โซเชียลแห่แชร์เรื่องราวสุดเศร้า เจ้าของสุนัขร่ำไห้แทบขาดใจ หลังถูกคนขับรถทับอย่างไม่เหลียวแล

โซเชียลแห่แชร์เรื่องราวสุดเศร้า เจ้าของสุนัขร่ำไห้แทบขาดใจ หลังถูกคนขับรถทับอย่างไม่เหลียวแล ขณะที่ผ่านไปแล้วเกือบสัปดาห์ คู่กรณีคนขับรถยังไม่มาแสดงตัวขอโทษ หรือแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด ด้านเจ้าของชี้อยากให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอุทาหรณ์กับคนเลี้ยงสัตว์ และคนใช้รถใช้ถนนในหมู่บ้าน วอนขับรถด้วยความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุดังเช่นที่ได้เจอครั้งนี้

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งใช้ชื่อว่า “Bryan Tan” ที่ได้โพสต์ข้อความ ภาพเหตุการณ์ และคลิปวีดีโอ ที่เป็นเรื่องราวของมารดาตัวเองขณะกำลังร้องไห้ด้วยความโศกเศร้าเสียใจ และอุ้มร้างสุนัขพันธุ์ปอม ตัวหนึ่งที่ประสบอุบัติเหตุถูกรถกระบะที่ขับออกมาจากหมู่บ้าน แล้วเกิดชนใส่จนตาย ขณะที่สุนัขตัวดังกล่าวได้ออกมาเดินเล่นบริเวณนอกบ้าน แต่ภายหลังจากที่คนขับรถได้ขับรถชนสุนัขตัวนี้แล้ว กลับไม่จอดรถลงมาดูหรือแสดงตัวเข้าขอโทษเจ้าของแต่อย่างใด แม้เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นนี้จะผ่านมาหลายวันแล้วก็ตาม

โดยทางเจ้าของเฟซบุ๊กรายนี้ยังได้ระบุข้อความด้วยว่า “การสูญเสียครั้งนี้ เราคงเอาความอะไรไม่ได้ แต่แค่อยากให้คนที่ขับรถเหยียบน้องหมาของเรา รับรู้ว่า เราและแม่เสียใจมากขนาดไหน เพราะตั้งแต่เขาขับรถเหยียบไปวันนั้นจนถึงวันนี้ เรายังไม่เห็นแม้เงาของเขาเลย ทั้งๆ ที่บ้านอยู่เยื้องกัน ครั้งนี้ถือว่าเราก็ผิดที่หมาหลุดออกไปเองได้ (ปกติไม่ได้ปล่อยออกนอกบ้านครั้งนี้แอบช่วยกันดันประตูออก) ส่วนเขาจะเจตนาชนหรือไม่ ยังไงก็น่าจะบอกกันบ้าง ไม่ใช่ชนแล้วหนี จนเราต้องมาหาดูจากกล้องวงจรปิดเอง” โดยเมื่อเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปบนโลกโซเชียลทำให้มีผู้เห็นเรื่องราวดังกล่าวเป็นจำนวนมาก อีกทั้งมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำของคนขับรถคันดังกล่าว รวมทั้งมีการแชร์เรื่องราวขณะนี้ไปแล้วกว่า 60,000 แชร์

ในเวลาต่อมา เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวทางผู้สื่อข่าวได้ทำการติดต่อไปยังเจ้าของเฟซบุ๊ก ก็ทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ หมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในตำบลต้นเปา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งหญิงที่ปรากฎในคลิปคือ นางอรทัย ตื้อหล้า อายุ 60 ปี เจ้าของสุนัขที่ ซึ่งทางเจ้าตัวเปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุหลังจากที่ตนเห็นสุนัขที่รักและเลี้ยงดูเสมือนลูกถูกรถชนตายก็รู้สึกเสียใจมากจนทำอะไรไม่ถูก และได้แต่ร้องไห้เสียงดังมากจนแทบจะเป็นลม โดยในวันเกิดเหตุตนได้ออกไปทำธุระข้างนอก

ซึ่งคาดว่าสุนัขที่เลี้ยงไว้น่าจะวิ่งออกมาตามเนื่องจากอาจจะปิดประตูรั้วไม่สนิท และหลังจากกลับจากทำธุระเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มาเจอเหตุการณ์ดังกล่าว โดยพบว่าร่างของสุนัขที่รักนอนอยู่กลางถนน ด้วยความตกใจจนตนทำอะไรไม่ถูกก็ได้แต่ร้องไห้ และรีบวิ่งไปอุ้มร่างของสุนัขขึ้นมาจากพื้น ซึ่งตนยอมรับว่าสุนัขตัวนี้ตนรักมาก

ขณะเดียวกันตนก็รู้สึกโกรธคนขับรถคันดังกล่าว เนื่องจากหลังเกิดเหตุเจ้าตัวน่าจะลงมาดู แต่พอชนเสร็จกลับขับรถไปอย่างไม่สนใจใยดี นอกจากนี้ระหว่างเกิดเหตุสุนัขก็หลุดออกไปหลายตัว ซึ่งคนขับนั้นก็น่าจะเห็นและน่าจะระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดชนใส่ โดยการชะลอรถหรือบีบแตรไล่ เพื่อให้สุนัขวิ่งหลบให้พ้นทาง อย่างไรก็ตามหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ตนอยากฝากถึงผู้ขับขี่รถให้ระมัดระวังสัตว์เลี้ยงที่ชอบวิ่งเล่นในหมู่บ้าน เวลาขับรถก็ควรชะลอความเร็ว ไม่ขับไว และอยากให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับคนเลี้ยงสัตว์ด้วย

