(มีคลิป) สุดยื้อ! “พลายชมพู” ไตวายเฉียบพลัน จากไปอย่างสงบ คนรักช้างเศร้า

สุดยื้อ! “พลายชมพู” ไตวายเฉียบพลัน จากไปอย่างสงบ คนรักช้างเศร้า…

 

ผอ.ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยสุดเศร้า เผยทีมสัตวแพทย์ทำสุดความสามารถแล้ว ถึงกับหลั่งน้ำตา หลังพลายชมพูจากไปอย่างสงบ

นายภพปภพ ลรรพรัตน์ ผอ.สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ อ.อ.ป. เปิดเผยว่า หลังจากที่พลายชมพู ช้างสีดอได้เข้ามารักษาที่โรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อ.อ.ป.เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางทีมสัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลช้าง พร้อมด้วยทีมแพทย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ม.เกษตรศาสตร์ ม.เชียงใหม่ และสัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติพันธุ์พืชและสัตว์ป่า ได้ระดมหาแนวทางการรักษาทุกวิธี โดยทำการเอ็กซเรย์ และทำการอัลตราซาวด์ตรวจสอบภายใน

ซึ่งล่าสุดในบ่ายวันที่ 21ต.ค. ช้างเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น ยินยอมให้ทีมสัตวแพทย์รักษาอย่างดี โดยทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้จัดทำอุปกรณ์เพื่อช่วยพยุงตัวช้างมาให้ และเตรียมจะทดลองใส่ในช่วงดึก จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.15 น. ช้างพลายชมพู ได้ล้มอย่างสงบ โดยไม่มีสัญญาณใดๆบ่งบอกมาก่อน ก่อนหน้านี้ช้างได้ทรุดตัวนั่งลงทิ้งตัวและงวงลงพื้นแน่นิ่งไป ทางทีมสัตวแพทย์ได้พยายามใช้ยากระตุ้นและทำทุกวิถีทางจนเต็มความสามารถแล้ว แต่ช้างได้จากไปอย่างสงบ สาเหตุเบื้องต้นเกิดจากกล้ามเนื้อแตกสลาย เม็ดเลือดปะปนกับกระแสเลือด ทำเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด และไตวาย ซึ่งก่อนหน้านี้จากการตรวจสอบก็พบว่าค่าตับและไตของช้างไม่ดีมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่เราก็หวังว่าอาการจะดีขึ้น

อย่างไรก็ตามยังต้องรอผลตรวจจากทางห้องแล็ปอีกครั้ง สำหรับการจากไปของพลายชมภู ทางทีมแพทย์ถึงกับหลั่งน้ำตาเพราะทุกคนมีความตั้งใจอย่างมาก ขอขอบคุณทุกท่าน และขอให้เป็นกำลังใจกับทีมสัตวแพทย์ เพื่อทำงานต่อไป

ผอ.สถาบันคชบาลแห่งชาติ กล่าวว่า จากนี้จะได้นำซากช้างไปทำการผ่าพิสูจน์ เพื่อทำการศึกษาเนื่องจากเคสนี้เกิดขึ้นเป็นเคสแรก และต้องรอผลตรวจจากห้องแล็ปอีกประมาณ 2 สัปดาห์ จากนั้นจะมีการทำพิธีขอขมา และทำการฝังร่างช้างพลายชมพูไว้ที่คชานุสรณ์สถาน ภายในศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย

สำหรับช้างป่า ตัวนี้ ชาวบ้าน ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก พบลอยคอในริมตลิ่งคลองชมพูตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 17 ต.ค. 60 คาดไหลมาพร้อมกับน้ำป่าที่หลากจากเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ด้านเจ้าหน้าที่รุดให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้นจะปล่อยให้ช้างพยายามขึ้นจากคลองด้วยตัวเอง เนื่องจากเป็นช้างป่า

จากนั้นวันที่ 18 ต.ค. 60 ภารกิจการช่วยเหลือช้างป่าที่ลอยคอในคลองชมพูเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ โดยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ สัตวแพทย์ และชาวบ้านร่วมมือกันวางแผนนำช้างขึ้นมาจากคลอง หลังตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาช้างไม่สามารถที่จะขึ้นมาเอง ตามการประเมินสถานการณ์เบื้องต้น จะให้ช้างขึ้นจากคลองด้วยตัวเอง เนื่องจากเป็นช้างป่า แต่ก็มีแผนว่าหากไม่สามารถกระตุ้น ช้างให้ขึ้นจากน้ำได้ ก็จะใช้ตาข่ายยักษ์ยกขึ้น ทำให้วันนี้หลายฝ่ายต่างมาร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือช้างป่ากันอีกครั้ง จนสามารถช่วยเหลือช้างป่าตัวนี้ขึ้นมาจากน้ำได้สำเร็จ

หลังจากนั้น ทีมช่วยเหลือช้างได้เคลื่อนย้าย “ช้างสีดอ” เพื่อนำไปรักษาตัวที่สถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง จนสำเร็จ หลังใช้เวลานานกว่า 10 ชั่วโมงในการเดินทาง เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ขาทำให้การเคลื่อนตัวไปได้ค่อนข้างช้า ซึ่งเมื่อ “ช้างสีดอ” เดินทางมาถึงสถาบันคชบาลแห่งชาติ ทางทีมสัตวแพทย์ได้เร่งทำการช่วยเหลือและรักษาช้างอย่างเต็มความสามารถ จนเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 21 ตุลาคม 2560 ช้างสีดอตัวดังกล่าวได้ล้มลง และจากไปอย่างสงบ

ร่วมแสดงความคิดเห็น