พระมหาเจดีย์ชเวดากองแห่งเมืองลี้ “พระมหาเจดีย์ศรีเวียงชัย”

พระมหาเจดีย์ชเวดากองจำลองรูปแบบศิลปกรรมมอญผสานศิลปะล้านนาที่สร้างด้วยศิลาแลงทั้งองค์ มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ฐานกว้าง ขนาด 1 ไร่ ส่วนสูงจากบัวยอดฉัตรลงมาถึงพื้นยาว 64.39 เมตร ผู้ริเริ่มออกแบบและการสร้างคือ “หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา” เพื่อให้เป็นพุทธเจดีย์ของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ในอันที่จะเป็นพุทธเจดีย์ของภัทรกัปให้ลูกหลานคนไทยได้กราบไหว้ และเป็นแห่งแรกของประเทศไทย

พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย ตั้งอยู่ที่ หมู่ 8 ตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ใกล้วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ก่อนที่จะสร้างพระมหาเจดีย์ หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาได้พบมูลโคขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในสมัยที่ ทรงมาใช้ชาติเป็นโคพระโพธิสัตว์ และมูลโคนี้ก็ได้กลายสภาพเป็นพระบรมธาตุจึงมีความตั้งใจที่จะสร้างพระมหาเจดีย์ธาตุครอบทับสถานที่แห่งนี้ไว้ ด้วยเกรงว่าต่อไปในภายหน้า หากไม่ทำอะไร สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ก็คงจะมีชาวบ้านมาสร้างบ้านเรือนทับด้วยเพราะความไม่รู้

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ประทานนามพระมหาเจดีย์นี้ว่า “พระมหาเจดีย์ศรีเวียงชัยพุทธเจดีย์พระเจ้าห้าพระองค์” สิ่งสักการะแทนองค์พระศาสดาทั้งห้าของภัทรกัป แห่งแรกที่สร้างด้วยศิลาแลงทั้งองค์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ประดิษฐาน ณ วัดหนองวัวเฒ่า หมู่ที่ 9 บ้านหนองปู (ห้วยต้ม) ตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เจตนาการสร้าง เพื่อให้ประเทศไทยได้มีพุทธเจดีย์ที่เป็นเครื่องหมายแห่งการตรัสรู้โปรด เวไนยสัตว์ของพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ ซึ่งได้แก่ พระพุทธเจ้ากกุสันธะ พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ,พระพุทธเจ้ากัสสปะ พระพุทธเจ้าโคตมะ (พระสมณโคดม) องค์ปัจจุบันและพระศรีอริยเมตไตรย์ พระพุทธเจ้าที่จะมาตรัสรู้ในอนาคต
หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาให้สร้างพระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย เพื่อเป็นพุทธเจดีย์พระเจ้า 5 พระองค์ในประเทศไทยนั้น ก็ย่อมเป็นการบอกมโนปณิธานของหลวงปู่ว่าเป็นสักขีพยานว่า หลวงปู่และลูกหลานรวมทั้งผู้ที่ร่วมสร้างพระมหาเจดีย์นี้ ได้เกิดมาร่วมบำเพ็ญบารมีในพระศาสนาของสมเด็จพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันแม้นหากลูกหลานของหลวงปู่ตลอดจนผู้ที่ได้ร่วมสร้างพระมหาเจดีย์แห่งนี้ ยังไปไม่ถึงฝั่งคือพระนิพพานฉันใด ก็ขอให้ได้เกิดมาบำเพ็ญบารมีเพื่อเข้าสู่ฝั่งคือ พระนิพพาน ในพระศาสนาของสมเด็จพระศรีอริยเมตไตรย์ สัมมาสัมพุทธเจ้าโน้นเถิด ดังเช่นที่ สมเด็จพระสมณโคดมพุทธเจ้าตรัสว่า“ดูก่อน พระสารีบุตรผู้เจริญ ชนทั้งหมดไม่ได้เห็นรูปกายของเรา ถ้าเขาได้พบพระศาสนาของเรา ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา แล้วไซร้ ด้วยผลแห่งกรรมนั้น เขาจักอุบัติในสำนักพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า อริยเมตไตรย์แล” เป็นการอาราธนาพระบรมธาตุของสมเด็จพระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า มาบรรจุในองค์พระมหาเจดีย์ที่สร้างไว้แล้วนี้ ซึ่งหลวงปู่พร้อมทั้งลูกหลานและผู้มีจิตศรัทธาได้สร้างไว้ในพระศาสนาขององค์สมเด็จพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า และเมื่อใดที่สิ้นพระศาสนาของพระองค์แล้ว ขอองค์พระศรีอริยเมตไตรย์พุทธเจ้า
ทรงพระเมตตารับทราบบุรพเจตนาที่ได้สร้างพระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัยนี้ขึ้นมา ก็เพื่อรอการมาตรัสรู้ของพระองค์ เช่นเดียวกับพระมหาเจดีย์ชเวดากอง และหากวันนั้นมาถึงขอ พระองค์ทรงพระเมตตาให้พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัยนี้ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุของพระองค์เที่ยงแท้

พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย พุทธเจดีย์ของภัทรกัปแห่งแรกในประเทศไทย จากพระมหาเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย อันเป็นสัญลักษณ์แห่งการมาตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณของพระโคตมะ (โคดม) พุทธเจ้า จนมาถึงพระมหาเจดีย์ชเวดากอง ประเทศพม่า ที่เป็นเครื่องแสดงว่า พระโคตมะพุทธเจ้า เมื่อตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ได้ประทาน พระเกศาธาตุมาบรรจุรวมกับบริขารของพระพุทธเจ้าที่ล่วงมาแล้ว 3 พระองค์ และรอการ มาบรรจุพระบรมธาตุของพระศรีอริยเมตไตรย์เป็นองค์ที่ 5 แห่งภัทรกัป จึงมีความสำคัญเหมือนพุทธเจดีย์
พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ แห่งแรกของโลก (ชเวดากอง แปลว่า เจดีย์ทองเมืองตะเกิง) และด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของพระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย ในประเทศไทย โดยความคิดริเริ่มของหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาจะเป็นพุทธเจดีย์ของภัทรกัปแห่งแรกในประเทศไทย และเป็นแห่งที่ 2 ของโลก
หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาอธิษฐานขอพระบรมธาตุของพระโคตมะพุทธเจ้าก่อนที่จะสร้างพระเจดีย์ เพื่อมาประดิษฐานในพระมหาเจดีย์ที่คิดจะสร้างในประเทศไทย และด้วยเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์และมโนปณิธานที่ตั้งไว้ชอบแล้ว จึงทำให้คำอธิษฐานของหลวงปู่สัมฤทธิ์ผลเป็นที่น่าอัศจรรย์ คือครั้งแรก (วันที่ 11 กุมภาพันธ์ หลวงปู่ได้พระบรมธาตุลักษณะกลมใสองค์ใหญ่จำนวน 1 องค์ และพรรณสีเขียวมรกตเหมือนเพชรที่เจียระไนแล้วจำนวน 1 องค์ รวมเป็น 2 องค์ หลวงปู่บอกว่าเป็นน้ำหล่อเลี้ยงพระหฤทัย ครั้งที่สอง (วันที่ 19 มีนาคม 253 ได้พระบรมธาตุส่วนกลางกะโหลกพระเศียร จำนวน 12 องค์ รวมกันแล้วหลวงปู่ได้พระบรมธาตุเป็นจำนวนถึง 14 องค์ หลวงปู่บอกว่า ควรจริงอยากได้พระเกศาธาตุเช่นเดียวกับที่บรรจุในพระมหาเจดีย์ชเวดากอง แต่ได้พระธาตุส่วนนี้ก็สำคัญเท่ากัน เมื่อหลวงปู่ได้พระบรมธาตุตามที่ได้อธิษฐานแล้ว จึงได้เริ่มลงมือก่อสร้างพระมหาเจดีย์ ในวันวิสาขบูชาที่ 13 พฤษภาคม 2538
หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนาได้อธิษฐานจิตอาราธนาพระบรมสารีริกธาตุจากสถานที่ต่างๆ ที่ท่านได้ไปจาริกแสวงธรรม ที่สำคัญ คือประเทศอินเดีย ศรีลังกา พม่า จีน เป็นต้นมาบรรจุไว้ในพระมหาเจดีย์ นอกเหนือจากสิ่งมงคลสักการะอันศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ เช่น พระพุทธรูป เป็นต้น นอกจากนี้ หลวงปู่ก็ได้นำบริขารของพระพุทธเจ้า 3 พระองค์ที่ล่วงมาแล้ว มาบรรจุไว้ในพระมหาเจดีย์อีกด้วย ดังนี้ ไม้เท้าของพระพุทธเจ้ากกุสันโธเครื่องกรองน้ำ และคณโฑน้ำจากชเวดากอง แทนธัมกรกของพระพุทธเจ้าโกนาคมนะ ผ้าห่มองค์พระมหาเจดีย์ชเวดากอง แทนผ้าจีวรของพระพุทธเจ้ากัสสปะ
รายละเอียดการก่อสร้าง พระมหาเจดีย์ศรีเวียงชัย ออกแบบและริเริ่มให้มีการก่อสร้างโดย หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศา ลักษณะองค์พระมหาเจดีย์ เป็นประติมากรรมขนาดใหญ่ ศิลปะล้านนา ที่ก่อด้วยศิลาแลงทั้งองค์ โดยกำหนดให้มีพระมหาเจดีย์องค์ใหญ่ เป็นองค์ประธานอยู่ตรงกลางและมีพระเจดีย์ องค์เล็กอยู่เป็นบริวารล้อมรอบอยู่ 48 องค์ตามแบบพระสถูปเจดีย์ศิลปะลังกา ความหมายของพระมหาเจดีย์องค์ใหญ่ตรงกลาง เป็นพระเจดีย์ประจำปีเกิดของคนเกิดปีมะเมีย พระเจดีย์องค์เล็ก 10 องค์เป็นเจดีย์ประจำปีเกิด 10 ปีนักษัตร พระเจดีย์องค์เล็ก 28 องค์ หมายถึงพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ที่ล่วงมาแล้ว พระเจดีย์องค์เล็กที่เหลือ 10 องค์ พระพุทธเจ้า 10 องค์ ที่จะมาตรัสรู้ในอนาคต
ขนาดองค์พระมหาเจดีย์ สร้างบนเนื้อที่ 6 ไร่ โดยฐานของพระมหาเจดีย์องค์ใหญ่รวมทั้งบริวารทั้งหมดมีขนาดกว้าง 40 x 40 เมตร ความสูงขององค์พระมหาเจดีย์ โดยวัดจากพื้นถึงบัวยอดฉัตร 71 เมตร ระยะเวลาในการก่อสร้างเป็นเวลา 10 ปี ในสมัยรัชกาลที่ ๙ คนที่ไม่มีโอกาสไปกราบไหว้ถึงที่พระมหาเจดีย์ ชเวดากอง แต่ได้มากราบไหว้ที่พระเจดีย์นี้ก็มีอานิสงส์มากเช่นกัน
ความงดงามอลังการที่เราสัมผัสได้ที่ “พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย” พุทธเจดีย์ของภัทรกัปแห่งแรกในประเทศไทยและเป็นแห่งที่ 2 ของโลกอย่างภาคภูมิใจ

ขอขอบคุณข้อมูล/ อบต.นาทราย

ร่วมแสดงความคิดเห็น