ตำรวจภาค 5 รวบแก๊ง”คอลเซ็นเตอร์”ชาวไต้หวัน

เมื่อเวลา 8.00 น.วันที่ 23 พ.ย. 60 พ.ต.อ.รัฐพล น้อยช่างคิด ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5 พ.ต.ท.นิติพันธ์ สังขกร รรท.รอง ผกก.สส.3 ประจำ ศปจร.ภ.5 พร้อมกับพวก ได้ร่วมกันทำการจับกุม Mr.CHIU, CHING-CHUNG สัญชาติจีน(ไต้หวัน) , Mr.LIN, JYUN-ZE สัญชาติจีน(ไต้หวัน) และ Mr.CHEN, WEI-CHENG สัญชาติจีน(ไต้หวัน)

พร้อมของกลางสมุดเงินฝาก 3 รายการ บัตรเอทีเอ็ม จำนวน 6 รายการ , ใบบันทึกรายการ โอนเงิน จำนวน 4 ราย การ โดยต้องหาว่า “ร่วมกันใช้และมีไว้ใช้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายของผู้อื่นหรือประชาชน ฯ”

ในการจับกุมครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า มีกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกโอนเงินได้ก่อเหตุหลอกลวงผู้อื่นในพื้นที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 21 พ.ย.60 ซึ่งคนร้ายให้ผู้เสียหายโอนเงินให้ และจากการตรวจสอบก็พบว่า มีการถอนเงินออกจากตู้เอทีเอ็มหลายจุดในพื้นที่ จ.เชียงราย จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ลงไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดและสืบหาแก๊งดังกล่าว ก็พบว่าจะลงมือก่อเหตุหลอกลวงเหยื่อ และตระเวนกดเงินบริเวณรอบตลาดไนท์บาซาร์ ต. เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย

จึงได้ออกตดตามหาตัวโดยรอบบริเวณดังกล่าว กระทั่งได้ทราบว่า มีชายต้องสงสัยได้เข้าพักที่โรงแรมจันทร์สมเฮ้าส์ ตั้งอยู่เลขที่ 897/2 ถ.เจ็ดยอด ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย โดยมีนายคำรณ แซ่ก่อ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 841 หมู่ที่ 10 ต.หนองบัว อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ เป็นผู้ทำการเปิดห้องพัก และพักอยู่ห้อง 102 ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวนายคำรณ มาทำการสอบสวน ก็ได้ทราบว่า มีชายชาวไต้หวันจ้างให้ทำโดยให้ตนเองเป็นล่ามแปลภาษาให้ และชายชาวไต้หวันกลุ่มดังกล่าว พักอาศัยอยู่ที่ห้องพักเลขที่ 311

ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปจับกุม เมื่อไปถึงก็พบ Mr.CHIU อยู่ภายในห้องพัก จึงได้ให้นายคำรณ เป็นล่ามให้ เพื่อที่จะแสดงตัวและเข้าทำการตรวจค้น ก็พบของกลางทั้งบัตรกดเงินสด รวมถึงเงิน และทรัพย์สินอื่นๆ หลายรายการ จึงได้จับกุมตัวไว้ทันที หลังถูกจับกุมก็รับสารภาพว่า เพื่อนอีก 2 คน กำลังเดินทางมาลงที่สนามบินเชียงราย เพื่อมาทำหน้าที่กดเงิน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ออกติดตามหาตัว กระทั่งพบชายสองคนมีลักษณะตรงกับที่ Mr.CHIU ให้การไว้ กำลังยืนกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารออมสิน สาขาสถานีขนส่ง จ.เชียงราย แห่งที่ 2 จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่และเข้าทำการจับกุมทันที

จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาที่ กองบังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงราย เพื่อทำการสอบสวน และแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “ร่วมกันใช้และมีไว้ใช้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายของผู้อื่นหรือประชาชนฯ” จากนั้นนำตัวส่ง พงส.สภ.เมือง จ.เชียงราย ดำเนินคดีต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น