ตำรวจน่านเอาจริง! เด็กแว๊นท่อรถเสียงดัง จับยึดรถ มาไว้โรงพัก

ที่ สถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน ทางเจ้าหน้าที่ ได้ทำการจับยึดรถ ที่มีการดัดแปลงสภาพ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ท่อรถเสียงดัง มาไว้ที่โรงพัก โดยรถที่ยึดมาส่วนใหญ่นั้นเป็นรถของ กลุ่มเยาวชนที่แต่งซิ่ง มีการดัดแปลงสภาพรถและท่อ ทำให้เกิดเสียงดังรบกวนผู้อื่น และไม่ปลอดภัยต่อการขับขี่

โดยก่อนหน้านี้นั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน ว่ามีการแข่งขันจักรยานยนต์ และ การขี่รถเป็นกลุ่ม ของบรรดาวัยรุ่น โดยท่อรถนั้น มีเสียงดังรบการเวลาค่ำคืนในยามวิการ บางครั้ง ขึ้นขั้นนอกสะดุ้ง จึงได้มีการร้องเรียนมายัง สถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกวดขันดูแล กลุ่มวัยรุ่น เหล่านี้ เพื่อไม่ให้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน และ ยังสอดคร้องกับนโยบายของกรมตำรวจแห่งชาติเรื่องการห่วงใยประชาชนและผู้ขับขี่รถบนท้องถนน ซึ่งรถมอเตอร์ไซค์ เหล่านี้ ได้มีการดับแปลงสภาพรถต่างๆ เช่น เปลี่ยนขนาดล้อและยางให้เล็กลง ไม่มีกระจกมองหลัง เปลี่ยนท่อรถที่มีเสียงดัง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และ ป้ายภาษี อาจทำให้เกิดอันตรายในระหว่างการขับขี่และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้

โดยรถที่ทางเจ้าหน้าที่ ตรวจและยึดมานั้น มีหลักเกณฑ์การตรวจคือ มีการดับแปลงสภาพรถ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไม่มีกระจกมองหลัง และ มีท่อไอเสียที่มีเสียงดังเกินกว่า 95 เดซิเบล โดยรถที่มีท่อเสียงดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่ เมื่อตรวจยึดก็จะนำไปวัด ความดังกับ ต.ร.อ. หากมีเสียงดังเกินกว่า 95 เดซิเบล ก็จะทำการยึดรถไว้ก่อน และให้ทางเจ้าของรถ นำสมุดทะเบียนรถ หรือ สำเนา และนำท่อที่ถูกต้องตามกฏหมายมาเปลี่ยนที่โรงพัก และเสียค่าปรับ หากผู้ขับขี่ที่ยังเป็นเยาวชน ก็ให้ผู้ปกครองมารับทราบ เนื่องจากเยาวชนเหล่านี้นั้น ยังไม่สามารถหารายได้ได้ จึงต้องนำผู้ปกครองมารับทราบและสอบถามว่านำเงินจากที่ไหนไปแต่งรถจักรยานยนต์ และให้นำท่อที่ถูกต้องตามกฏหมายมาเปลี่ยนใส่ จึงจะสามารถคือรถให้กับเจ้าของรถได้

ทางด้าน พันตำรวจเอก ประยูร ชำนาญคง ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน ได้กล่าวว่า เป็นไปตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเรื่องการใช้รถใช้ถนนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตายบนท้องถนน และ มีชาวบ้านร้องเรียนเข้ามา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้กรวดขันเข้มงานตลอด ซึ่งในขณะนี้ ตั้งแต่เริ่มปราบปราม สามารถจับรถที่ดัดแปลงสภาพรถที่มีท่อเสียงดัง ได้มากกว่า 100 คันแล้ว จึงขอฝากเตือนผู้ปกครองที่ซื้อรถให้ลูก ให้บอกกล่าวบุตรหลานของตัวเองให้ ทำรถกลับคืนสู่สภาพเดิมเพื่อไม่ให้ถูกจับและต้องเสียเวลา มาเสียค่าปรับที่โรงพัก เนื่องจาก หากเป็นเยาวชน จะต้องแจ้งให้ผู้ปกครองมาที่โรงพักเพื่อรับทราบในกรณีนี้ด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น