(คลิป) คืบหน้ากรณีกระบะพุ่งตัดหน้าจักรยานยนต์แล้วขับหนี ล่าสุดเจ้าตัวเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว

โซเชียลลุมแชร์ยับ กระบะพุ่งตัดหน้า จักรยานยนต์ จนพุ่งชนอย่างจัง แต่กลับไม่ลงมาดูคนเจ็บ แถมขับหนี ด้านลูกสาวคนเจ็บเอาภาพและคลิปเหตุการณ์มาโพสต์ วอนผู้พบเบาะแสช่วยติดตามตัวคนขับมารับผิดชอบกับสิ่งที่ทำลงไป จนสุดท้ายตำรวจตามเจอเบาะแส และเจ้าตัวสำนึกผิด เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน พร้อมยินดีรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากต้องรอผลการพิสูจน์หลักฐาน

วันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 ผู้สื่อข่าวได้ทราบเรื่องราวจากสมาชิกเฟสบุ๊ครายหนึ่ง ที่ใช้ชื่อว่า “Kannika Saenthan” ที่ได้โพสต์ภาพและคลิปวีดีโอเหตุการณ์ที่มีรถกระบะสีเทาคันหนึ่ง ขับออกมาจากซอย เพื่อจะข้ามฟากไปยังอีกฝั่ง แต่ระหว่างนั้นได้ขับตัดหน้ารถจักรยานยนต์ จนทำให้เกิดพุ่งชนอย่างจังจนรถจักรยานยนต์ล้ม และคนขับได้รับบาดเจ็บ และได้มีพลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือคนขับรถจักรยานยนต์ แต่รัหว่างนั้น คนขับรถกระบะคันดังกล่าวซึ่งอยู่ภายในรถ แค่ชะเง้อหน้าออกมาจากหน้าต่างกระจก ก่อนจะขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ผู้บาดเจ็บอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยในเวลาต่อมาเมื่อเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปในโลกโซเชียล ส่งผลให้มีผู้คนเข้ามาแชร์เรื่องราวและวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำของคนขับรถกระบะคนดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ทางเจ้าของเฟสบุ๊คดังกล่าวยังได้มีการโพสต์ข้อความโดยระบุว่า “รบกวนเพื่อนๆหน่อยนะคะ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 เวลาประมาน 07.40 น.มีอุบัติเหตุ รถยนต์ตัดหน้ารถจักรยานยนต์ บริเวณแยกสะพานห้วยทราย คลองชลประทาน ขาขึ้นทำให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บ (พ่อเราเอง) เย็บหน้าผาก ซี่โครงหัก 3ซี่ ปอด ตับ ฉีก ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่ รพ สวนดอก ห้องผู้ป่วยวิกฤตทางรถยนต์คู่กรณีได้ขับหลบหนีไปโดยใช้เส้นทางคลองชลประทานขาออกซึ่งเป็นรถกะทะสีบรอนด์ มีโครงเหล็กด้านหลัง ไม่ทราบทะเบียน เราได้ติดต่อทางเทศบาลตำบลสุเทพเพื่อขอติดตามดูกล้องวงจรปิดแล้วซึ่งมีกล้องสองตัวในเหตุการณ์ ตัวแรกเป็นฝั่งขาขึ้น เห็นเหตุการณ์ แต่มองไม่เห็นแผ่นป้ายทะเบียนของรถกะบะกล้องอีกตัวเป็นฝั่งขาออก ทางเทศบาลแจ้งว่า กล้องตัวนั้นเสีย ทำให้ไม่สามารถมองเห็นแผ่นป้ายทะเบียนได้หากท่านใดขับขี่ผ่านเส้นทางคลองชลประทาน ที่เกิดเหตุมีกล้องหน้ารถ หรือเห็นเหตุการณ์รบกวนแจ้งเบาะแส 086-4903756 (ซีเกมส์) ขอบพระคุณคะ”

