ทำกันได้ลงคอ สาวเภสัชฯ ตระเวนหลอกยืมเงินเพื่อนในวงการเดียวกัน อาศัยความที่รู้จักกัน สุดท้ายเชิดเงินหนีหายผู้เสียหายพากันตามตัวให้วุ่น จนต้องรวมตัวกันเข้าแจ้งความกับตำรวจ ตรวจสอบพบตกเป็นเหยื่อถึง 12 คน รวมเงินมูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท แถมหนึ่งในนั้นตกเป็นเครื่องมือก่อเหตุเพราะถูกปลอมไลน์อ้างเอาไปใช้ทวงหนี้
เมื่อเวลาประมาณ 14:00 น. วันที่ 2 พฤศจิกายน 2560 ที่ สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายจำนวน 5 คน นำโดย นายก่อเกียรติ พรอ้าย อายุ 32 ปี ที่อยู่ 27 ต.บ้านกลาง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ได้ร่วมกันนำหลักฐานเดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.สมเด่น แดงเครื่อง สว.(สอบสวน) สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีกับ น.ส.วัชราภรณ์ ไชยมงคล อายุ 33 ปี ที่อยู่ 48/1 ต.ดอนศรีชุม อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา
กรณีที่ทางผู้เสียหายทั้งหมดถูกหญิงคนดังกล่าวยืมเงินไปด้วยความสนิทและรู้จักกันในวงการอาชีพเภสัชกร รวมทั้งบางคนเคยเรียนจบมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่สุดท้ายกลับถูกเชิดเงินหายไป ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่ามีผู้เสียหายในครั้งนี้ถึง 12 คน และคิดเป็นเงินมูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท ที่ทาง น.ส.วัชราภรณ์ ไชยมงคล ได้ตระเวนขอยืมกับกลุ่มผู้เสียหาย
ทั้งนี้ทาง นายก่อเกียรติ พรอ้าย ตัวแทนผู้เสียหายที่เดินทางเข้าแจ้งความในครั้งนี้ เปิดเผยว่า สาเหตุในครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก น.ส.วัชราภรณ์ ไชยมงคล ได้ทำการกู้เงินของตนไปโดยอ้างว่าจะนำเงินนั้นไปลงทุนทำธุรกิจ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นประมาณ 300,000 บาท โดยเริ่มแรกที่ได้มีการกู้ยืมกันนั้น ตนก็ได้มีการทำสัญญาไว้เป็นหลักฐาน โดยมีทาง น.ส.วัชราภรณ์ ไชยมงคล และน้องอีก 2 คน ได้มาทำสัญญาไว้ รวมเป็นเงิน 130,000 บาท โดยทาง น.ส.วัชราภรณ์ ไชยมงคล ได้บอกว่าจะผ่อนเงินให้ทุกเดือนตามสัญญาที่ทำกันไว้ แต่ภายหลังจากที่มีการทำสัญญากันไปแล้วนั้น ช่วงต่อมาที่ได้มีการกู้ยืมกันอีก
ทางตนก็ไม่ได้มีการทำสัญญากับ น.ส.วัชราภรณ์ ไชยมงคล อีกเนื่องจากว่าตนนั้นไว้ใจเพราะเป็นคนรู้จักกับเพื่อนของตน กระทั่งในเวลาต่อมาพบว่า น.ส.วัชราภรณ์ ไชยมงคล มีพฤติกรรมไม่ทำตามข้อสัญญาที่ตกลงกันไว้ และขอผ่อนเงินกับตนเพียงเดือนละ 1,800 บาท เป็นระยะเวลาถึง 4 ปี พร้อมกับพูดให้ความหวังกับทางตนว่าจะทยอยผ่อนให้เดือนละ 5,000 – 10,000 บาท แต่สุดท้ายจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้เงินคืนเลย รวมไปถึงกลุ่มผู้เสียหายคนอื่นๆ ด้วย
