เชียงใหม่ บูรณาการ จนท.เกี่ยวข้อง คุมเข้มช่วงเทศกาลยี่เป็ง นำกำลังลุยตรวจร้านจำหน่าย ประทัดยักษ์ และดอกไม้เพลิง

เชียงใหม่ บูรณาการ จนท.เกี่ยวข้อง คุมเข้มช่วงเทศกาลยี่เป็ง นำกำลังลุยตรวจร้านจำหน่าย ประทัดยักษ์และดอกไม้เพลิง เพื่อสร้างความมั่น ใจและความปลอดภัย ให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ขณะที่ร้านค้าและประชาชนให้ความร่วมมืออย่างดี ส่วนใหญ่หันมาเล่นประทัดที่มีความปลอดภัย และหันมาจุดผางประทีปรักษาวัฒนธรรมมากขึ้น


เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 2 พ.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางชนิดา สุวรรณ และ นายอำนาจ มหายนต์ ปลัด อ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.ต.ต.นคร อุ่นตาน สวป.สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้บูรณาการคณะ จนท.เกี่ยวข้องทำการลงพื้นที่ตรวจสอบร้านค้าจำหน่ายประทัดยักษ์และดอกไม้เพลิง ที่ร้านน้องก้อย ดอกไม้ไฟ พร้อมทดลองจุดประทัดที่มีจำหน่ายในร้าน จำนวน 2-3 ชนิด เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของทาง จ.เชียงใหม่ ที่ให้ทาง จนท.ได้มีการเน้นเรื่องของการรณรงค์งดขาย และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การรักษาไว้ซึ่งประเพณีที่ดีงาม และอีกหนึ่งมาตราการที่ให้ความสำคัญคือด้านของความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

ขณะเดียวกันประทัดและดอกไม้เพลิง ยังคงเป็นสิ่งที่ประชาชนนิยม ที่จะซื้อมาจุดเล่นกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งการเล่นประทัดและดอกไม้เพลิง ได้สร้างความเสียหายให้กับชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการสร้างความมั่นนใจและรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาท่องเที่ยวและร่วมงาน ทน.เชียงใหม่ จึงได้ทำการออกตรวจร้านค้าประทัดยักษ์และดอกไม้เพลิง ต่อเนื่องอย่างเช่นทุกๆ ปีที่ผ่านมา

ขณะที่ทางด้าน น.ส.อริญชญา ปิมมณี อายุ 32 ปี เจ้าของร้านน้องก้อยดอกไม้ไฟ ตั้งอยู่เลขที่ 6 ถ.สิทธิวงศ์ ต.ช้างม่อย เปิดเผยว่า ในปีนี้บรรยากาศของการจำหน่ายสินค้าภาย ในร้านเงียบเหงาเป็นอย่างมาก ซึ่งจากแต่เดิมช่วงใกล้เข้าสู่เทศกาลระยะนี้นั้น จะมีบรรดาพ่อค้าและแม่ค้ารายย่อยมาซื้อของไว้เพื่อนำไปจำหน่ายต่อ รวมทั้งกลุ่มผู้เล่นประทัดและดอกไม้ไฟ มาอุดหนุนบ้างแล้ว แต่ปีนี้กลับพบว่ามีคนมาซื้อและอุดหนุนน้อยมาก จนบางวันนับรายได้เลยทีเดียว ส่วนสินค้าที่สามารถจำหน่ายได้บ้าง ก็จะเป็นพวกประทัดเล็กๆ ราคา 5-10 บาท ที่เด็กๆ นิยมเล่นและไม่เป็นอันตราย เช่น ไฟเย็น หรือ กระเทียม เป็นต้น ขณะที่ประทัดจุดรวมทั้งพลุนั้นแทบจะไม่ได้จำหน่าย

น.ส.อริญชญา กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในทุกปีที่ผ่านมาทางร้านของตนได้ปฏิบัติตามข้อบังคับของหน่วยงานที่ประกาศอย่างเคร่งครัด ในเรื่องของการงดจำหน่ายประทัดที่มีเสียงดังหรือประทัดยักษ์ และทุกปีก็จะมี จนท.ของทางเทศบาลฯมาตรวจสอบอยู่ตลอด เนื่องจากทางร้านเป็นเจ้าที่จำหน่ายประทัดรายใหญ่ และเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับผู้ซื้อ และปัญหาทาง ด้านกฏหมาย ทางร้านค้าในตัวเมืองเชียงใหม่ส่วนใหญ่ได้เน้นขายไปยังพลุ ดอกไม้ไฟที่มีสีสันสวยงาม ไม่มีความรุนแรง สำหรับการขายพลุ ดอกไม้ไฟให้แก่ลูกค้า ทางร้านจะดูอายุของลูกค้าประกอบด้วย หากเป็นเด็ก เยาวชน ก็จะไม่ยอมขายเพื่อไม่ให้มีปัญหา

ขณะเดียวกันตนคาดว่าจากการที่ยอดจำหน่ายสินค้าลดลง ก็เนื่องมาจากมีข้อบังคับและกฎหมายที่เข้มข้น อย่างไรก็ตามคาดว่าช่วงเทศกาลลอยกระทงนี้ ก็น่าจะมียอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นไม่มากนัก ซึ่งทางตนก็ต้องทำใจยอมรับ แต่ก็ได้มีการปรับตัวเพื่อให้กิจการอยู่ได้ โดยเมื่อเสร็จสิ้นเทศกาลก็จะส่งสินค้ากลับคืนไป โดยต้องเสียค่าขนส่งอีก แต่หากไม่ส่งกลับก็ขายสินค้าไม่ได้ ส่วนกำไรที่ได้ก็ลดลง โดยตนคาดหวังในปีนี้แค่ขายให้ได้ทุนคืนก็พอแล้ว

ส่วนสินค้าที่ขายได้ขณะนี้ก็เป็นผางประทีป และประพลุโอ่ง ขณะที่โคมลอยก็จำหน่ายได้บ้างแต่ไม่มากนัก นอกจากนี้สินค้าบางชนิดได้มีการปรับต้นทุนสูงขึ้น อย่างเช่นผางประทีป ถ้าซื้อช่วงก่อนงานเทศกาลก็จะได้ราคาถูก แต่เมื่อใกล้ช่วงเทศกาลก็จะมีการปรับราคาขึ้นจาก 50 บาท ปรับขึ้นเป็น 55 บาท ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติเพราะราคาไม่ได้เพิ่มมากนัก

ร่วมแสดงความคิดเห็น