ไชยปราการ ให้เด็กด้อยโอกาสเข้าเรียนหนังสือ แก้ปัญหายาเสพติดชายแดน

จากการที่ทาง พล.อ.ธนา จารุวัตร อดีตแม่ทัพน้อยที่ 3 ได้ทำการตรวจพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ ซึ่งมีปัญหายาเสพติดมากมาย และมีหลายเหตุ ผลที่ต้องทำการแก้ไขสถานการณ์ ไม่เช่นนั้นพลเมืองของชาติจะตกเป็นทาษยาเสพติด ทั้งเป็นแรงงานทำการผลิต, ขนส่ง, ค้าขาย, เสพ

ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน และกำลังสำคัญในขบวน การ ก็เป็นกลุ่มคนไทยในพื้นที่ตะเข็บชายแดน ตั้งแต่ผู้ใหญ่และมาถึงเยาวชนต้นกล้าที่กำ ลังเติบใหญ่ต้องเข้าไปสู่กระบวนการ ของกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด แล้วต่อไปในอนาคตของประเทศชาติจะเป็นอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าคิดและในส่วนราชการประชาชนก็ต้องช่วยกันที่จะทำการแก้ไข

ในส่วนการศึกษานั้นสำคัญมาก คนทำงานไม่ว่าจะเป็นข้าราชการหรือลูกจ้างก็ตาม ต้องคิดที่จะทำการแก้ปัญหาเด็กที่ไม่เรียนหนังสือ จะทำอย่างไรให้เขาได้เข้ามานั่งเรียนเพื่อรออนาคตของตัวเด็กและอนาคตของประเทศชาติไทยเรา ที่จะต้องมีกำลังจากเยาวชนเหล่านี้ขึ้นมาทำการพัฒนาประเทศชาติต่อจากกลุ่มเก่า ที่จะต้องปลดระวางไปตามกฎระเบียบราชการและสังคม

ทาง พล.อ.ธนา จารุวัตร อดีตแม่ทัพน้อยที่ 3 ซึ่งถือว่าเป็นคนที่ทำงานเพื่อสังคมและทำ งานเพื่อประเทศชาติจริง ได้เดินทางเข้าพบทาง ผอ.โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว และโรงเรียนราชประชา 30 เพื่อมอบนโยบายแนวทางแก้ปัญหายาเสพติดในชายแดนภาคเหนือ และขอทางโรงเรียนได้เข้าทำการร่วมในการช่วยเหลือ กลุ่มเด็กที่ด้อยโอกาสเหล่านี้ ทางนายนัษฐภัทร์ ไกรงาม ผอ.โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้รับนโย บายซึ่งเป็นเรื่องที่ทางโรงเรียน จะต้องเดินเชิงรุกจัดหาเด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาสทุกทาง ให้เข้ามานั่งเรียนเทียบเท่ากับเด็กเยาวชนคนอื่นๆ

จึงได้นำทีมครูเข้าร่วมกับทางทหารชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ชาย แดนภาคเหนือที่ 1 เพื่อเข้าทำการตรวจสอบว่ามีเด็กที่ไม่ได้เรียนหนังสือมีที่ไหนบ้างโดยเข้าไปขอความร่วมมือกับทางกำนัน-ผญบ.ใน ต.แม่ทะลบ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่

ในวันนี้ได้เข้าไปพบกับ นายสินชัย แสนลี่ ผญบ.ชนเผ่าลีซู บ้านห้วยต้นตอง ม.7 ต.แม่ทะลบ ก็ทราบว่ามีเด็กจำนวนหลายสิบคน ได้เข้าไปเรียนที่โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว และในปีนี้ก็มีอีกหลายคนที่จะนำไปเรียนต่อที่นั้น ก็เห็นด้วยกับนโยบายการต่อต้านยาเสพติด

โดยเริ่มที่ตัวเด็กให้เด็กได้เรียนมีความคิดมีวินัย และที่สำคัญออกห่างจากชุมชนที่มีแต่ยาเสพติดได้ และถ้าได้เรียนจบสูงๆก็คงไม่ทำตัวเองให้มามั่วสุ่มกับกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดเหล่านี้ จากนั้นก็ได้เดินทางเข้าพื้นที่บ้านชนเผ่าลาหู่ ที่บ้านป่าเมี่ยง หรือบ้านโป่งพัฒ นา ม.1 ต.แม่ทะลบ พบกับนายวิชัย หมื่นคำ ผญบ. ซึ่งพบว่ามีเด็กที่ไม่มีผู้ปกครองอยู่หลายคน ที่ชาวบ้านช่วยกันนำมาเลี้ยงไว้ ไม่มีพ่อไม่มีแม่ ทาง ผญบ. ก็จะได้นำเด็กให้ไปเข้ารับการศึกษากับโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว ต่อไป

และยอมรับว่าเด็กที่ได้เข้าไปเรียน ก็ได้รับความรู้และมีโอกาสที่เข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น และหลายคนได้ทำงานมีเงินเดือนหลายหมื่นบาท ก็ได้ไปทำงานในพื้นที่อื่นๆ และก็ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และการบุกรุกทำลายป่าก็ไม่มี

ในชุมชนคนดอยนั้นมีอะไรอีกหลายอย่าง ที่หน่วยงานทางราชการยังเข้าไม่ถึง ยิ่งเรื่องการศึกษาก็ถือเป็นเรื่องที่ทางหมู่บ้านคิดกันทุกคนว่า จะให้เด็กลูกหลานได้เรียนที่ดีดีเรียนแล้วนำมาใช้ประโยชน์ต่อตนเองและสังคมได้ นายนัษฐภัทร์ ไกรงาม ผอ.โรงเรียนศึกษาสง  เคราะห์เชียงดาว ก็ได้กล่าวว่าผมและคณะครูจะเข้าทุกพื้นที่ทุกหมู่บ้าน เพราะถือเป็นงาน โดยเฉพาะกับเด็กที่ด้อยโอกาส ไม่มีพ่อแม่เลี้ยงดู หรือยากจน ไม่มีเงินที่จะส่งเสียให้ได้เล่าเรียน

ทางโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว มีที่เรียน ที่นอน อุปกรณ์การเรียน เครื่องนุ่งห่มทั้งชุดแบบเรียน และอาหาร ให้กับเด็กทุกคนเท่าเทียมกัน โดยที่เด็กไม่ได้เสียอะไรเลยทางโรงเรียนจัดให้ ทางโรงเรียนได้เปิดสอนทั้งสายวิชาชีพ จบมาได้ประกาศวิชาชีพ (ปวช) และสายสามัญ

ซึ่งสามารถที่จะไปเรียนต่อได้ทั้ง 2 สายการเรียน เด็กที่ด้อยโอกาสในพื้นที่ป่าบนดอยได้เข้าไปเรียนในเดือนนี้แล้วจำนวนประมาณ 35 คน และจะมีไปเรียนอีกหลายสิบคนในภาคเรียนต่อไป นายนัษฐภัทร์ ไกรงาม ผอ.โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงดาว ถือว่าการใช้เชิงรุกเข้าหาผู้นำและชาวบ้านถือว่าได้ผล และได้เข้าสัมผัสกับพื้นที่ได้เห็นและทราบ ซึ่งก็ดีใจที่ได้เข้ามาและได้ช่วยเหลือชาวบ้านและเด็กเยาวชน อนาคตของประเทศชาติ

ร่วมแสดงความคิดเห็น