อุตฯเดินแผนปีหน้า สั่งปูพรมระบบออนไลน์

กระทรวงอุตฯ สั่งกรมโรงงานฯ เดินหน้า 4.0 ปูพรมระบบออนไลน์ปี’61 ทั่วประเทศ

นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เพื่อมอบแนวนโยบายแผนการดำเนินงานของ กรอ. ปี 2561 และการปรับโครงสร้าง กรอ. ว่า กระทรวงมอบหมายให้ กรอ. มีบทบาทส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) 4 เรื่อง ได้แก่ การอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการทั่วประเทศให้สามารถขออนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง.4) ขออนุญาตนำกากออกนอกโรงงาน (สก.2) การจดทะเบียนเครื่องจักรได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และสามารถตรวจสอบได้ผ่านการยื่นคำขอและสืบค้นข้อมูลในระบบอิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์ กำหนดให้การวางระบบแล้วเสร็จช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561

นอกจากนี้ ยังให้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดทำฐานข้อมูลภาคอุตสาหกรรมระบบเดียวกันทั่วประเทศ เพื่อกำกับดูแลให้กระบวนการกำจัดของเสียจากโรงงานเข้าสู่การกำจัดรวดเร็วขึ้น โดย กรอ. พัฒนาระบบซอฟต์แวร์ออนไลน์ติดตามดูแลโรงงานทั่วประเทศเรียบร้อยแล้ว และจะขยายผลออกสู่พื้นที่ต่างๆ ช่วยประหยัดต้นทุนได้ในระยะยาว ทำงานได้คล่องตัวมากขึ้น สู่การพัฒนาข้อมูลกลาง (Big data) เพื่อเชื่อมฐานข้อมูลกลางของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งกระทรวงจะเพิ่มงบประมาณประจำปี 2562 เข้ามาพัฒนาการจัดทำฐานข้อมูลให้เกิดการเชื่อมโยงอย่างเป็นรูปธรรม

ขณะเดียวกัน ยังให้มีการสร้างเครือข่ายบุคคลที่ 3 (Thrid Party) เข้ามาช่วยกำกับดูแลความปลอดภัย รวมถึงการต่ออายุใบอนุญาตโรงงาน โดยจะมีการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรงงาน พ.ศ.2535 ให้ครอบคลุมบุคคลที่ 3 เข้ามาทำงานภายใต้การควบคุมของกรอ. โดยล่าสุดคณะกรรมการกฤษฎีกาได้พิจารณาตรวจร่างพรบ.และส่งกลับมาที่กระทรวงอุตสาหกรรม ก่อนที่จะเสนอเข้าที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาได้ภายในปลายปี 2560 นี้ และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปี 2561
นอกจากนี้ กรอ. จะต้องมุ่งเน้นสนับสนุนผู้ประกอบการ 4.0 โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยจัดทำแผนที่ชัดเจน เช่น การพัฒนาส่งเสริมผู้ประกอบการ สู่ Smart Technology เพื่อสนับสนุนการติดตามการทำงาน พร้อมใช้ระบบอินเตอร์เน็ต หรือ Internet of Things (IoT) เข้ามาปรับใช้มากยิ่งขึ้น การประหยัดพลังงานผ่าน Smart Boiler เพื่อลดต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะการยกระดับผู้ประกอบการรีไซเคิล การบำบัดของเสียในพื้นที่อีอีซี ให้เกิดการใช้ประโยชน์มากยิ่งขึ้น

ร่วมแสดงความคิดเห็น