โรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่

โรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่หากเป็นโรคนี้แล้วอาจส่งผลกระทบที่ร้ายแรงกว่าโรคสมาธิสั้นในเด็ก มาสำรวจกันว่านิสัยของคุณเข้าข่ายโรคนี้ด้วยหรือเปล่า?

โรคสมาธิสั้น หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Attention-Deficit Hyperactivity Disorder (ADHD) เป็นภาวะความบกพร่องในการทำหน้าที่ของสมอง ส่งผลให้ผู้ป่วยมีความผิดปกติทางพฤติกรรม ซึ่งหากเกิดในเด็กอาจเรียกอีกอย่างว่าโรคเด็กซน แต่หากอาการของโรคแอบซ่อนจนรอดการรักษามาถึงวัยผู้ใหญ่ โรคสมาธิสั้นอาจส่งผลกระทบกับชีวิตและความสำเร็จในหน้าที่การงานได้เลยนะคะ ฉะนั้นเพื่อความแน่ใจ ลองมาเช็กกันหน่อยว่านิสัยที่เราเป็นอยู่ไม่ได้เข้าข่ายอาการของโรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่แน่ ๆ

โรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่

ที่เคยเข้าใจว่าโรคสมาธิสั้นเกิดได้กับเด็กวัยซนเท่านั้น ขอให้เปลี่ยนความคิดซะใหม่เลยค่ะ เนื่องจากวัยรุ่น วัยหนุ่มสาว หรือวัยผู้ใหญ่เต็มตัวก็สามารถเป็นโรคสมาธิสั้นได้ ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีอาการบ่งชี้ที่ติดตัวมาตั้งแต่ในวัยเยาว์ และอาการของโรคสมาธิสั้นนั้นไม่ได้รับการรักษา หรือรักษาแต่ไม่ต่อเนื่อง จนมีโรคนี้ติดตัวมาในวัยผู้ใหญ่ด้วย

ทั้งนี้โรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ

1. ผู้ป่วยโรคสมาธิสั้นที่มีอาการมาตั้งแต่เด็ก แต่ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี เมื่อเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ อาการของโรคจะถือว่าค่อนข้างอยู่ในเกณฑ์ปกติ สามารถใช้ชีวิตได้ปกติตามวัยทว่าก็อาจจะมีอาการของโรคสมาธิสั้นหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง เช่น ขี้หงุดหงิด เครียดง่าย ขี้โมโห หรือมีเรื่องกับญาติพี่น้องและเพื่อนร่วมงานบ่อย ๆ ทำให้ต้องเปลี่ยนงานอยู่เรื่อย รวมทั้งอาจมีนิสัยชอบใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่เคสนี้มักจะสามารถควบคุมตนเองได้พอสมควร หรืออาจมีความคิดสร้างสรรค์และสติปัญญาดีด้วยในบางคน

2. ผู้ป่วยโรคสมาธิสั้นที่ไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้องมาตั้งแต่เด็ก หรืออาจได้รับความกดดันจากผู้ใกล้ชิด ทำให้มีพัฒนาการที่ช้าลงเรื่อย ๆ จนกลายเป็นผู้มีอารมณ์ซึมเศร้า อารมณ์แปรปรวน ต้องประคับประคองอาการผิดปกติเหล่านี้ด้วยยาเป็นประจำ แต่ก็ยังอยู่ในขอบข่ายที่ใช้ชีวิตในสังคมได้ เพียงแต่ควรต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ

3. ผู้ป่วยโรคสมาธิสั้นที่ไม่รู้ตัวเองว่าเป็นโรค เคสนี้ในวัยเด็กจะดูปกติและฉลาดสมวัย ทำให้ไม่มีใครฉุกคิดว่าพฤติกรรมหุนหันพลันแล่น ก้าวร้าว อันธพาล ชอบความรุนแรง และไม่คิดก่อนทำของผู้ป่วยเป็นอาการของโรค แต่เข้าใจไปว่าเป็นแค่เพียงลักษณะนิสัยปกติเท่านั้น จนในที่สุดก็ไม่ได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้อง และอาจเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีปัญหาชีวิต มีปัญหาการเข้าสังคม และไม่ประสบผลสำเร็จในหน้าที่การงาน

ข้อมูล : Kapook

คลิกดูข่าวสุขภาพอื่นๆเพิ่มเติม

ร่วมแสดงความคิดเห็น