เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 60 นายประติ จะต๋อ ผู้ใหญ่บ้านแกน้อย ม.2 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเหตุไฟไหม้ ที่บ้านเลขที่ 172 ม.2 ต.เมืองนะ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ไผ่ยกพื้นสูงหลังคามุงสังกะสี มีเปลวไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง ชาวบ้านจำนวนมากพยายามช่วนกันดับไฟ แต่ไม่สามารถดับได้ ตัวบ้านและทรัพย์สินทุกอย่างรวมทั้งรถจักรยานยนต์ถูกไฟเผาไหม้หมด หลังเพลิงสงบพบผู้เสียชีวิตคากองเพลิง 1 รายคือ นายจะพือ จะหว่อ อายุ 67 ปี
ผู้ใหญ่บ้านแกน้อย เปิดเผยว่า ในช่วงเกิดเหตุ ลูกชายทั้งสองคนของผู้เสียชีวิตไปทำไร่ทำสวน คงเหลือเพียงลูกสะใภ้ รวมถึงหลานสาว อายุ 12 ปี หลานชายอายุ 4 ปี และ หลานคนสาวคนเล็กอายุ 5 เดือน อยู่บ้าน โดยลูกสะใภ้บอกว่าอยู่ๆก็เกิดไฟลุกไหม้ และไม่ได้ก่อไฟภายในบริเวณบ้านแต่อย่างใด ด้วยความตกใจจึงรีบพาลูกวิ่งออกจากบ้าน แล้วตะโกนเรียกชาวบ้านให้เข้าไปช่วยอุ้มนายจะพือ ซึ่งป่วยเป็นอัมพาตไม่สามารถขยับเขยื้อนตัวเองได้ แต่ไฟได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรงไม่สามารถเข้าไปช่วยนายจะพือได้ ใช้เวลาเพียง 20 นาทีบ้านถูกไฟเผาเสียหายหมด โดยคาดว่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะบ้านหลังดังกล่าวไม่ได้ทำการตรวจสอบสายไฟอุปกรณ์ไฟฟ้าซึ่งใช้งานมานานกว่า 20 ปี ส่วนสาเหตุที่แน่ชัด ต้องรอเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบอีกครั้งโดยขณะนี้สมาชิกบ้านหลังดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากเพราะไม่สามารถนำทรัพย์สินออกมาแม้แต่ชิ้นเดียวคงเหลือเพียงแต่เสื้อผ้าที่สวมใส่ก่อนเกิดเหตุเพลิงไหม้เท่านั้น และต้องไปอาศัยเพื่อนบ้านอยู่เป็นการชั่วคราว
ในเบื้องต้นหลังเกิดเหตุ นายสราวุฒิ วรพงษ์ นายอำเภอเชียงดาวได้ประสาน เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงใหม่ สาขาเชียงดาว,เหล่ากาชาดอำเภอเชียงดาว,เทศบาลตำบลเมืองนะ เข้าไปให้การข่วยเหลือ และมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 335 จะได้นำสิ่งของพระราชทานไปมอบให้เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
ในขณะที่สื่อสังคมออนไลน์ อาทิเช่น กลุ่มจิตอาสาทำความดี,ห้องข่าวคนชนบท สถานีวิทยุคนชนบทเรดิโอ,สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเชียงดาว ได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนทุกฝ่าย ที่มีความประสงค์จะช่วยเหลือในด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องนอน เสื้อผ้า ชุดนักเรียน ของใช้เด็กอ่อน หรือเงินช่วยเหลือ ตามความเหมาะสม สามารถแจ้งผ่านได้ที่พัฒนาชุมชนอำเภอเชียงดาว ซึ่งจะเป็นตัวกลางนำความช่วยเหลือสู่ผูประสบภัย หรือแจ้งผ่าน เบอร์โทรศัพท์ 084 741 8282 และ 085 694 8715
ร่วมแสดงความคิดเห็น