เดินสายให้ความรู้ ย้ายค่ายเบอร์เดิม

กสทช. เดินหน้าให้ความรู้เกี่ยวกับการย้ายค่ายเบอร์เดิม ลงพื้นที่เมืองรถม้า รุกให้ความรู้นักเรียนโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย ในงาน รู้ไว้ . . . ไหวตัวทัน แนะนำบริการการตรวจสอบสิทธิการย้ายค่ายก่อนเดินทางไปยังจุดบริการ พร้อมอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนร่นเวลาการดำเนินการเหลือเพียง 2 วัน พร้อมชูขอดีข้องการใช้แอปพลิเคชัน “3 ชั้น” เพื่อให้ประชาชนมีเครื่องมือของตัวเองในการตรวจสอบและปกป้องรักษาสิทธิตัวเองจากการใช้งานโทรศัพท์มือถือได้โดยตรง
เมื่อวันที่ผ่านมา นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สายงานกิจการโทรคมนาคม พร้อมด้วย นางสาวจิตสถา ศรีประเสริฐสุข ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและจัดการเลขหมายโทรคมนาคม และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจัดงาน “รู้ไว้…ไหวตัวทัน : การบริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ (ย้ายค่ายเบอร์เดิม) ให้แก่นักเรียน ณ โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย
นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สายงานกิจการโทรคมนาคม เปิดเผยว่า เกี่ยวกับการบริการคงสิทธิหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ ย้ายค่ายเบอร์เดิม ด้วยการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถตรวจสอบสิทธิว่า สามารถย้ายค่ายได้หรือไม่ เพียงกดโทรศัพท์ *151* ตามด้วยเลขบัตรประชาชน 13 หลัก # แล้วโทรออก โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ท่ามกลางนักเรียนโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัยที่เข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก
นายก่อกิจ กล่าวต่อว่า จากการโอนย้ายค่ายเบอร์เดิมที่ผ่านมา ผู้ใช้บริการไม่ได้รับความสะดวก เนื่องจากผู้ใช้บริการต้องติดต่อขอโอนย้ายที่ศูนย์บริการของค่ายใหม่โดยจะไม่ทราบว่า จะติดเงื่อนไขใดที่ทำให้โอนย้ายไม่ได้ กว่าจะรู้ผลต้องใช้เวลา 2 วัน และต้องกลับไปแก้ไขที่ค่ายเดิมรวมเวลาประมาณ 3 วัน สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จึงเร่งแก้ปัญหาด้วยการพัฒนาระบบ “ย้ายค่ายเบอร์เดิม” ดังกล่าวขึ้น ซึ่งหากผู้ใช้บริการไม่ติดเงื่อนไขใด ๆ เช่น เป็นบุคคลเดียวกับที่เคยลงทะเบียนซิมไว้ และไม่มียอดค้างชำระกับค่ายมือถือที่ใช้งานอยู่ ก็จะได้รับรหัสแสดงตน 8 หลักทาง SMS ภายใน 10 นาที เพื่อนำไปสมัครย้ายค่าย ณ จุดบริการของค่ายใหม่ โดยจะสามารถย้ายไปใช้งานกับค่ายใหม่ได้ภายใน 2 วันทำการเท่านั้น
รองเลขาธิการ กสทช. กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ การย้ายค่ายและการเช็คสิทธิสามารถทำได้ทั้งระบบบเติมเงินและระบบรายเดือน การมีระบบการตรวจสอบ หรือเช็คสิทธิของตนก่อนไปสมัครกับค่ายใหม่ นั้น เป็นแนวคิดเพื่อนำเทคโนโลยีมาอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการฟรี ไม่ต้องเสียเวลาติดต่อกับศูนย์บริการ และสามารถรับทราบสถานะของตนเองได้ทันที โดยหากติดเงื่อนไขใด ๆ เช่น เลขบัตรประชาชนไม่ตรงกับที่เคยลงทะเบียนซิมไว้ หรือมียอดค้างชำระกรณีระบบรายเดือน ก็สามารถติดต่อสอบถามกับค่ายเดิมก่อนย้ายค่ายได้
ปัจจุบันมีผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือรวมทั้งสิ้นกว่า 120,000,000 เลขหมาย และผู้ใช้บริการบางรายอาจใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่มากกว่า 1 เลขหมาย รวมทั้งมีการใช้แอปพลิเคชันผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่มากขึ้นในการทำธุรกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะการทำธุรกรรมการเงิน เช่น การโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ ซึ่งต้องใช้เลขหมายโทรศัพท์มือถืออ้างอิงในการใช้งาน ดังนั้น เพื่อป้องกันการลักลอบนำบัตรประชาชนไปลงทะเบียนเปิดใช้งานโดยเราไม่รู้ตัว สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จึงจัดทำแอปพลิเคชันในชื่อว่า “3 ชั้น” โดย “ตรวจ” “แจ้ง” และ “ล็อค”เพื่อให้ประชาชนมีเครื่องมือของตัวเองในการตรวจสอบและปกป้องรักษาสิทธิตัวเองจากการใช้งานโทรศัพท์มือถือ โดยมีขั้นตอนการใช้งาน 3 ขั้นตอน คือ “ตรวจ” ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือสามารถตรวจสอบว่าตัวเองลงทะเบียนใช้งานโทรศัพท์มือถือไว้กี่เลขหมายในชื่อของตนและมีค่ายใดบ้าง, “แจ้ง” ถ้าพบว่ามีเลขหมายแปลกปลอมที่ไม่เคยลงทะเบียนด้วยตัวเอง ให้แจ้งข้อมูลเบื้องต้นไปยังผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ก่อนยืนยันตัวตนที่ศูนย์ให้บริการ และ “ล็อค” ผู้ใช้บริการสามารถล็อคเพื่อป้องกันการเปิดใช้เลขหมายใหม่โดยบุคคลอื่น และปลดล็อคจากแอปพลิเคชันได้ด้วยตนเอง โดยผู้ใช้บริการทั้งระบบรายเดือนและระบบเติมเงิน สามารถดาวน์โหลดผ่าน https://3steps.nbtc.go.th ได้ตั้งแต่วันนี้ โดยใช้งานผ่านทั้งระบบ ios และระบบ android จากนั้นให้สมัครใช้แอพและยืนยันตัวตนได้ที่ศูนย์บริการทุกค่าย โดยสมัครง่ายเพียงค่ายเดียว นายก่อกิจ กล่าวและว่า
” ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.). จะมีการจัดประมูลหมายเลขสวยครั้งที่ 3/2560 ขึ้นในวันที่ 19 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ซึ่งเลขหมายที่คัดสรรมาประมูลนั้น เป็นเลขสวย รวย มงคล จำนวน ตถ เลขหมาย เช่น 095 155 5555, 095 5559999, 096 999 9999, 098 6666666, และ 099 9995555 เป็นต้น ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนร่วมการประมูลล่วงหน้าได้ระหว่างวันที่ 4 – 17 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ โดยรายได้จากการประมูลหลังจากหักค่าใช้จ่ายจะนำส่งเป็นรายได้ของแผ่นดิน “

ร่วมแสดงความคิดเห็น