กระทั่งต่อมาในช่วงค่ำ เวลาประมาณ 19.00 น. วันเดียวกันนี้ ที่สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายทยุติ วิลาช อายุ 62 ปี ชาวตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อแสดงตัวว่าเป็นคนขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าว หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนหาข้อมูลและได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีจนกระทั่งสามารถติดตามอายัดรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ หมายเลขทะเบียน ผบ 1656 เชียงใหม่ ซึ่งเป็นรถที่ก่อเหตุได้จากอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่งแล้วนำมาไว้ที่สถานีตำรวจ โดยการเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนในครั้งนี้ของนายทยุติ ได้มีนางสาวกรรณิกา แสนทัน อายุ 21 ปี ลูกสาว ของนายธวัชชัย แสนทัน อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ที่ได้รับบาดเจ็บ มาพบกับนายทยุติ และพนักงานสอบสวนด้วย

ทั้งนี้เบื้องต้นนายทยุติ ยอมรับว่า เป็นคนขับรถยนต์กระบะคันที่เกิดเหตุและยอมรับว่าเป็นฝ่ายผิดด้วย แต่ไม่ได้ตั้งใจ โดยช่วงเกิดเหตุกำลังขับรถออกจากบ้านเพื่อไปรับคนงาน ถึงจุดเกิดเหตุขับข้ามถนนเพื่อไปฝั่งตรงกันข้าม แต่มองไม่เห็นรถจักรยานยนต์เพราะเป็นช่วงทางโค้งจนทำให้กลายเป็นการขับตัดหน้าและรถจักรยานยนต์ชนเข้าที่บริเวณประตูรถของตัวเองด้านคนขับ โดยที่ตัวเองได้รับบาดเจ็บเช่นกันบริเวณใบหน้าด้านขวาเนื่องจากโดยหมวกกันน็อคกระเด็นใส่ และด้วยความตกใจ ประกอบกับกลัวความผิด และเห็นว่ามีคนให้ความช่วยเหลือคนขี่รถจักรยานยนต์แล้ว จึงหลบหนีไป ซึ่งเวลานี้รู้สึกผิดอย่างมากและขอโทษครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่างด้วย ขณะที่นางสาวกรรณิกา แสนทัน อายุ 21 ปี ลูกสาว ของนายธวัชชัย แสนทัน อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ที่ได้รับบาดเจ็บ และเป็นผู้โพสต์คลิปเหตุการณ์เฟซบุ๊คเพื่อติดตามหาตัวคนขับรถยนต์กระบะคู่กรณีจนมีการเผยแพร่อย่างรวดเร็วจนกระทั่งพบตัว เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่สามารถติดตามหาตัวคู่กรณีจนพบและได้มาพบทางตำรวจแล้ว เพื่อที่จะได้รับผิดชอบความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการักษาพยาบาลพ่อของตัวเอง ซึ่งเวลานี้ยังคงได้รับบาดเจ็บทั้งกระดูกซี่โครงหัก,เลือดออกในช่องท้อง,มีบาดแผลบนใบหน้า และข้อเท้าหัก ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ทั้งนี้แม้อาการจะดีขึ้นบ้างแล้ว แต่ยังได้รับบาดเจ็บหนักและต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง

ส่วนทางด้าน พันตำรวจโทประสงค์ นาฝั้น สารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายทยุติ โดยยังเป็นเพียงการเข้ามาแสดงตัวยอมรับว่าเป็นผู้ขับรถยนต์กระบะคันที่เกิดเหตุ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ยึดอายัดไว้เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบ ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหานั้น ยังต้องผลการตรวจรักษาอาการบาดเจ็บของคู่กรณีที่เป็นคนขับขี่รถจักรยานยนต์เสียก่อน นำมาประกอบกับผลการตรวจสอบรถที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จึงจะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับนายทยุติ ต่อไป ซึ่งเบื้องต้นน่าจะเป็นข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสและทรัพย์สินเสียหาย

ร่วมแสดงความคิดเห็น