นิยม-สหพานิช สนับสนุน A.P.Honda ส่งเสริมเยาวชนเชียงใหม่ “บิดล่าฝัน” ก้าวสู่ระดับโลก

ผู้บริหารค่ายปีกนก สมเจตน์ สินธุอัสว์ ผู้จัดการทั่วไปส่วนงานกีฬายานยนต์ เผยแผนการพัฒนานักบิดสายเลือดใหม่ ซึ่งผ่านการคัดเลือกในโปรเจกต์บิดล่าฝัน “เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี” จะได้เรียนรู้และเข้าสู่โปรแกรมการแข่งขันอย่างมืออาชีพ เริ่มตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป ผ่านเกมดวลความเร็วโดยใช้รถแข่ง “ฮอนด้า NSF100” ตลอดฤดูกาลจำนวนทั้งสิ้น 10 สนาม “นอกเหนือจากจะลงทำการแข่งขันแล้ว เรายังเชื่อมั่นว่าจะต้องสามารถคว้าชัยชนะมาครองให้ได้ด้วย โดยเส้นทางและเป้าหมายที่เราวางไว้ จากสูงสุดนั่นคือในรุ่นใหญ่ของรายการโมโตจีพี ไล่เรียงย้อนลงมาสู่รุ่นโมโตทู โมโตทรี และขยับมาในระดับทวีปอย่างเวทียุโรป รายการซีอีวี จูเนียร์ หรือเอเชีย ทาเล้นต์ คัพ หรือแม้กระทั่งระดับประเทศอย่างไทยแลนด์ ทาเล้นต์ คัพ แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้นได้ ทุกคนจะต้องขยับไปตามสเตป เริ่มต้นจากพื้นฐานด้วยการเข้าร่วมโครงการ เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี หรือโปรเจกต์บิดล่าฝันเสียก่อน” ผู้ดูแลสายงานมอเตอร์สปอร์ตค่ายปีกนก กล่าว เกี่ยวกับโครงการ เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี หรือโปรเจกต์บิดล่าฝัน ปั้นนักบิดไทยสู่ศึกการแข่งขันรถจักรยานยนต์ระดับเวิล์ดกรังด์ปรีซ์ มีวัตถุประสงค์ต้องการเฟ้นหาดาวรุ่งดวงใหม่ อายุระหว่าง 9-14 ปี จำนวน 20 คน เข้าร่วมโปรแกรมพัฒนาเป็นนักแข่งรถจักรยานยนต์มืออาชีพ สังกัด เอ.พี.ฮอนด้า เป็นระยะเวลา 2 ปี ผ่านการควบคุมและฝึกสอนโดย “มาโกโตะ ทามาดะ” และ “โทรุ อูกาว่า” อดีตสองนักแข่งชาวญี่ปุ่นผู้มีประสบการณ์บนเวทีระดับโลกในศึกโมโตจีพี พร้อมด้วย “ฟิล์ม-รัฐภาคย์ วิไลโรจน์” นักบิดชาวไทยคนแรกที่เคยโลดแล่นในรายการเดียวกันรุ่นโมโตทูรวมไปถึง”เอ้ วรพงศ์”นักแข่งระดับเอเซียที่ด้วยมากประสบการณ์ ด้านกำหนดการรอบคัดเลือก รอบแรกมีจำนวน 4 ครั้ง เริ่มต้นสนามที่หนึ่ง วันที่ 30-31 สิงหาคม 2560 จ.กรุงเทพฯ สนามที่สอง เมื่อวันที่ 7-8 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมาใน จ.เชียงใหม่ สนามที่สาม วันที่ 25-26 พฤศจิกายน 2560 จ.ภูเก็ต และสนามที่สี่ วันที่ 4-5 ธันวาคม 2560 จ.บุรีรัมย์ ก่อนทำการคัดเลือกรอบสุดท้ายอีกครั้ง วันที่ 16 ธันวาคม 2560 จ.กรุงเทพฯ

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น