แค้นสะสม! ลูกเขยเจ้าของโรงเเรมใจเหี้ยม ยิงทิ้ง 3 ศพที่ อ.ปาย แม่ฮ่องสอน

เกิดเหตุสลด ลูกเขยเจ้าของโรงแรมติดร้านข้าวต้ม 25 น.เมืองปาย จ.แม่ฮ่องสอน ลากปืนสังหารเจ้าของร้าน เมีย และลูก ตายคาที่ 3 ศพ ขณะที่คนเมืองปายเศร้า หวั่นมีเหตุอีก จากธุรกิจบันเทิงกลางคืน ที่อยู่กลางชุมชนกระทบกับชาวบ้านมานานหลายสิบปี
เมื่อวันที่ 5 ม.ค.61 เวลา 08.30 น.พล.ต.ต.ปรีชา วิมลไชยจิต ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ได้รับรายงาน จาก สภ.ปาย ว่าเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ได้เกิดเหตุยิงกันตาย บริเวณร้านข้าวต้ม 25 น.และโรงแรมเรือนแฝด 2 ติดถนนหลวงหมายเลข 1095 ปาย – เชียงใหม่ ม.8 ต.เวียงใต้ อ.ปาย มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อเวลา 04.00 น. ร.ต.อ.รัชพล นุ้ยป้อม พงส.สภ.ปาย ได้รับแจ้งเหตุจากนายกิตติ อภัยภักดี ซึ่งเป็นลูกเขยเจ้าของโรงแรมเรือนแฝด 2 แจ้งเหตุว่าตนได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. และ ปืนลูกซองยาวยิง นายบัณฑิต จิระธนดล เจ้าของร้านข้าวต้ม 25 น. , นางเยาวลักษณ์ มูลมิรัตน์ ภรรยา นายบัณฑิต ฯ และ นายธนากร วิทยาบำรุง จนเสียชีวิตคาที่
ก่อนเกิดเหตุ ได้มีการยิงปืนขึ้นฟ้า บริเวณหน้าโรงแรมเรือนแฝด 2 ทำให้ นายบัณฑิต จิระธนดล และนายธนากร วิทยาบำรุง สามีและลูกที่อยู่ในร้าน ได้ไปต่อว่า นายกิตติ อภัยภักดี ซึ่งเป็นบุตรเขย ของเจ้าของโรงแรมเรือนแฝด 2 และมีหน้าที่ดูแลกิจการในโรงแรมดังกล่าว ทำให้นายกิตติ  ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.ยิงใส่นายบัณฑิต จิระธนดล และ นายธนากร วิทยาบำรุง สามีและลูก จนเสียชีวิตคาที่ จากนั้น นายกิตติ ผู้ก่อเหตุ ได้กลับเข้าไปในห้องแล้วนำปืนลูกซองยาว เดินมาที่ร้านข้าวต้ม 25 น.และใช้อาวุธปืนยิงนางเยาวลักษณ์ มูลมิรัตน์ จนเสียชีวิตเป็นรายที่ 3

จากการสอบสวนพยานแวดล้อมทราบว่า ก่อนหน้านั้น นายกิตติ และ นายบัณฑิต ได้มีปากเสียงทะเลาะกันมานานนับปี สาเหตุมาจากเรื่องเสียงดังในร้านข้าวต้ม ไปรบกวนลูกค้าที่พักโรงแรม จนลูกค้าต้องเช็คเอ้าท์ออกโรงแรมกลางดึก ส่งผลให้โรงแรมขาดรายได้ นอกจากนั้น ลูกค้าที่มาทานอาหารที่ร้านข้าวต้ม ส่วนใหญ่จะมีอาการมึนเมากินเหล้าและข้าวต้มส่งเสียงดังมาก รวมไปถึงลูกค้าส่วนหนึ่งนำรถไปจอดในที่จอดรถของโรงแรม ทำให้ผู้เข้าพักเมื่อกลับมาไม่มีที่จอดรถ ทำให้นายกิตติ เกิดความเครียดสะสม จนกระทั่งก่อเหตุโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นในครั้งนี้
แหล่งข่าวในเมืองปาย ที่เคยร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม อ.ปาย ระบุว่า สาเหตุหนึ่งมาจากการเปิดสถานบันเทิงเกินเวลา และเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ ไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมายาวนาน ทั้งนี้ถึงแม้ร้านข้าวต้มจะไม่ใช่สถานบันเทิง แต่ลูกค้าที่มาทานข้าวต้ม ส่วนใหญ่ร้อยละ 90 เป็นนักเที่ยวที่ไปท่องราตรีจนร้านปิด และพากันมากินเหล้าที่ร้านข้าวต้มต่อ และส่วนใหญ่มีการกินต่อเนื่องไปจนถึงรุ่งเช้า ส่งผลกระทบต่อผู้ที่อาศัยข้างเคียง ที่อยู่ระหว่างการนอนหลับพักผ่อน จนกลายเป็นเหตุสลดขึ้นมาในครั้งนี้

ร่วมแสดงความคิดเห็น