(คลิป) สาวหัวร้อนมือปาถุงน้ำเงี้ยวใส่หน้าลูกจ้างร้านขนมจีน เดินทางเข้าพบตำรวจ รับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

คืบหน้าคดีฉาวบนโลกโซเชียล ลูกจ้างร้านขนมจีนถูกลูกค้าหัวร้อนปาถุงน้ำเงี้ยวเพิ่งตักจากหม้อเดือดๆ เข้าใส่จนร่างถูกลวกได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดเดินทางหอบหลักฐานเข้าให้ปากคำกับตำรวจ สภ.ช้างเผือก เพื่อดำเนินคดีกับคู่กรณี ส่วนอาการจากบาดแผลยังไม่หายดี เสียค่าใช้จ่ายไปแล้วรวมหมื่นกว่าบาท ขณะที่ช่วงเย็นวันเดียวกันสาวมือปาโผล่เข้าพบตำรวจพร้อมรับทราบข้อกล่าวหา เจ้าตัวเผยรู้สึกสำนึกผิด พร้อมยอมรับผิด เหตุเพียงเพราะอารมร์ชั่ววูบ พร้อมยินดีรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่างและอยากขอโทษทางผู้เสียหายกับสิ่งที่ทำลงไป

จากกรณีที่บนโลกโซเชียลได้แห่แชร์ และวิจารณ์เรื่องราวคลิปเหตุการณ์ลูกจ้างสาวร้านขายขนมจีน ย่านสันติธรรม ในตัวเมืองเชียงใหม่ถูกลูกค้าสาวคนหนึ่งขว้างถุงน้ำเงี้ยวร้อนๆ ที่เพิ่งตักจากหม้อเดือดๆ เข้าใส่หน้าจนทำให้ถูกลวกเป็นแผลพุพองขนาดใหญ่ตั้งแต่บริเวณลำคอลงไปจนถึงบริเวณหน้าอก โดยที่หลังจากก่อเหตุลูกค้าสาวยังยืนด่าลูกจ้างสาวร้านขายขนมจีน รวมทั้งผู้ที่พยายามเข้ามาห้ามปรามด้วย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเย็นวันที่ 4 พ.ย.60 และต่อมาได้การเผยแพร่เรื่องราวดังกล่าวลงในโลกโซเชียลที่ภาพนั้นมาจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บริเวณจุดเกิดเหตุ และทางลูกจ้างที่ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัว หมดเงินค่ารักษาไปร่วม 1 หมื่นบาท อีกทั้งยังไม่ได้ทำงานมาแล้วหลายวันหลังเกิดเหตุ ตามที่ได้มีการนำเสนอข้อมูลไปแล้วนั้น


สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันที่ 10 พฤศจิกายน 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นางคำ ลุงต๊ะ อายุ 26 ปี ชาวอำเภอเวียงแหง ลูกจ้างสาวร้านขายขนมจีนที่เป็นผู้เสียหาย พร้อมด้วยนางสาวอรพินธุ์ เกตุบุญเรือง อายุ 52 ปี เจ้าของร้านขนมจีน และทนายความ ได้นำหลักฐานต่างๆ รวมทั้งใบรับรองแพทย์ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ประยุพ วงศ์รัตนมัจฉา รองสารวัตร (สอบสวน) เพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเตรียมแจ้งข้อกล่าวดำเนินคดีกับคู่กรณีที่เป็นลูกค้าสาวผู้ก่อเหตุ ซึ่งเบื้องต้นทราบตัวตนแล้ว โดยจะมีการออกหมายเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในฐานความผิดทำร้ายร่างกายผู้อื่น

ทั้งนี้การเข้าพบพนักงานสอบสวนในครั้งนี้ของผู้เสียหาย นอกจากการให้ปากคำแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เดินทางมาเพื่อกับนางคำ เพื่อแจ้งทราบให้ทราบสิทธิเกี่ยวกับการได้รับการจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญาและรับคำขอรับสิทธิจากนางคำด้วย ซึ่งประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการรักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 40,000 บาท , ค่าชดประโยชน์การทำมาหาได้เท่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ นับแต่วันที่ไม่สามารถทำงานได้จนกว่าจะทำงานได้ตามปกติ แต่เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี และค่าตอบแทนความเสียหายอื่น ไม่เกิน 50,000 บาท โดยจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการระดับจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือต่อไป


ด้านนางคำ ลุงต๊ะ อายุ 26 ปี ลูกจ้างสาวร้านขายขนมจีนที่เป็นผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ล่าสุดวันนี้ ก่อนที่จะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนตนได้ไปโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการตรวจรักษาบาดแผลตามที่แพทย์นัดหมาย เสียค่าใช้จ่ายไปอีกประมาณ 3,000 กว่าบาท รวมกับที่เข้ารับการรักษาครั้งแรกที่เกิดเหตุและล้างแผลก่อนหน้านี้เป็นรวมเสียค่าใช้จ่ายไปแล้วกว่า 14,000 บาท ส่วนอาการบาดเจ็บล่าสุดนั้น ดีขึ้นตามลำดับ แต่ยังคงเจ็บแผลอยู่และยังไม่สามารถไปทำงานได้ ขณะที่คู่กรณีนั้น นับตั้งแต่ที่เกิดเหตุยังไม่ได้ติดต่อเข้ามาเจรจาพูดคุยตกลงใดๆ นอกจากที่มีการคุยกันครั้งแรกตอนเกิดเหตุว่าจะรับผิดชอบ แต่โดยส่วนตัวไม่ถือโทษโกรธเคืองใดๆ และให้อภัย ขอเพียงให้มาแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่กระทำลงไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลาต่อมา ภายหลังจากที่ทางผู้เสียหาย พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้เดินทางเข้าแจ้งความในช่วงบ่ายแล้วนั้น ในเวลาต่อมาประมาณ 18.00 น. ของวันเดียวกันนี้ ทางด้านสาวมือปาขนมจีนน้ำเงี้ยวที่ปรากฎในคลิป ซึ่งทราบชื่อคือ นางสาวนฤมล วรรณลีย์ อายุ 22 ปี ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาในการสอบปากคำสาวคนดังกล่าวประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนที่จะนำตัวมาพิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อทำประวัติ โดยนางสาวนฤมล ผู้ก่อเหตุนั้นได้สวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ช่วงแรกกล่าวเพียงสั้นๆ กับทางสื่อมวลชนว่าขอยอมรับผิดทุกกรณี ก่อนที่จะเข้าไปให้ปากคำต่อ จนกระทั่งในเวลาต่อมา นางสาวนฤมล ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทางสื่อมวลชนในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่ขอเล่าช่วงเกิดเหตุ

เนื่องจากเกรงจะเสียรูปคดี แต่ก็ยืนยันว่าขอยอมรับผิดโดยไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ และขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดทั้ง 7 วันที่เกิดเหตุการณ์จนกระทั่งช่วง 2 วันที่ผ่านมามีการเผยแพร่คลิปภาพก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอยากขอโทษคู่กรณี โดยจะยอมรับผิดชอบทุกอย่าง ทั้งนี้ยืนยันว่าเกิดขึ้นด้วยอารมย์ชั่ววูบ โดยทั้งคู่ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำ แจ้งข้อกล่าวหา ทำประวัติ ก่อนที่จะปล่อยตัวไป ยังไม่มีการส่งฟ้อง เนื่องจากต้องรอสรุปสำนวนคดี พยานหลักฐาน และผลตรวจร่างกายมาประกอบสำนวนก่อนที่จะมีการส่งฟ้องต่อไปแล้วจะมีการเรียกผู้ต้องหามาดำเนินคดีต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น