“เรด แจ๊ส”…ที่รวมมือเก๋า-เจ้าเก่า ตามมาฟังแบบกันเอง…ที่แจ๊ส คาเฟ่

อยู่คู่บันเทิงเชียงใหม่มาอย่างยาวนาน…จนปลุกกระแสแนวเพลงแจ๊สให้เป็นที่ยอมรับ!!

หากใครเป็นนักเที่ยวรุ่นเก่าร่วมสามสิบปีมาแล้ว คงจำสถานที่บันเทิงแห่งหนึ่งได้ที่ตั้งอยู่หลังโรงแรมเพชรงาม เป็นบ้านทรงไม้เก่าแก่ที่โบร่ำ-โบราณมีอายุยาวนานจนเป็นตำนานเล่าขานกันมา ที่ตัวอาคารชั้นบนเปิดเป็น “ขันโตกดินเนอร์” เป็นยุคแรกที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศ ส่วนชั้นล่างตกแต่งสไตล์ยุโรปถือว่าล้ำสมัยสุดในยุคนั้น เพราะโต๊ะโชฟาร์และเก้าอี้นั่งใช้สไตล์หลุยส์หมดตัวหนึ่งก็ตกเป็นหมื่นๆบาท

“เสี่ยต๊อก-สุทธิพงศ์ เรืองศรี” คนเป็นเจ้าของจอมทุ่มในยุคนั้น…เนรมิตสร้างขึ้นมากับ “โลตัส คาเฟ่”

สุดยอดของวงดนตรีที่ประจำในยุคนั้นก็มี “วงโจนาธาน” นกนางนวลที่เล่นได้อย่างนิ่มนวลไพเราะเพราะพริ้ง และสมาชิกวงทั้งหมดก็เป็นมือระดับเกจิของเชียงใหม่ ปัจจุบันเชื่อว่าคงเกษียณงานด้านดนตรีไปหมดแล้ว และอีกหนึ่งวงสั่งมาจากกรุงเทพฯเล่นสลับกันเป็นประจำ

ก็วงนี้แหละ “แฟนทาสติค”…ที่สมาชิกของวงทั้งหมดล้วนเป็นเด็กเทพทั้งสิ้น!!

แนวเพลงเล่นของ “แฟนทาสติค” แตกต่างไปจากวงอื่นๆในเชียงใหม่ในยุคนั้น แปลกหูมาในสไตล์เพลงแจ๊ส-เพลงบลูส์ ฯลฯ เป็นที่ชื่นชอบของแฟนเพลงกลุ่มหนึ่งที่ชื่นชอบเพลงแนวนี้ แต่เมื่อถึงเวลาก็หมดสัญญากับทาง “โลตัส คาเฟ่” ทุกคนที่เป็นสมาชิกของวงก็คืนสู่ถิ่นเก่านครบาล เหลืออยู่คนเดียวสมัครใจที่จะปักหลักที่เมืองเชียงใหม่เพราะหลงใหลกลิ่นเอื้องเสียงซึงเข้าแล้ว เขาคือ

“แดง แฟนทาสติค” กว่าสามสิบปีที่มีทั้งอิ่ม-ทั้งอด เขาก็อยู่เมืองเชียงใหม่…ด้วยใจรัก!!!

เขาอยู่ได้เพราะมีฝีมือการเล่นดนตรี-การร้องเพลงขั้นเทพ เป็นศิลปินเดี่ยวที่ถนัดทั้งเปียโน-กีตาร์-กลอง “แดง แฟนทาสติค” เป็นศิลปินคนเดียวที่เล่นอยู่โรงแรมอมารีรินคำยาวนานที่สุด-ค่าตัวแพงที่สุด และเป็นศิลปินจากเชียงใหม่คนเดียวที่ได้ออกอัลบั้มโดยมีค่ายยักษ์ใหญ่ระดับชาติให้การสนับสนุน

“เรด แจ๊ส” คืออัลบั้มเพลงที่เขาภูมิใจในชีวิต…..จนชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับและได้ร่วมคอนเสิร์ตเพื่อการกุศลระดับประเทศหลายครั้ง-หลายครา

วงแดงแฟนทาสติค ได้ร่วมแสดงต้อนรับคณะรัฐมนตรีอาเซี่ยน

จากวันนั้นมาจวบวันนี้ที่ “แดง แฟนทาสคิค” เล่นมาหลายแห่งและยาวนานที่สุดก็ที่ล็อบบี้ “โรงแรมรินคำ” (ปัจจุบันนี้ปิดไปแล้ว) และได้ร่วมกับเพื่อนๆใจรักดนตรีมาเปิดร้านเองอยู่มากมายหลายแห่ง โยกย้ายไปตามดวงตามประสาใจนะสู้แต่เงินทุนมันน้อย เรื่องการร้อง-การเล่นพอสู้ไหวเพราะมันอยู่ในสายเลือด แต่ที่มันยากไปกว่านั้นคือเรื่องการบริหารธุรกิจในด้านอาหารที่มีขั้นตอนมากมายและละเอียดอ่อน

ถ้าเป็นนักร้อง-นักดนตรีก็ต้องถือว่าระดับปริญญาเอก…แต่ให้บริหารร้านอาหารต้องถือว่ามีภูมิปัญญาระดับเด็กประถม!!

เมื่อชีวิตถูกขีดเส้นให้เดินทางนี้แล้ว “แดง แฟนทาสติค” กลับมาใช้ชีวิตเป็นมือปืนรับจ้างแบบเต็มเวลา-เต็มที่จะดีกว่า รวมพลพรรคคนรู้ใจและรู้มือกันดีตระเวนเล่นไปตามสถานที่บันเทิงในแหล่งต่างๆในที่เชียงใหม่ และบางทีก็มีผู้ว่าจ้างไปร่วมงานใหญ่ในต่างจังหวัด

หากยังคิดถึงเพลงแจ๊สตามไปฟังได้คืนนี้ที่…“ร้านแจ๊ส คาเฟ่” ดื่มไวน์เบาๆเอากับแกล้มหมูปิ้งแถวนั้นแหละ ที่ย่านถนนช้างคลาน

ทัด อัศดร

ร่วมแสดงความคิดเห็น