เที่ยวธรรมชาติ “เดินป่าอาบนํ้าตก” ที่เมืองปาน ลำปาง

“เมืองเก่าแก่โบราณแห่งหนึ่งของลำปาง ย้อนรอยอดีตตั้งแต่สมัยพุทธกาล ตำนานที่กล่าวขานสืบทอดกันมา ไขความเร้นลับเมืองแห่งปริศนาธรรม รอยพระพุทธบาท ดอยปู่ยักษ์ พระธาตุวงตาซึ่งสร้างโดยพระอรหันต์สาวก ปานทองคำซึ่งถูกฝังไว้ภายในถ้ำที่มีลำธารไหลออกมา เรื่องราวเหล่านี้มีจริงดั่งคำร่ำลือหรือไม่…”

อำเภอเมืองปาน “แหล่งต้นน้ำลำธาร อุทยานฯ แจ้ซ้อน บ่อน้ำร้อนลือนาม สามต้นสักใหญ่ ไหว้พระธาตุดอยซาง” คำขวัญของอำเภอเมืองปานซึ่งนับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของลำปาง เป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนที่นักท่องเที่ยวเข้าไปชมน้ำตกและนิยมการแช่น้ำแร่กันเป็นประจำ นอกจากความสวยงามตามธรรมชาติ สภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารแล้ว ใครจะรู้ว่าที่นี่ยังมีปริศนาเร้นลับที่ซ่อนให้ทึ่ง น่าค้นคว้าและติดตามตำนานประวัติความเป็นมา ซึ่งย้อนรอยอดีตไปตั้งแต่สมัยพุทธกาล