นอกจากนี้จากการสอบถามทางผู้เสียหายรายอื่นๆ ก็พบว่า น.ส.วัชราภรณ์ ไชยมงคล ได้อ้างในลักษณะเดียวกันคือ จะเอาเงินไปลงทุน หรือไม่ก็อ้างว่ามีปัญหาทางการเงินบ้าง โดย น.ส.วัชราภรณ์ ไชยมงคง นั้นก็จะอาศัยกลุ่มคนที่รู้จักกันเพื่อขอยืมเงิน และด้วยความสงสารรวมทั้งเป็นคนรู้จักกัน จึงทำให้กลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อในที่สุด นอกจากนี้หากดูเผินๆ แล้ว น.ส.วัชราภรณ์ ไชยมงคล ก็เป็นคนที่มีความน่าเชื่อถือและดูแล้วน่าจะเป็นคนที่มีฐานะ ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เสียหาย ประกอบกับการทำสัญญาเงินกู้ก็ได้ระบุไว้ว่าจะต้องจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 10 จึงทำให้ตนและผู้เสียหายบางส่วนยินยอมที่จะให้ยืมเงิน และเมื่อเกิดเรื่องขึ้นจึงรู้ว่ามีผู้เสียหายหลายรายจึงเป็นที่มาของการรวมตัวกันเข้าแจ้งความในวันนี้
ขณะที่ทางด้าน น.ส.จิตสุภา วีณะคุปต์ อายุ 33 ปี หนึ่งในผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า ในส่วนของตนนั้นถูก น.ส.วัชราภรณ์ ไชยมงคล ยืมเงินไปทั้งสิ้น 500,000 บาท ซึ่งสาเหตุที่ให้ยืมไปนั้นก็เพราะตนก็เป็นคนที่รู้จักกับ น.ส.วัชราภรณ์ ไชยมงคล เนื่องจากเรียนคณะเดียวกัน และรู้จักมาประมาณเกือบ 10 ปี โดยก่อนหน้านี้ทาง น.ส.วัชราภรณ์ ไชยมงคล ก็เคยมาติดต่อขอยืมเงินกับตน 2-3 ครั้ง แต่ก็ได้คืนเงินให้ทุกครั้ง กระทั่งมาถึงเงินก้อนนี้ทาง น.ส.วัชราภรณ์ ไชยมงคล ได้มาติดต่อขอยืมไป 2-3 ครั้ง โดยที่ไม่ได้ใช้ของเดิมคืน ทำให้มียอดรวมกันถึง 500,000 บาท แต่เนื่องจากทางตนไว้ใจประกอบกับ น.ส.วัชราภรณ์ ไชยมงคล ก็เป็นคนที่น่าเชื่อถือ
จึงไม่ได้ทำสัญญากันแต่อย่างใด จนกระทั่งช่วงหลังๆ ที่ได้ติดต่อทวงเงินไปแต่ก็ถูกพูดบ่ายเบี่ยง ผ่อนผัน จนสุดท้ายก็ไม่ได้คืน และพอมาถึงช่วงวันที่ 20 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา ทางตนก็ไม่สามารถติดต่อกับทาง น.ส.วัชราภรณ์ ไชยมงคล ได้อีกเลยทั้งทางเบอร์โทรศัพท์ และทางไลน์ของเจ้าตัว นอกจากนี้ยังได้เดินทางไปพบกับ พ่อ-แม่ ของ น.ส.วัชราภรณ์ ไชยมงคล ที่บ้าน แต่ทางครอบครัวของ น.ส.วัชราภรณ์ ไชยมงคล ก็ปฏิเสธที่จะไม่รับผิดชอบกับกรณีที่ลูกสาวได้กระทำมาแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวทราบอีกว่า นอกจากนี้หนึ่งในผู้เสียหายรายหนึ่งที่เดินทางเข้าแจ้งความยังได้ตกเป็นเครื่องมือในการก่อเหตุครั้งนี้อีกด้วย โดยทางเจ้าตัวระบุว่า ได้ถูก น.ส.วัชราภรณ์ ไชยมงคล ปลอมไลน์ และแอบอ้างใช้เลขบัญชี เพื่อไปขอยืมเงินของ น.ส.จิตสุภา วีณะคุปต์ เพราะเป็นรุ่นพี่ที่รู้จักกัน โดยที่ทางตนไม่ได้รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด และทราบเพียงว่าเมื่อมีเงินโอนเข้ามา น.ส.วัชราภรณ์ ไชยมงคล ก็จะติดต่อมาบอกให้โอนเงินเข้าบัญชีอีกทอดหนึ่ง
กระทั่งเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นจึงทราบภายหลังว่าได้ตกเป็นเครื่องมือในการก่อเหตุของ น.ส.วัชราภรณ์ ไชยมงคล แล้ว ส่วนเจ้าตัวนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลยหลังเกิดเรื่องนี้ขึ้น อย่างไรก็ตามทางผู้เสียหายทั้งหมดได้ทำการแจ้งความลงบันนทึกประจำวันไว้กับทาง พ.ต.ท.สมเด่น แดงเครื่อง สว.(สอบสวน) สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ เพื่อใช้เป็นหลักฐาน ซึ่งหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น