ทางด้าน นายพลากร แซ่ตัน อายุ 28 ปี ผู้โพสต์เรื่องราวดังกล่าว เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่ตนได้โพสต็ลงในโลกโซเชียลนั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นบริเวณด้านหน้าหมู่บ้านห่างจากบ้านตนประมาณไม่ถึง 30 เมตร ด้านหน้าป้อมยาม โดยขณะที่ตนตื่นเช้ามากำลังจะไปทำงาน ตนได้สังเกตเห็นว่าประตูรั้วบ้านได้เปิดแง้มออกเล็กน้อยและเห็นสุนัขที่เลี้ยงไว้ออกไปวิ่งอยู่ข้างนอก ตนคิดว่าสุนัขคงจะหลุดออกไป และกำลังจะไปต้อนเข้ามาในบ้าน

เนื่องจากปกติสุนัขทั้งหมดจะไม่ค่อยปล่อยให้หลุดออกไป และจะเลี้ยงไว้ในบ้านเนื่องจากเกรงจะไปสร้างความรำคาญให้กับเพื่อนบ้าน และเกิดอุบัติเหตุได้ แต่ในวันเกิดเหตุก็ไม่ทราบเช่นกันว่า สุนัขได้หลุดออกไปได้อย่างไร แต่ระหว่างที่ตนกำลังจะออกไปต้อนสุนัขนั้นก้ได้ยินเสียงกรีดร้องดังมากจึงได้รีบวิ่งออกมาดูก็พบสุนัขที่เลี้ยงไว้ตัวหนึ่งที่ชื่อว่า “ไดม่อน” นอนตายอยู่กลางถนนสภาพจมกองเลือด จากนั้นก็เห็นแม่ของตนอุ้มร่าง “ไดม่อน” ขึ้นมาและร้องไห้ด้วยความโศกเศร้าเสียใจอย่างที่ปรากฎภายในคลิปดังกล่าว

ในตอนแรกที่เจอเหตุการณ์นั้นตนรู้สึกตกใจ และสงสัยมากว่าใครเป็นคนขับรถเหยียบสุนัข และเหยียบได้อย่างไร อีกทั้งรู้สึกโมโหมากกับคนที่ทำ แต่ตนกับแม่ก็ได้ปล่อยให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวผ่านไปประมาณ 1-2 วัน เพื่อดูว่าคนที่ขับชนสุนัขนั้นจะมาแสดงตัวขอโทษ หรือยอมรับผิดชอบหรือไม่ แต่หลังผ่านไปก้ไม่มีใครมาแสดงตัว จนตนกับแม่ต้องไปขอดูจากกล้องวงจรปิดของหมู่บ้านที่ติดตั้งในจุดเกิดเหตุ หลังจากนั้นก็พบว่ามีรถกระบะคันหนึ่งขับออกไปจากหมู่บ้านในระหว่างที่สุนัขกำลังอยู่กลางถนน

ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ค่อนข้างสะเทือนใจ เนื่องจากแทนที่คนขับจะชะลอเมื่อเห็นสุนัข แต่ก็ยังขับชนและยังไม่ยอมลงมาดู โดยตนก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่าคนขับจะจงใจทำ และคิดว่าน่าจะเป็นอุบัติเหตุเสียมากกว่า แต่ตอนนี้ทางคนขับก็ยังคงไม่มาแสดงตัวและไม่มาขอโทษหรือยอมรับผิดชอบอะไรแต่อย่างใด ทั้งที่จริงๆ หากไม่ได้ตั้งใจเจ้าตัวก็น่าจะออกมาแสดงตัว หรือขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ไม่ใช่ทิ้งให้กลายเป็นความสงสัยว่าไม่ชอบสุนัขแล้วขับรถชน หรือมันเป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจกันแน่

สำหรับในเรื่องของทางกฎหมายนั้นตนก็รับทราบดีว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในลักษณะนี้เจ้าของเองก็มีส่วนผิด เนื่องจากปล่อยให้สัตว์เลี้ยงหลุดออกไปจนเกิดอุบัติเหตุเอง แต่ในส่วนของคนชนก็มีความผิดด้วยเช่นกัน และเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ทางตนกับแม่ก็ไม่อยากจะเอาเรื่อง แต่ที่ตัดสินใจโพสต์เรื่องราวที่เกิดขึ้นลงไปบนโลกโซเชียลเพราะอยากให้เป็นเหตุการณ์ที่อุทาหรณ์และไม่อยากให้เกิดขึ้นบ่อย โดยตัวของเจ้าของเองก็ควรจะดูแลสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงให้ดี และในส่วนของคนที่ขับรถก็ควรที่จะระมัดระวังเวลาขับรถแล้วเจอสุนัขอยู่กลางถนน ก็ควรจะชะลอรถหรือหยุดรถ หรือไม่ก็บีบแตรไล่เพื่อให้สุนัขหรือสัตว์เลี้ยงหลบให้ออกจากเส้นทาง ประกอบกับหมู่บ้านตนนั้นก็เป็นถนนช่วงระยะสั้นๆ ไม่เกิน 100 เมตร ก็ไม่ควรที่จะขับเร็ว และอยากให้คนขับรถได้เพิ่มความระมัดระวังในเรื่องของการขับขี่รถด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น