จากคำบอกเล่าของพระครูสุวรรณ รัตนาภิรัต ซึ่งอ่านได้จากปั๊บกระดาษสา
จารึกด้วยตัวอักษรล้านนาโบราณกล่าวว่า หลังจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้แล้วได้เดินทางมาประกาศเผยแพร่พระพุทธศาสนา ณ ที่แห่งนี้ แต่ครั้งแรกได้รับการขัดขวางจากยักษ์ร้ายที่อาศัยอยู่บนยอดเขาลูกหนึ่ง ซึ่งคอยอาละวาดทำร้ายจับผู้คนกินเป็นประจำ จนกระทั่งพระพุทธองค์ได้เทศน์โปรดยักษ์ร้ายจนสิ้นพยศ ยอมรักษาศีลอยู่ในธรรม ทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นชุมชนใหญ่โตมีผู้คนเข้ามาอยู่อาศัยเพิ่มากขึ้น ก่อสร้างบ้านเมืองขึ้นมามีหัวหน้าชื่อ ขุนจเรปาน ปกครองเมืองด้วยความผาสุกเรื่อยมา จนเป็นที่อิจฉาริษยาของละแวกใกล้เคียง จึงคอยยกพวกมาก่อกวนรุกรานอยู่เสมอๆ ขุนจเรปานจึงได้คิดสร้างรหัสขึ้นมาคล้ายกับฆ้องตีทำด้วยทองคำเรียกว่า ปานคำ ยามที่ข้าศึกยกทัพมาก็จะตีปานคำเพื่อเรียกชาวบ้านให้มาช่วยกันต่อสู้ด้วยความพร้อมเพรียง แต่ครั้งสุดท้ายมีศัตรูยกพวกมามากมาย ขุนจเรปานนำกำลังเข้าต่อสู้จนสุดความสามารถแต่สู้ไม่ได้จึงหนีเข้าไปในถ้ำพร้อมกับนำเอาปานคำเข้าไปด้วยและไม่ได้กลับออกมาอีกเลย ถ้ำที่ว่านี้อยู่บนยอดดอยแห่งหนึ่งในอำเภอปาน เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านแม่ปาน หมู่ที่ 7 ซึ่งชาวบ้านทั้งหมดล้วนประกอบอาชีพและมีรายได้จากการทำเหมี้ยง และที่น่าแปลกถ้ำลูกนี้เป็นต้นกำเนิดของน้ำแม่ปานเป็นแม่น้ำสายหนึ่งที่ไหลไปรวมกับแม่น้ำวัง นอกจากนี้คำจารึกยังกล่าวต่อไปอีกว่า หลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานแล้ว ได้มีพระอรหันต์สาวกมาสืบเสาะหาสถานที่ที่พระองค์เคยจาริกมาโปรดไว้ โดยนำเอาเส้นพระเกศาของพระพุทธองค์ใส่ไว้ในถ้ำอีกลูกหนึ่ง แล้วสร้างองค์พระธาตุไว้เหนือถ้ำ โดยปิดปากถ้ำเอาไว้ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นหน้าผาที่มีองค์พระธาตุตั้งอยู่ข้างบนมีชื่อเรียกว่า พระธาตุวงตา นอกจากนี้ยังกล่าวถึงยอดดอยที่อยู่ใกล้กับตัวอำเภอเมืองปานมีชื่อว่า “ดอยปู่ยักษ์” ข้างบนยังมีรอยพระพุทธบาท บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ผาตูบเป็นลานหินสำหรับนั่งแต่มีหน้าผาชะโงกมาคล้ายหลังคา และยังมีถ้ำอยู่ติดกันอีก 3 ถ้ำ
ซึ่งข้างในเป็นลานกว้างมีหินงอกหินย้อยสวยงามตรง
ปากทางเข้าถ้ำมีแท่นหินเป็นรูปคนนอนขวางอยู่
บนหลังเขามีหลุมลึกตรงไปสู่ถ้ำ เสียงคำร่ำลือว่าเป็นทางเข้าออกของพญานาคที่คอยปกป้องคุ้มครองยามที่พระองค์ทรงเสด็จมา ต่อจากดอยลูกนี้สามารถเดินด้วยเท้าบนสันเขาเชื่อมระหว่างดอยไปหาองค์พระธาตุดอยซาง ซึ่งมีประวัติความเป็นมาว่าสร้างโดยพระอรหันต์สาวกอัญญาโกณฑัญญะและบันทึกว่าครั้งหนึ่งพระนางจามเทวีเคยมาบรูณะปฏิสังขรณ์ ครูบาเจ้าศรีวิชัยก็ได้มาปรับปรุงอีกครั้งหนึ่ง
อำเภอเมืองปานตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดลำปาง มีอาณาเขตทิศเหนือติดกับอำเภอวังเหนือและจังหวัดเชียงราย ทิศใต้ติดกับอำเภอเมืองลำปาง ทิศตะวันตกติดกับจังหวัดเชียงใหม่ ทิศตะวันออกติดกับอำเภอแจ้ห่ม โดยมีดอยปู่ยักษ์เป็นพรมแดน การเดินทางมาที่นี่โดยทางสวนสาธารณะหนองกระทิงแล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1157 (ลำปาง – ห้วยเป้ง) ระยะทางประมาณ 55 กิโลเมตรถึงตัวอำเภอและต่อไปอีก 15 กิโลเมตรถึงอุทยานฯแจ้ซ้อน ที่โดดเด่นก็คือ น้ำพุร้อน ซึ่งมีบริการห้องอาบน้ำแร่และเหนือขึ้นไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตรจะมีน้ำตกซึ่งทิ้งตัวเป็นสายดูสวยงามท่ามกลางความเขียวชุ่มชื่นของแมกไม้ป่าต้นน้ำ เนื่องด้วยพื้นที่ส่วนใหญ่ของอำเภอเมืองปานครอบคลุมด้วยพื้นที่อุทยานฯและเขตป่าสงวนมีความเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะจัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ (Ecotourism) แหล่งใหม่ซึ่งมีความบริสุทธิ์และหลีกเลี่ยงความซ้ำซากจำเจจากแหล่งที่นักท่องเที่ยวเคยไปมาแล้ว ซึ่งแต่เดิมผู้คนส่วนใหญ่ แม้แต่ชาวลำปางเองก็คิดว่า ที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวที่เดียวคือ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน
แต่ความจริงแล้วมีสถานที่เที่ยวหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวชมแห่ง
ธรรมชาติแบบสบายๆ คือ การเดินท่องเที่ยวบนดอยปู่ยักษ์ ยังมีสถานที่ที่มีชื่อตาม
ตำนานหลายแห่งให้ชม หลังการพักผ่อนกราบไหว้นมัสการองค์พระธาตุซึ่งล้อมรอบ
อำเภอเมืองปานทั้ง 4 ทิศ จะเป็นแบบทัศนศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับพืชพันธุ์ไม้ รวมทั้ง
นกนานาชนิด นอกจากนี้ตามขุนเขาที่กั้นพรมแดนระหว่างอำเภอเมืองปานกับจังหวัดเชียงใหม่ยังเป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำสายสำคัญคือ ลำน้ำแม่ปาน แม่สวย
และแม่มอญ (น้ำตกแจ้ซ้อน) นักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัยและการเดินป่า สามารถใช้เส้นทางได้ทั้ง 3 สายเดินลัดเลาะตามลำธารผ่านน้ำตกหลายแห่ง หมู่บ้าน
ชาวเขาเผ่าลีซอ มูเซอ ตลอดทางจะพบเห็นพันธุ์ไม้ป่าที่หาดูได้ยากและตามสายน้ำยังมีปลาชนิดหนึ่งซึ่งมีเนื้อหวานอร่อยเรียกว่า ปลาปรุงหรือปลาพลวงหิน
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมล่องแพยาง ซึ่งทางกลุ่มผู้นำท้องถิ่นคือ เทศบาลตำบลแจ้ซ้อนและชุมชนได้พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่โดยได้จัดให้มี
ที่พัก อาหารและคนนำทางสำหรับบริการนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการเริ่มต้นที่ดีในความร่วมมือกระตือรือร้นของชุมชนท้องถิ่นที่จะมีส่วนเข้ามาส่งเสริมการท่องเที่ยว
ในชุมชนให้เกิดประโยชน์ ตลอดจนช่วยเหลือในการพัฒนาทรัพยากรท่องเที่ยวในชุมชนตนเองให้มีความยั่งยืนต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น