เชียงใหม่ยังแชมป์พื้นที่ภาคเหนือ เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด 102 ครั้ง เสียชีวิต 8 ราย ขณะที่ทุกฝ่ายเกี่ยวข้องเร่งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย

รายงาน ผลการปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุในพื้นที่ห้วงวันหยุดยาวเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เชียงใหม่ยังแชมป์พื้นที่ภาคเหนือ เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดแล้ว 102 ครั้ง เสียชีวิต 8 ราย ขณะที่ทุกฝ่ายเกี่ยวข้องเร่งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย เน้นย้ำเฝ้าระวังอุบัติเหตุจนสิ้นสุดห้วงเทศกาล ขณะที่ภาพรวมยังลดลงจากสถิติปี 2560

วันที่ 2 มกราคม 2560 รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ในการประชุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 โดยมี นายกฤษณ์ ธนาวณิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานรับฟังรายงานผลการปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุในพื้นที่ห้วงวันหยุดยาวเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ โดยจากรายงานของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ของจังหวัดเชียงใหม่ ประจำวันที่ 1 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา พบว่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น จำนวน 16 ครั้ง โดยอำเภอที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นสูงสุด ประกอบด้วย อำเภอฝาง จำนวน 4 ครั้ง , อำเภอจอมทองและอำเภอฮอด จำนวน 2 ครั้ง ขณะที่ อำเภอดอยสะเก็ด พร้าว สันทราย สันป่าตอง เมืองเชียงใหม่ แม่ริม แม่วาง และ แม่อาย เกิดอุบัติเหตุขึ้นในพื้นที่จำนวน 1 ครั้ง โดยในวันดังกล่าวจากการเกิดอุบัติเหตุส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย และมีจำนวนผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 18 คน แบ่งเป็น ชาย 14 คน และหญิง 4 คน ซึ่งเกิดขึ้นที่อำเภอฝาง 7 คน อำเภอจอมทองและอำเภอฮอด จำนนวน 2 คน และที่ อำเภอดอยสะเก็ด พร้าว สันทราย สันป่าตอง เมืองเชียงใหม่ แม่ริม แม่วาง และ แม่อาย จำนวน 1 คน ขณะที่สาเหตุอันดับต้นๆ มาจากการเมาสุราแล้วขับมกาที่สุด 8 ครั้ง รองลงมาคือการขับรถเร็วเกินกำหนด 3 ครั้ง ส่วนยานพาหนะที่เกิดเหตุบ่อยเป็นรถจักรยานยนต์ รองลงมาคือรถปิคอัพ , รถตู้ และ รถ SUV/PPV

ขณะที่รายงานสถิติการเกิดอุบัติเหตุสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2560 จนถึวันที่ 1 มกราคม 2561 พบว่าจังหวัดเชียงใหม่มีสถิติอุบัติเหตุสูงที่สุดในพื้นที่ภาคเหนือ โดยจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจำนวน 102 ครั้ง เสียชีวิต 8 ราย และมีผู้บาดเจ็บจำนวน 105 คน และรองลงมาคือ จังหวัดเชียงราย โดยจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจำนวน 96 ครั้ง เสียชีวิต 6 ราย และมีผู้บาดเจ็บจำนวน 97 คน ส่วนอันดับ 3 คือจังหวัดลำปาง ที่มีสถิติจำนวนอุบัติเหตุเกิดขึ้น 60 ครั้ง เสียชีวิต 5 ราย และมีผู้บาดเจ็บจำนวน 63 คน ขณะที่อันดับ 4 คือ จังหวัดลำพูน มีสถิติจำนวนอุบัติเหตุเกิดขึ้น 45 ครั้ง เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บจำนวน 49 คน และอันดับ 5 คือ จังหวัดพะเยา มีสถิติจำนวนอุบัติเหตุเกิดขึ้น 35 ครั้ง เสียชีวิต 3 ราย และมีผู้บาดเจ็บจำนวน 33 คน ขณะที่อันดับ 6 คือที่จังหวัดแพร่ มีสถิติจำนวนอุบัติเหตุเกิดขึ้น 48 ครั้ง เสียชีวิต 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 59 คน อันดับ 7 คือ จังหวัดน่าน มีสถิติจำนวนอุบัติเหตุเกิดขึ้น 49 ครั้ง (ไม่มีผู้เสียชีวิต) และมีผู้บาดเจ็บ 51 คน ส่วนอันดับ 8 คือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีสถิติจำนวนอุบัติเหตุเกิดขึ้น 10 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 9 คน แต่อย่างไรก็ตามจากตารางการเทียบสถิติของการเกิดอุบัติเหตุ และจำนวนผู้เสียชีวิต รวมไปถึงจำนวนผู้บาดเจ็บพบว่ามีปริมาณลดลงเมื่อเทียบกับสถิติของปี 2560

ทั้งนี้ นายกฤษณ์ ธนาวณิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ว่า เครือข่ายสื่อมวลชนและการประชาสัมพันธ์ นับเป็นส่วนสำคัญที่สามารถช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดและอัตราเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ เนื่องจากสามารถเป็นสื่อกลางในการส่งข้อมูลข่าวสารในพื้นที่ เพื่อประสานการแก้ไขได้อย่างทันท่วงที และส่งข้อมูลประชาสัมพันธ์ กระจายให้ผู้ที่ใช้รถใช้ถนนได้รับทราบล่วงหน้า ก่อนจะเดินทางไปถึงบริเวณดังกล่าว และยังมีส่วนช่วยในการตัดสินใจในการเลือกใช้เส้นทางการเดินทางได้เป็นอย่างดี ช่วยลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาคับขันได้อีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้ ได้ขอความร่วมมือเครือข่ายสื่อมวลชนและการประชาสัมพันธ์ รวมถึงอาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านและชุมชน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ช่วยกันรายงานสถานการณ์และข้อมูลด้านการจราจรในพื้นที่ทางช่องทางที่ตนรับผิดชอบ เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 นี้

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยอีกว่า ขอให้ทุกภาคส่วนคุมเข้มมาตรการในการใช้รถ ใช้ถนน และการดูแลรักษาความปลอดภัย โดยให้มีการกวดขันวินัยจราจรอย่างเข้มงวด ในทุกจุดตรวจ จุดสกัด และจุดให้บริการประชาชน และขอกำชับให้ทุกศูนย์ฯดำเนินการตามมาตรการ 10 รสขม และ มาตรการ “4 ห้าม 2 ต้อง” อย่างเคร่งครัด รวมทั้งมาตรการ 777 ยกกำลัง 2 เพื่อลดพฤติกรรมเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจาก การขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด การเมาแล้วขับ และไม่สวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ด้วย นอกจากนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยังห่วงใยถึงผู้ที่จะเดินทางไปทำงานโดยรถโดยสารขนส่งสาธารณะทุกท่าน ก่อนออกเดินทางจากบ้านหรือที่พัก ให้เผื่อเวลาสำหรับการเดินทางไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสาร อย่างน้อย 30 นาที เพราะเกรงว่าอาจเกิดปัญหาการจราจรติดขัดในบางช่วงเวลา พร้อมทั้งย้ำให้ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ช่วยดูแลอย่าให้มีผู้โดยสารตกค้าง ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 นี้

ร่วมแสดงความคิดเห็น