เรือหางยาวโดยสาร ชาวเมียนมาล่มกลางน้ำสาละวิน จมน้ำหาย 3 ราย ด้านฝั่งไทยราษฎรไทย วอนเจ้าหน้าที่ ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบเรือฝั่งไทยที่ไม่มีเสื้อชูชีพ หรืออุปกรณ์ช่วยชีวิตติดในเรือ หวั่นเกิดอุบัติเหตุเหมือนฝั่งพม่า
เมื่อวันที่ 4 ม.ค.61 พ.อ.ภาส วงศ์สารภี ผบ.ฉก.ทพ.36 ค่ายเทพสิงห์ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ได้สั่งการให้ กองร้อยทหารพรานที่ 3603 จัดกำลังออกค้นหาคนสูญหาย จากเหตุเรือล่มกลางลำน้ำสาละวิน เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 61 ที่ผ่านมา โดยเรือที่ล่มกลางแม่น้ำสาละวิน มี นายซอเกลอทู อายุ 19 ปี ราษฎรชาวเมียนมา (ฝั่งตรงข้ามฐานฯ ออเลาะ) ขับเรือ บรรทุกผู้โดยสาร จำนวน 7 คน ในแม่น้ำสาละวิน จากบ้านจอท่า เพื่อไปส่งที่บ้านออเลาะ พื้นที่ตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน
เมื่อเดินทางถึงบริเวณแก่งแม่ข่อ พิกัด LA .381244 เรือได้ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำจมน้ำ มีผู้สูญหายจำนวน 3 คน คือ 1. นายกามู อายุ 22 ปี , 2.นางหน่อมือ อายุ 55 ปี , 3.นายอี โมน่า อายุ 23 ปี ทั้งหมดเป็นราษฎร (เมียนมา สัญชาติกะเหรี่ยง) ล่าสุดเมื่อค่ำวันนี้ เจ้าหน้าที่ที่ออกค้นหาผู้สูญหาย ยังไม่พบแต่อย่างใด
นายไวยิ่ง ทองบือ นักเคลื่อนไหวองค์กรเอกชน ระบุว่า เรือที่บริการโดยสารลำน้ำสาละวิน ไม่มีมาตรการความปลอดภัย บางลำไม่มีเสื้อชูชีพ สภาพเรือไม่ได้มาตรฐาน ผมเคยเจอมาแล้ว ช่วงล่องแก่งเรือดับกลางคัน ทุกคนแทบหยุดหายใจ เรือลอยตามลำน้ำเกือบกิโล กว่าจะนำเรือเข้าฝั่งได้ นึกแล้วใจหายใจคว่ำ ก่อนหน้านั้น เมื่อเดือน ธ.ค.60 ที่ผ่านมา ก็เกิดอุบัติเหตุ เรือล่มแถวๆบริเวณบ้านสบแงะ เห็นบอกว่านายท้ายเรือเมาเหล้า แล้วเรือไปชนโขดหินทำให้ผู้โดยสารลอยคอกลางลำน้ำ โชคดีที่ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ว่ายน้ำเป็น ทำให้ไม่มีใครเสียชีวิต
จึงอยากจะให้เจ้าหน้าที่ ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง เข้าไปดำเนินการจัดระเบียบการเดินเรือ และดูแลควบคุมให้เรือโดยสารที่ท่าเรือบ้านแม่สามแลบ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน มีอุปกรณ์ช่วยชีวิตติดประจำเรือทุกลำ หากเกิดเรือล่ม ผู้โดยสารจะได้ปลอดภัย
ร่วมแสดงความคิดเห็น