ชาวแม่เตาะเหม็นสุดๆ! ห้องเช่าปล่อยอุจจาระลงน้ำกว่า 2 ปี เร่งสอบพบพิรุธขึ้นทะเบียนต่างด้าว

ชาวบ้านสุดทนมานานกว่า 2 ปี ร้องศูนย์ดำรงธรรมรอบ 2 ตรวจสอบห้องพักแรงงานต่างด้าวมักง่าย สูบอุจจาระทิ้งลำเหมือง จนท.พบพิรุธอาศัยช่วงผ่อนผัน มีทั้งเข้าเมืองผิดกฏหมาย ไม่ทำงานกับนายจ้างตามใบขออนุญาต อาจมีการรับจ้างนำคนต่างด้าวขึ้นทะเบียน เตือน จนท.ห้ามเรียกรับผลประโยชน์อย่างเด็ดขาด

เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2560 เวลา 15:00 น. นายชนะศึก หนูชัย ปลัดอาวุโส อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย นายสุวิทย์ แก้วกำเนิด กำนัน ต.เชียงดาว ในฐานะนายกสมาคมกำนัน-ผญบ.อ.เชียงดาว,นายนิวัติ จำปี นายก อบต.เชียง ดาว,กำลัง จนท.ฝ่ายปกครอง,ทหาร ฉก.ม.5, ตำรวจ สภ.เชียงดาว เดินทางเข้าไปตรวจสอบที่ บริเวณหอพัก108 บ้านเลขที่ 108 ม.11 ต.เชียงดาว โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างตื่นเต้นดีใจ ที่มี จนท.เข้ามาตรวจสอบอาคารดังกล่าวที่ปลูกสร้างชั้นเดียว มีสภาพแบ่งกั้นห้องให้แรงงานต่างด้าวหลาย 10ครอบครัวเช่าพักอาศัย มีป้ายติดระบุว่า เป็นบ้านพักคนงานทำการเกษตร และติดป้ายห้ามบุคคลภายนอกเข้า หากฝ่าฝืนบุกรุกจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

เมื่อ จนท.ไปถึง พบมีแรงงานต่างด้าวอาศัยอยู่จำนวนหนึ่ง ส่วนเจ้าของห้องพักแห่งนี้ทราบว่า เป็นคนไทยทำธุรกิจในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยมีน้องชายเป็นผู้ดูแลแทน จากการตรวจสอบพบว่า สถานที่ดังกล่าวมีการขุดบ่อเกรอะ บ่อซึมหลายบ่อเรียงกันและมีการต่อสายยาง เพื่อระบายสิ่งปฎิกูลออกจากบ่อ ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงบอกว่า สถานที่แห่งนี้ใช้เครื่องสูบปล่อยสิ่งปฏิกูลออกมาทิ้งลำเหมืองสาธารณะมานานกว่า 2 ปี จนชาวบ้านทนเหม็นกลิ่นไม่ไหว จึงได้ทำการร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมมาครั้งหนึ่ง พอเรื่องเงียบหายก็มีการสูบสิ่งปฏิกูลไปทิ้งในที่ดินข้างเคียงอีก ชาวบ้านเดือดร้อนมากๆทนกลิ่นเหม็นไม่ไหว จึงรวมตัวกันร้องศูนย์ดำรงธรรมอีกครั้งหนึ่ง จนมีการเข้าไปตรวจสอบในครั้งนี้

ด้านนายชนะศึก หนูชัย ปลัดอาวุโส อ.เชียงดาว เปิดเผยว่าเบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า สาเหตุของปัญหาก็คือ จำนวนคนที่พักอาศัยอยู่ในอาคารดังกล่าวมีจำนวนมาก เกินกว่าปริมาณบ่อเกรอะบ่อซึมที่มีอยู่ ทำให้สิ่งปฎิกูลที่ถ่ายออกไปในบ่อเต็มเร็วมาก คนที่อยู่อาศัยก็ขาดสำนึกความรับผิดชอบ ครั้งแรกใช้เครื่องสูบๆออกทิ้งลำเหมืองสาธารณะ ต่อมามีการร้องเรียนต่อเนื่องจึงเลี่ยงสูบไปทิ้งในที่ดินข้างเคียง ซึ่งของเสียดังกล่าวก็ยังส่งกลิ่นรบกวนราษฎรข้างเคียงเดือดร้อนมาเป็นเวลานานหลายปี ซึ่งน่าสงสารชาวบ้านละแวกดังกล่าวเป็นอย่างมาก

ตนเองได้ประสานงานให้ อบต.เชียงดาว ทำหนังสือแจ้งเจ้าของกิจการเข้ามาทำการชี้แจง และแก้ไขเพิ่มเติมจำนวน บ่อปฎิกูลให้พอกับจำนวนผู้เช่าพักภายในกำหนดเวลาที่กฏหมายกำหนด หากยังไม่ดำเนินการ ให้ จนท.ออกคำสั่งพักใช้อาคารชั่วคราวจนกว่าจะแก้ไขให้เรียบร้อย เพื่อจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านอีกต่อไป และยังได้ให้มีการสนธิกำลังทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ เข้าจัดระเบียบ ทำทะเบียนผู้เข้าพักทั้งหมด ซึ่งพบว่ามีจำนวนมากกว่า 50 คน ยังไม่รวมลูกๆหลานๆอีกกว่า 10 คน และพบว่าเป็นคนต่างด้าวทั้งหมด จึงได้ให้ จนท.ทำการตรวจสอบว่ามีเอก สารหลักฐานเข้าเมืองที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่

ถ้าไม่มีต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามเวลาที่กำหนด ก่อนที่จะหมดเวลาผ่อนผันและกวาดล้างครั้งใหญ่ทั่วประเทศในวันที่ 1 ม.ค. 61 และขอให้ จนท.ดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด และเคร่งครัดในทุกพื้นที่ เพราะถือว่าเป็นผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติเป็นอย่างมาก และอย่าให้มีข่าวว่ามี จนท.หน่วยงานไหนปล่อยปละละเลย หรือเรียกรับผลประโยชน์โดยเด็ดขาด เพราะเรื่องนี้เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล

ข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบของ จนท. มีข้อสังเกตว่า แรงงานต่างด้าวจำนวนมากมีบัตรแรงงานระบุชื่อนายจ้างเป็นคนๆเดียวกันทั้งหมด แต่จากการสอบถามแรงงานต่างด้าว และตรวจสอบแล้ว พบว่าแทบไม่มีใครทำงานกับนาย จ้างคนดังกล่าวจริงๆ แต่กระจายรับจ้างไปทั่วในหลายพื้นที่ จึงมีการตั้งข้อสงสัยว่านายจ้างคนดังกล่าว ได้โควต้าการจ้างงานมาได้อย่างไรเป็นร้อยๆคน และจะมีการรับจ้างนำคนไปขึ้นทะเบียนหรือไม่ ซึ่งจะมีการตรวจสอบในทุกพื้นที่ต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น