงผลการรายงานดัชนีขีดความสามารถทางการแข่งขันระดับโลก (Global Competitiveness Index :GCI) ปี 2560 ซึ่งสำรวจโดย (World Economic Forum:WEF) จาก 137 ประเทศทั่วโลก พบว่า จากขีดความสามารถในการแข่งขันทั้ง 12 ด้าน ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 32 ด้วยคะแนน 4.7 ขยับขึ้นมา 2 อันดับจากเดิมปี 2559 อยู่อันดับที่ 34 มี 4.6 คะแนน สะท้อนให้เห็นว่าความสามารถในการแข่งขันของไทยได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้นในหลายด้าน โดยเฉพาะด้านประสิทธิภาพตลาดแรงงานอยู่ในอันดับ 65 ในปี 2560 ขยับขึ้นมาจากอันดับ 71 ในปี 2559 และด้านการศึกษาขั้นสูงและการฝึกอบรมอันดับอยู่ในอันดับ 57 ในปี 2560 ขยับขึ้นมาจากอันดับ 62 ในปี 2559
นายสุทธิ กล่าวต่อว่า ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยกระเตื้องขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในหลายด้านนั้น สอดคล้องกับกรอบยุทธศาสตร์ชาติในระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) ตามนโยบายของรัฐบาล และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 – 2564) ในส่วนของกระทรวงแรงงาน ปีงบประมาณ 2561 ได้กำหนดแนวทางในการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) และแผนแม่บทพัฒนาแรงงานไทยในระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2560 – 2564) โดยเน้นการดำเนินงาน 10 ด้าน คือ 1.เตรียมคนไทยทุกช่วงวัยไปสู่ศตวรรษที่ 21 (Human Capital) 2. ยกระดับคุณภาพชีวิตกลุ่มแรงงานนอกระบบ 3.มุ่งเร่งพัฒนาแรงงานสู่ Thailand 4.0 4.ป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน 5.จัดการแรงงานต่างด้าวทั้งระบบ 6.เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการคุ้มครองแรงงาน 7.เพิ่มสิทธิประโยชน์และยกระดับการให้บริการประกันสังคม 8.ส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน 9.เสริมสร้างความร่วมมือด้านแรงงานกับต่างประเทศ และ 10.ปฏิรูปบทบาทกระทรวงแรงงาน
“ทั้งนี้ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มีการกำชับให้ดำเนินการ 3 เรื่องสำคัญ คือ 1.ยุติความเหลื่อมล้ำ (End to Inequality) ในทุกมิติ 2.ยุติการจ้างงานในรูปแบบที่ไม่เป็นที่ยอมรับ (End to Unacceptable Forms of Employment) และ 3.ยุติความไม่มีประสิทธิภาพ (End to Inefficiency) เพื่อขันนอตให้ฟันเฟืองกระบวนการทำงานมีความสะดวก รวดเร็ว คล่องตัว และเกิดประโยชน์แก่ประชาชนมากที่สุด โดยได้มุ่งเน้นอัพเกรดแรงงานไทยให้มีผลิตภาพสูง มีทักษะที่หลากหลาย มีมาตรฐานฝีมือเป็นสากล ให้สามารถรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) รวมทั้งพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษอื่นๆ ตามทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศอีกด้วย” ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น